ข้ามไปเนื้อหา

เรือฟริเกตชั้นแอดมิรัลกรีกอโรวิช

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เรือนำ แอดมิรัลกรีกอโรวิช ที่ทอดสมอ
ภาพรวมชั้น
ชื่อ: ชั้นแอดมิรัลกรีกอโรวิช[1]
ผู้สร้าง:
ผู้ใช้งาน:
ก่อนหน้าโดย:
สร้างเมื่อ: ค.ศ. 2010–ปัจจุบัน
ในประจำการ: ค.ศ. 2016–ปัจจุบัน
วางแผน: 7 ลำ
กำลังสร้าง: 3 ลำ
เสร็จแล้ว: 3 ลำ
ใช้การอยู่: 3 ลำ
ลักษณะเฉพาะ
ประเภท: เรือฟริเกตขีปนาวุธนำวิถี
ขนาด (ระวางขับน้ำ):
  • มาตรฐาน: 3,620 ตัน
  • เต็ม: 4,000 ตัน[2]
ความยาว: 124.8 m (409 ft)
ความกว้าง: 15.2 m (50 ft)
กินน้ำลึก: 4.2 m (14 ft)
ระบบขับเคลื่อน:
  • 2 เพลาแก๊สรวมและแก๊ส;
  • 2 กังหันแก๊สเดินเรือ ดีเอส-71 8,450 แรงม้าเพลา (6,300 กิโลวัตต์);
  • 2 กังหันแก๊สเสริมแรงดัน ดีที-59 22,000 แรงม้าเพลา (16,000 กิโลวัตต์);
  • รวม: 60,900 แรงม้าเพลา (45,400 กิโลวัตต์)
  • หรือ
  • เสริม เอ็ม90เอฟอาร์ เอฟอาร์ยู 20 (25/28) เมกะวัตต์ 2 ชุด, เอ็ม70เอฟอาร์ยู-2 เดินเรือ 14 เมกะวัตต์, 8 เมกะวัตต์ 2 ชุด
  • รวม = 56–68 เมกะวัตต์
ความเร็ว: 30 kn (56 km/h; 35 mph)
พิสัยเชื้อเพลิง: 4,850 ไมล์ทะเล (8,980 กม.; 5,580 ไมล์) ที่ 14 kn (26 km/h; 16 mph)
พิสัยปฏิบัติการ: 30 วัน
อัตราเต็มที่: 200 นาย
ระบบตรวจการและปฏิบัติการ:
  • เรดาร์ตรวจการณ์ทางอากาศ: เฟรกอต เอ็ม2เอ็ม
  • เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ: 3ทีเอส-25 การ์ปัน-บี, เอ็มอาร์-212/201-1, นิวเคลียส-2 6000เอ
  • เรดาร์ควบคุมการยิง: เจเอสซี 5พี-10 พูมา เอฟซีเอส, 3อาร์14เอ็น-11356 เอฟซีเอส, เอ็มอาร์-90 โอเรค แซม เอฟซีเอส
สงครามอิเล็กทรอนิกส์และเป้าลวง:
  • ชุดสงครามอิเล็กทรอนิกส์: ทีเค-25-5;
  • ระบบมาตรการต่อต้าน:
  • เคที-216 จำนวน 4 แท่น
  • ยุทโธปกรณ์:
  • ปืนเรือเอ-190 อาร์เซนอล 100 มม. 1 กระบอก
  • แท่นยิงยูเคเอสเค วีแอลเอส สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนต่อต้านเรือผิวน้ำคาลิบร์, โอนิกส์ หรือเซอร์คอน 8 ท่อยิง (2 ระบบ 4 ท่อยิง)[3]
  • บราห์มอสสำหรับสายพันธุ์อินเดีย[4]
  • แท่นยิง3เอส90เอ็ม วีแอลเอส 24 ท่อยิง (2 ระบบ 12 ท่อยิง) สำหรับขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ 9เอ็ม317เอ็ม
  • ระบบป้องกันตัวเองระยะประชิดเอเค-630 จำนวน 2 ระบบ
  • อิกลา-เอส หรือเวอร์บา 8 ท่อยิง
  • ท่อยิงตอร์ปิโดคู่ 533 มม. 2 แท่น
  • เครื่องยิงจรวดอาร์บียู-6000 จำนวน 1 ระบบ
  • อากาศยาน: เฮลิคอปเตอร์ซีรีส์คา-27 1 ลำ
    อุปกรณ์สนับสนุนการบิน: ลานจอดเฮลิคอปเตอร์และโรงเก็บเครื่องบินสำหรับเฮลิคอปเตอร์หนึ่งลำ

