เดอะลาสต์ออฟอัส
เดอะลาสต์ออฟอัส | |
---|---|
![]() ภาพหน้าปกของวิดีโอเกมเดอะลาสต์ออฟอัส แสดงตัวละครหลัก คือโจล (ซ้าย) และเอลลี (ขวา) | |
ผู้พัฒนา | นอตีด็อก |
ผู้จัดจำหน่าย | โซนี่อินเตอร์แอ็กทีฟเอ็นเตอร์เทนเมนต์ |
กำกับ | |
ออกแบบ | จาค็อบ มินคอฟ |
โปรแกรมเมอร์ |
|
ศิลปิน |
|
เขียนบท | นีล ดรักแมนน์ |
แต่งเพลง | กุสตาโว ซันตาโอลายา |
ชุด | เดอะลาสต์ออฟอัส |
เครื่องเล่น | |
วางจำหน่าย | เพลย์สเตชัน 3
|
แนว | แอ็กชันผจญภัย |
รูปแบบ | ผู้เล่นเดี่ยว, หลายผู้เล่น |
เดอะลาสต์ออฟอัส (อังกฤษ: The Last of Us) เป็นวิดีโอเกมแนวแอ็กชันผจญภัยสยองขวัญเอาชีวิตรอด พัฒนาโดยนอตีด็อก และจัดจำหน่ายโดยโซนี่อินเตอร์แอ็กทีฟเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เดอะลาสต์ออฟอัส วางจำหน่ายครั้งแรกลงเครื่องเพลย์สเตชัน 3 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 ผู้เล่นได้ควบคุมโจล นักค้าอาวุธที่ได้รับมอบหมายให้พาตัวเด็กสาววัยรุ่นชื่อ เอลลี ทั่วแดนโลกหลังพยากรณ์ในสหรัฐ เดอะลาสต์ออฟอัสเล่นจากมุมมองบุคคลที่สาม ผู้เล่นใช้อาวุธปืนและอาวุธประกอบ และสามารถใช้การลอบเร้นเพื่อป้องกันภัยจากศัตรูที่เป็นมนุษย์และสัตว์ประหลาดกินคนที่ติดเชื้อจากเห็ดราสายพันธุ์คอร์ดีเซปส์ที่กลายพันธุ์ ในระบบผู้เล่นหลายคน ผู้เล่นสามารถเล่นแบบร่วมมือกันหรือแข่งขันกันได้ถึงแปดคน
การพัฒนาเกมเดอะลาสต์ออฟอัสเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2552 ซึ่งเป็นเวลาไม่นานหลังนอตีดอกออกเกมอันชาร์ทิด 2: อะมังทีฟส์ ความสัมพันธ์ระหว่างโจลและเอลลีกลายเป็นจุดสำคัญของเกม และพัฒนาองค์ประกอบอื่น ๆ ควบคู่กันไป นักแสดง ทรอย เบเกอร์ และแอชลีย์ จอห์นสัน รับบทโจล และเอลลี ตามลำดับ โดยให้เสียงพากย์และแสดงประกอบการเคลื่อนไหว (motion capture) ดนตรีประกอบประพันธ์และบรรเลงโดย กุสตาโว ซันตาโอลายา
หลังประกาศในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2554 เดอะลาสต์ออฟอัสเป็นที่คาดหวังอย่างกว้างขวาง หลังเกมออกจำหน่าย เกมได้รับคำยกย่องเป็นสากล โดยยกย่องเนื้อเรื่อง ระบบเกม การออกแบบภาพและเสียง การกำหนดตัวละคร และการพรรณนาตัวละครเพศหญิง เดอะลาสต์ออฟอัส กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ขายดีที่สุดสำหรับเพลย์สเตชัน 3 โดยขายได้มากกว่า 1.3 ล้านหน่วยในสัปดาห์แรก และมากกว่าแปดล้านหน่วยในเวลาสิบสี่เดือน เกมได้รับรางวัลประจำปีหลายรางวัล ได้แก่ รางวัลเกมแห่งปีจากสำนักพิมพ์เกม นักวิจารณ์ และงานประกาศรางวัลต่าง ๆ ทำให้เป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และจัดว่าเป็นหนึ่งในวิดีโอเกมที่ดีที่สุดตลอดกาล
หลังเกมออกจำหน่าย นอตีด็อกออกเนื้อหาเสริมให้ดาวน์โหลด ได้แก่เดอะลาสต์ออฟอัส: เลฟต์บีไฮนด์ โดยเพิ่มเนื้อเรื่องแบบผู้เล่นคนเดียวเกี่ยวกับเอลลีและเพื่อนสนิทของเธอชื่อ ไรลีย์ เกมฉบับปรังปรุงในชื่อ เดอะลาสต์ออฟอัส รีมาสเตอด์ ออกจำหน่ายลงเครื่องเพลย์สเตชัน 4 ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2557 มีการประกาศเกมภาคต่อ เดอะลาสต์ออฟอัส พาร์ท II ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 และกำลังมีโปรเจกต์วิดีโอเกมผู้เล่นหลายคนในจักรวาลชื่อว่า เดอะลาสต์ออฟอัส แฟคชั่นส์
ความสำเร็จของวิดีโอเกม ทำให้เกิดการรีเมค รีมาสเตอร์ในชื่อว่า เดอะลาสต์ออฟอัส ภาค 1 รวมถึงสร้างเป็นละครชุดในชื่อเดียวกัน โดยเอชบีโอ ที่ประสบความสำเร็จในด้านคำวิจารณ์และยอดผู้ชมจนได้รับการต่อฤดูกาลที่ 2 ตั้งแต่ตอนที่ 2 ของฤดูกาลที่ 1 เพิ่งออกฉาย นำแสดงโดย เพโดร ปาสคาล และ เบลล่า แรมซีย์ ในบท โจล และ เอลลี่
ระบบเกม
[แก้]เดอะลาสต์ออฟอัสเป็นเกมแอ็กชันผจญภัยสยองขวัญเอาชีวิตรอด เล่นจากมุมมองบุคคลที่สาม[1] ผู้เล่นจะต้องเดินทางตามสิ่งแวดล้อมของโลกหลังพยากรณ์ เช่น เมือง อาคาร และท่อระบายน้ำ เพื่อดำเนินเนื้อเรื่อง ผู้เล่นใช้อาวุธปืน อาวุธประกอบ และการลอบเร้นเพื่อป้องกันตนเองจากศัตรูที่เป็นมนุษย์และสัตว์ประหลาดกินคนที่ติดเชื้อเห็ดราสายพันธุ์คอร์ดิเซปส์ ที่กลายพันธุ์ ผู้เล่นได้ควบคุมโจล เป็นส่วนใหญ่ โจลเป็นคนที่ได้รับมองหมายให้พาตัวเด็กสาววัยรุ่นชื่อ เอลลี เดินทางข้ามสหรัฐ โดยที่ในเกมเอลลีและเพื่อนคนอื่น ๆ จะมีปัญญาประดิษฐ์ควบคุม[2] ผู้เล่นได้ควบคุมเอลลีในเนื้อเรื่องช่วงฤดูหนาว[3]
ในการต่อสู้ ผู้เล่นสามารถใช้อาวุธพิสัยระยะไกล เช่น ปืนไรเฟิล ปืนลูกซอง และธนู และอาวุธพิสัยระยะสั้น เช่น ปืนพก และปืนลูกซองเล็ก ผู้เล่นสามารถเก็บอาวุธโจมตีระยะประชิดที่ใช้ได้จำกัด เช่น ท่อน้ำ และไม้เบสบอล และสามารถขว้างขวดน้ำและก้อนอิฐเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ทำให้ศัตรูชะงัก หรือใช้โจมตีศัตรูได้[4] ผู้เล่นสามารถเพิ่มความสามารถให้อาวุธที่โต๊ะงานช่างโดยใช้สิ่งของที่เก็บมาได้ เครื่องมือต่าง ๆ เช่น ชุดปฐมพยาบาล และระเบิดขวด สามารถหาเก็บหรือใช้สิ่งของประกอบขึ้นมาได้ มาตรวัดพลังชีวิตและความเร็วในการประกอบของสามารถเพิ่มได้โดยเก็บยาเม็ดและสมุนไพร ใช้ชุดปฐมพยาบาลเพื่อเพิ่มพลังชีวิต[5]