    ชั้นแอดมิรัลกรีกอโรวิช (อังกฤษ: Admiral Grigorovich class) หรือที่เรียกว่าชั้นคริวัค IV (อังกฤษ: Krivak IV class) ซึ่งรัสเซียเรียกขานในฐานะโปรเจกต์ 11356พี/เอ็ม (รัสเซีย: Фрегаты проекта 11356; อังกฤษ: Project 11356Р/М) เป็นชั้นเรือฟริเกตที่สร้างโดยอู่ต่อเรือยันตาร์สำหรับกองทัพเรือรัสเซียและกองทัพเรืออินเดีย ซึ่งยึดแบบตามชั้นตัลวาร์ เรือหกลำได้รับคำสั่งสำหรับกองเรือทะเลดำของรัสเซียภายใต้สัญญาสองฉบับในปี ค.ศ. 2010 และ 2011 ในฐานะส่วนเสริมของเรือฟริเกตชั้นแอดมิรัลกอร์ชคอฟ[5]

    ประวัติ

    [แก้]

    ภายในปี ค.ศ. 2010–2011 มีการตัดสินใจว่ากองทัพเรือรัสเซียจะจัดหาเรือหกลำตามการออกแบบชั้นตัลวาร์ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วสาเหตุหลักมาจากความล่าช้าในการผลิตเรือฟริเกตแอดมิรัลกอร์ชคอฟซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเนื่องจากความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับเรือฟริเกตลำใหม่ที่จำเป็นสำหรับการปรับปรุงกองเรือทะเลดำให้ทันสมัย[6] อู่ต่อเรือยันตาร์ได้รับสัญญาในการก่อสร้างเรือฟริเกตและเรือสามลำจะแล้วเสร็จในสี่ปี ก่อนหน้านี้ เรือหกลำที่มีการออกแบบเดียวกันซึ่งเรียกว่าชั้นตัลวาร์ ได้รับการสร้างขึ้นสำหรับกองทัพเรืออินเดียระหว่างปี ค.ศ. 1999 ถึง 2011 โดยอู่ต่อเรือบอลติก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และอู่ต่อเรือยันตาร์ คาลีนินกราด[7]

    เรือนำ แอดมิรัลกรีกอโรวิช ได้รับการวางกระดูกงูเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2010 และขึ้นระวางเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2016[8][9]

    แรกเริ่มเดิมที ซอร์ยา-แมชโพรเอกต์ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของยูเครนกำลังจัดหากังหันแก๊สสำหรับเรือฟริเกตของรัสเซีย[10] แต่หลังจากวิกฤตการณ์ยูเครน ทางยูเครนกล่าวว่าจะไม่จัดส่งเครื่องยนต์อีกต่อไป[11] แซตเทิร์นซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตของรัสเซียจึงได้รับการขอให้จัดส่งกังหันแก๊สเอ็ม90เอฟอาร์ ทางเลือกแทน[12]

    ตั้งแต่เดือนตุลาคม ค.ศ. 2016 มีการอ้างถึงเรือฟริเกตสามลำที่ไม่สมบูรณ์คือแอดมิรัลบูตาคอฟ, แอดมิรัลอิสโตมิน และแอดมิรัลคอร์นีลอฟ ว่าการก่อสร้างนั้นถูกระงับในปี ค.ศ. 2015 เนื่องจากทางยูเครนปฏิเสธที่จะจัดส่งโรงผลิตกำลังกังหันแก๊ส จึงได้พิจารณาที่จะขายให้แก่อินเดีย[13] ซึ่งกองทัพเรือรัสเซียได้คัดค้านการส่งออกนี้[14]

    เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2017 บริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมการต่อเรือ (USC) ประกาศว่าจะกลับมาดำเนินการสร้างเรือฟริเกตสามลำสุดท้ายในปี ค.ศ. 2018 และต่อมาเรือรบเหล่านั้นจะเข้าร่วมกับกองทัพเรือรัสเซีย การตัดสินใจกลับมาทำงานใหม่เกิดขึ้นหลังจากการทดสอบเบื้องต้นของเอ็ม70เอฟอาร์ยู (14 เมกะวัตต์) และเอ็ม90เอฟอาร์ (20 เมกะวัตต์, สูงสุด 25-28 เมกะวัตต์) ซึ่งเป็นเครื่องยนต์กังหันแก๊สรุ่นล่าสุดของรัสเซีย ที่ออกแบบและสร้างโดยโรงงานเอ็นพีโอ แซตเทิร์น[12] ด้วยการเข้าถึงเครื่องให้กำลังทางเลือก เชื่อกันว่าเรือรบเหล่านี้ยังคงประจำการในรัสเซีย[15][16] ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2017 เอ็นพีโอ แซตเทิร์น ประสบความสำเร็จในสามโครงการการวิจัยและพัฒนาของเครื่องยนต์แก๊สเอ็ม90เอฟอาร์, อะกรีเกต-ดีเควีพี และเอ็ม70เอฟอาร์ยู-อาร์ ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014[17]

    อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2018 ได้มีการตัดสินใจขายเรือฟริเกตที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ของแอดมิรัลบูตาคอฟ และแอดมิรัลอิสโตมิน ให้แก่กองทัพเรืออินเดียภายใต้สัญญามูลค่า 950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อู่ต่อเรือยันตาร์ในคาลีนินกราดจะดำเนินงานที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อทำให้เรือฟริเกตเหล่านี้เสร็จสิ้น[18][19] ก่อนที่จะส่งมอบให้อินเดียในครึ่งแรกของปี ค.ศ. 2024[20]

    ประวัติปฏิบัติการ

    [แก้]

    เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 ในฐานะส่วนหนึ่งของการแทรกแซงทางทหารของรัสเซียในสงครามกลางเมืองซีเรีย เรือแอดมิรัลกรีกอโรวิชได้กรีธาพลสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นครั้งแรก[21] และเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 เรือนี้ได้ปล่อยขีปนาวุธร่อนคาลิบร์ใส่เป้าหมาย ทั้งไอซิสและอัลนุสเราะ ในจังหวัดอิดลิบและฮอมส์ของประเทศซีเรีย โดยทำลายโกดังเก็บอาวุธยุทธภัณฑ์, ศูนย์ชุมนุมและศูนย์ฝึก ตลอดจนโรงงานผลิตอาวุธ[22][23]

    เรือแอดมิรัลกรีกอโรวิชได้กรีธาพลสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอีกครั้งเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2017 หลังจากสหรัฐยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรีย[24]

    การส่งออก

    [แก้]

    ในฐานะส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่ลงนามเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2018 สำหรับการส่งมอบเรือฟริเกตแอดมิรัลบูตาคอฟ และแอดมิรัลอิสโตมิน ไปยังกองทัพเรืออินเดีย โรโซโบโรนเอ็กซ์ปอร์ตและอู่ต่อเรือกัวได้ลงนามในสัญญาเพิ่มเติมสำหรับเรือฟริเกตชั้นแอดมิรัลกรีกอโรวิชอีกสองลำเพื่อรับใบอนุญาตสร้างที่อู่ต่อเรือกัวในประเทศอินเดีย ภายใต้สัญญาดังกล่าว ทางรัสเซียจะให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีแก่อินเดียในการสร้างเรือฟริเกตด้วยตนเอง ค่าใช้จ่ายขั้นสุดท้ายของเรือทั้งสองลำยังไม่ได้กำหนด แต่คาดว่าจะอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกองทัพเรืออินเดียควรได้รับเรือในปี ค.ศ. 2026 และ 2027 ตามลำดับ[18][19][25]

    เรือ

    [แก้]
    ชื่อ ตั้งชื่อตาม ผู้สร้าง วางกระดูกงู ปล่อยลงน้ำ สั่งต่อเรือ กองเรือ สถานะ
    Naval flag of รัสเซีย กองทัพเรือรัสเซีย
    แอดมิรัลกรีกอโรวิช อีวาน คอนสตันติโนวิช กรีกอโรวิช ยันตาร์ คาลีนินกราด 18 ธันวาคม ค.ศ. 2010 14 มีนาคม ค.ศ. 2014[26] 11 มีนาคม ค.ศ. 2016[27] ทะเลดำ ประจำการ
    แอดมิรัลเอสเซน นิโคไล ออตโตวิช เอสเซน ยันตาร์ คาลีนินกราด 8 กรกฎาคม ค.ศ. 2011[28][29] 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 2014[30] 7 มิถุนายน ค.ศ. 2016[31] ทะเลดำ ประจำการ
    แอดมิรัลมาคารอฟ[32][33][34] สเตปัน โอซีโปวิช มาคารอฟ ยันตาร์ คาลีนินกราด 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012[35][36] 2 กันยายน ค.ศ. 2015[37] 27 ธันวาคม ค.ศ. 2017[38] ทะเลดำ ประจำการ
    ไม่รวมแอดมิรัลคอร์นิลอฟ ยันตาร์ คาลีนินกราด 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017[39] ภายในปี ค.ศ. 2026[40] อยู่ระหว่างการสร้าง
    Naval flag of อินเดีย กองทัพเรืออินเดีย
    ไม่รวมแอดมิรัลบูตาคอฟ ยันตาร์ คาลีนินกราด 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2013[41] 5 มีนาคม ค.ศ. 2016[42] ภายในปี ค.ศ. 2024[40] อยู่ระหว่างการสร้าง
    ไม่รวมแอดมิรัลอิสโตมิน ยันตาร์ คาลีนินกราด 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013[43] 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017[39] ภายในปี ค.ศ. 2024[40] อยู่ระหว่างการสร้าง