แม้ว่าผู้เล่นสามารถโจมตีศัตรูได้โดยตรง พวกเขาสามารถใช้การลอบเร้นเพื่อจู่โจมศัตรูโดยไม่ได้ถูกจับได้ได้ "โหมดฟัง" ทำให้ผู้เล่นระบุตำแหน่งของศัตรูได้ผ่านการได้ยินและการระวังตัว บ่งบอกด้วยโครงร่างที่มองเห็นทะลุกำแพงและวัตถุต่าง ๆ ได้[6] ในระบบคุ้มกันแบบพลวัต ผู้เล่นย่องไปด้านหลังสิ่งกีดขวางเพื่อให้เกิดการได้เปรียบเชิงกุลยุทธ์ในระหว่างโจมตี[7] เกมมีช่วงเวลาที่ไม่มีการปะทะกัน โดยมักจะเป็นการสนทนาระหว่างตัวละคร[8] ผู้เล่นแก้ปริศนาง่าย ๆ ได้ เช่น การใช้แพไม้ลอยน้ำมารับตัวเอลลี ซึ่งไม่สามารถว่ายน้ำได้ ให้ข้ามผิวน้ำไปได้ และใช้บันไดหรือถังขยะในการปีนขึ้นที่สูง ของสะสมในเกม เช่น บันทึก แผนที่ และหนังสือการ์ตูน สามารถหาเก็บและเปิดดูได้ในเมนูกระเป๋าสะพาย[9]
เกมมีระบบปัญญาประดิษฐ์ ศัตรูที่เป็นมนุษย์ตอบโต้กับการต่อสู้ ถ้าศัตรูเจอผู้เล่น พวกเขาจะหลบหรือเรียกขอความช่วยเหลือ และสามารถเอาเปรียบผู้เล่นเมื่อพวกเขาถูกเบนความสนใจ กระสุนหมด หรือระหว่างต่อสู้ เพื่อนของผู้เล่น เช่น เอลลี สามารถช่วยต่อสู้โดยขว้างวัตถุเพื่อให้ศัตรูชะงัก ประกาศให้รู้ตำแหน่งของศัตรู หรือใช้มีดและปืนพกเพื่อโจมตีศัตรู[10]
เนื้อเรื่อง
[แก้]ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2556 ได้เกิดการระบาดขึ้นของเชื้อรากลายพันธุ์ชื่อ คอร์ดีเซปส์ ในสหรัฐอเมริกา ทำให้มนุษย์กลายเป็นสัตว์ประหลาดกินคน รู้จักในชื่อ ผู้ติดเชื้อ (infected) ในชานเมืองออสติน รัฐเท็กซัส โจล (ทรอย เบเกอร์) หนีจากความโกลาหลกับน้องชายชื่อ ทอมมี (เจฟฟรีย์ เพียร์ซ) และลูกสาวชื่อ ซาราห์ (ฮานา เฮส์) ขณะพวกเขาหนี ซาราห์ถูกทหารคนหนึ่งยิงและเสียชีวิตในอ้อมแขนของโจล ยี่สิบปีถัดมา อารยธรรมมนุษย์ส่วนใหญ่ได้ล่มสลายลงเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อรา ผู้รอดชีวิตอาศัยอยู่ในเขตกักกันที่มีทหารคุ้มกันอย่างเข้มงวด ในชุมชนอิสระ และกลุ่มคนเร่ร่อน โจลทำงานเป็นผู้ลอบค้าอาวุธร่วมกับเพื่อนชื่อ เทสส์ (แอนนี เวอร์ชิง) ในเขตกักกันที่บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ พวกเขาตามล่าโรเบิร์ต (โรบิน แอตคิน ดาวส์) ผู้ค้าในตลาดมืด เพื่อนำคลังอาวุธกลับคืนมา ก่อนเทสส์ฆ่าเขา โรเบิร์ตเผยว่าตนค้าขายแลกเปลี่ยนคลังอาวุธกับพวกไฟร์ฟลายส์ กลุ่มทหารที่ต่อต้านเจ้าหน้าที่ในเขตกักกัน