    อ้างอิง

    [แก้]
    1. ""Адмирал Григорович"" (ภาษารัสเซีย). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 มกราคม 2016. สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2016.
    2. "Russian missile frigate holds gunnery exercise in East Mediterranean". TASS. 14 October 2019. สืบค้นเมื่อ 3 November 2019.
    3. "Archived copy". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-23. สืบค้นเมื่อ 2017-06-02.{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
    4. https://tass.com/defense/1045796
    5. "На фрегате "Адмирал Григорович" поднят Андреевский флаг - Еженедельник "Военно-промышленный курьер"". vpk-news.ru (ภาษารัสเซีย). 11 มีนาคม 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 ธันวาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 5 สิงหาคม 2016.
    6. Admiral Gorshkov Frigate Reveals Serious Shortcomings in Russia’s Naval Modernization Program เก็บถาวร 2016-10-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Center for Strategic and International Studies, March 2016
    7. "В Калининграде заложили первый фрегат нового проекта для ВМФ РФ | Оборона и безопасность | Лента новостей "РИА Новости"" (ภาษารัสเซีย). Rian.ru. 18 ธันวาคม 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 ธันวาคม 2010. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016.
    8. "St. Andrew flag hoisted on Russia's Project 11356 lead frigate". TASS. 11 มีนาคม 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 กันยายน 2016. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016.
    9. LaGrone, Sam (9 มิถุนายน 2016). "Russian Black Sea Fleet Gets First New Frigate Since Cold War". usni.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 สิงหาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 5 สิงหาคม 2016.
    10. LaGrone, Sam (10 มิถุนายน 2015). "Russian Navy Faces Surface Modernization Delays Without Ukrainian Engines, Officials Pledge to Sue". usni.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 มกราคม 2017. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016.
    11. "Russia hoping to export three sanction-hit Admiral Grigorovich-class frigates". Jane's Defence Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-10-16.
    12. 12.0 12.1 Jones, Bruce (6 June 2017). "USC announces restart of Project 11356 frigates". IHS Jane's 360. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 June 2017. สืบค้นเมื่อ 8 June 2017.
    13. "India, Russia sign 16 agreements across multiple sectors". firstpost.com. 11 มีนาคม 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2016. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016.
    14. "Archived copy". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-26. สืบค้นเมื่อ 2017-04-29.{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
    15. "Три фрегата проекта 11356 будут достроены для ВМФ России с российскими газотурбинными агрегатами". bmpd.livejournal.com (ภาษารัสเซีย). 3 มิถุนายน 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 มิถุนายน 2017.
    16. "Russia to resume the construction of the "last three" Project 11356 frigates in 2018". navyrecognition.com. 3 มิถุนายน 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 มิถุนายน 2017.
    17. "Russian Navy to Get First Serial Home-Made Gas Turbines in 2019". mil.today. 23 May 2018. สืบค้นเมื่อ 31 May 2020.
    18. 18.0 18.1 "Russia, India sign contracts on building 4 Project 11356 frigates". TASS. 20 October 2018. สืบค้นเมื่อ 31 May 2020.
    19. 19.0 19.1 "India signs contracts to purchase 4 Admiral Grigorovich-class frigates from Russia". thedefensepost. 20 November 2018. สืบค้นเมื่อ 31 May 2020.
    20. "Russia to deliver two Project 11356 frigates to India in first half of 2024". TASS. 6 February 2020. สืบค้นเมื่อ 31 May 2020.
    21. "Russia's state-of-the-art frigate Admiral Grigorovich sets off to Syria". Pravda. 3 พฤศจิกายน 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2016. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016.
    22. "Russian carrier takes part in massive strikes on terrorists in Syria's Idlib & Homs provinces – MoD". RT International (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-16. สืบค้นเมื่อ 2016-11-15.
    23. Sputnik. "Russian Admiral Grigorovich Frigate Targets Terrorists in Syria With Missiles". sputniknews.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-16. สืบค้นเมื่อ 2016-11-15.
    24. LeGrone, Sam (7 เมษายน 2017). "Russia Sends Frigate to Mediterranean Following U.S. Retaliation Strike; U.S. Destroyers Remain on Station". usni.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 เมษายน 2017. สืบค้นเมื่อ 9 เมษายน 2017.
    25. "India, Russia sign $500 million navy deal for 2 stealth frigates". hindustantimes.com. 20 November 2018. สืบค้นเมื่อ 31 May 2020.
    26. "The Yantar shipyard in Russia's Baltic exclave of Kaliningrad on Friday floated out the first in a series of six Project 11356 frigates being built for the Black Sea Fleet, the company said". Sputnik. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-14.
    27. "ПСЗ "Янтарь" сдал "Адмирала Григоровича" » Ресурс машиностроения. Новости машиностроения, статьи. Каталог машиностроительных заводов и предприятий". i-mash.ru (ภาษารัสเซีย). 10 มีนาคม 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 ตุลาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 5 สิงหาคม 2016.
    28. "На заводе "Янтарь" началось строительство корабля для ВМФ России (фото)" (ภาษารัสเซีย). Kaliningrad.ru. 8 กรกฎาคม 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 มกราคม 2012. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016.
    29. ""Адмирал номер два": фоторепортаж "Нового Калининграда.Ru"" (ภาษารัสเซีย). Newkaliningrad.ru. 8 กรกฎาคม 2011. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 สิงหาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016.
    30. "Admiral Essen frigate to be handed to Russian Navy by end of 2015". ITAR TASS. 7 พฤศจิกายน 2014. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2014. สืบค้นเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2014.
    31. Novichkov, Nikolai (9 มิถุนายน 2016). "Russian Navy receives Admiral Essen frigate". janes.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 สิงหาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 5 สิงหาคม 2016.
    32. "Новые фрегаты для ВМФ России получат имена царских адмиралов". flot.com (ภาษารัสเซีย). 8 ธันวาคม 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016.
    33. "First frigate of the new project was laid down in Kaliningrad for Russian Navy". rusnavy.com. 20 ธันวาคม 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 มิถุนายน 2017. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016.
    34. "New frigate laid down at Yantar shipyard in Kaliningrad". ITAR-TASS (ภาษารัสเซีย). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-13. สืบค้นเมื่อ 2011-12-28.
    35. Gavrilenko, Andrew (25 กุมภาพันธ์ 2012). "Флоту – новый фрегат". redstar.ru (ภาษารัสเซีย). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 มิถุนายน 2017. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016.
    36. "Russia to Lay Down New Frigate for Navy | Defense | RIA Novosti". En.rian.ru. 2012-02-28. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-08. สืบค้นเมื่อ 2014-03-08.
    37. "В Калининграде спустили на воду новейший фрегат "Адмирал Макаров"". flotprom.ru (ภาษารัสเซีย). 2 กันยายน 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 ตุลาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016.
    38. "На новейшем фрегате "Адмирал Макаров" поднят Андреевский флаг" (Press release) (ภาษารัสเซีย). Ministry of Defence (Russia). 27 ธันวาคม 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม 2017.
    39. 39.0 39.1 "Yantar Shipyard Launched Two Project 11356 Frigates in Kaliningrad". navyrecognition.com. 16 พฤศจิกายน 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2017. สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2017.
    40. 40.0 40.1 40.2 https://thediplomat.com/2020/02/russia-to-deliver-2-guided-missile-frigates-to-india-by-2024/
    41. "Russia Lays Down New Frigate for Black Sea Fleet". En.ria.ru. 13 July 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-05. สืบค้นเมื่อ 5 November 2016.
    42. "Rosja: W Kaliningradzie zwodowano fregatę rakietową. Bez zainstalowanej siłowni" (ภาษาโปแลนด์). defence24.pl. 5 มีนาคม 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 พฤษภาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016.
    43. "Baltic Shipyard Starts Work on New Frigate for Russian Navy". RIA Novosti. 15 พฤศจิกายน 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 สิงหาคม 2014. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2016.

    แหล่งข้อมูลอื่น

    [แก้]