หัวหน้าไฟร์ฟลายส์ชื่อ มาร์ลีน (เมิร์ล แดนดริดจ์) สัญญาว่าจะเพิ่มคลังอาวุธให้เป็นสองเท่าแลกกับการลักลอบพาเด็กสาววัยรุ่นชื่อ เอลลี (แอชลีย์ จอห์นสัน) ไปยังที่หลบซ่อนของไฟร์ฟลายส์ในอาคารศาลากลางของบอสตันภายนอกเขตกักกัน โจล เทสส์ และเอลลีแอบออกมาตอนกลางคืน แต่หลังจากเผชิญหน้ากับทหารลาดตระเวน พวกเขาพบว่าเอลลีติดเชื้อ เอลลีอธิบายว่าตนเองถูกกัดมาเมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่มีอาการใด ๆ ทั้งที่ผู้ที่ถูกกัดคนอื่นล้วนกลายสภาพใน 2 วัน กลุ่มไฟร์ไฟลส์จึงเห็นว่าภูมิคุ้มกันของเอลลีอาจนำไปสู่การรักษาเชื้อนี้ได้ เมื่อทั้งสามเดินทางมาถึงอาคารศาลากลางก็พบว่าสมาชิกไฟร์ไฟลส์ทั้งหมดในนั้นถูกสังหาร เทสส์ได้เผยว่าเธอถูกผู้ติดเชื้อกัดระหว่างทาง เมื่อหน่วยทหารเข้ามาประชิด เทสส์เห็นความสำคัญของเอลลีจึงได้สละชีวิตตนเองเพื่อให้โจลและเอลลีหนีไป โจลตัดสินใจตามหาทอมมี อดีตไฟร์ฟลายส์ เพื่อหวังว่าเขาจะตามหาตำแหน่งของไฟร์ฟลายส์ที่เหลือได้ พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากบิล (ดับเบิลยู. เอิร์ล บราวน์) ผู้ลักลอบค้าอาวุธที่ติดหนี้บุญคุณโจลอยู่ บิลหารถยนต์ที่ใช้งานได้ให้พวกเขา เมื่อเดินทางมาถึงพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย โจล และเอลลีถูกกลุ่มปล้นสดมภ์ซุ่มโจมตี ทำให้รถยนต์เสียหาย ขณะหลบหนีพวกเขาพบสองพี่น้อง เฮนรี (แบรนดอน สกอตต์) และแซม (นาดจี เจเทอร์) หลังจากหนีออกจากเมืองได้ แซมถูกผู้ติดเชื้อกัด แต่ไม่เผยให้คนในกลุ่มทราบ เมื่อเชื้อกำเริบ แซมทำร้ายเอลลี แต่เฮนรียิงเขาและฆ่าตัวตายตามไป
ในฤดูใบไม้ร่วง โจลและเอลลีพบกับทอมมีในแจ็กสัน รัฐไวโอมิง โดยเขาได้สร้างป้อมปราการขึ้นใกล้ ๆ เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ ร่วมกับภรรยาชื่อ มาเรีย (แอชลีย์ สกอตต์) โจลตั้งใจจะฝากให้ทอมมีเป็นคนช่วยพาเอลลีไปส่งให้กลุ่มไฟร์ไฟลส์ แต่เมื่อเอลลีมาได้ยินเข้าก็ไม่พอใจและได้ขโมยม้าหนีออกมา เมื่อโจลตามพบตัวเอลลี เธอก็ได้หยิบยกประเด็นเรื่องซาราห์ขึ้นมา ทำให้โจลตัดสินใจให้เธอไปกับตน ทั้งสองได้เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นโคโลราโด เพื่อตามหาห้องทดลองของกลุ่มไฟเออร์ไฟลส์ตามคำชี้แนะของทอมมี แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่ามหาวิทยาลัยถูกทั้งร้าง และทราบว่ากลุ่มไฟเออร์ไฟลส์ได้ย้ายไปยังโรงพยาบาลในเมืองซอลต์เลกซิตี รัฐยูทาห์ ระหว่างเดินทางออกจากมหาวิทยาลัย ทั้งสองได้ปะทะกับกลุ่มโจร โจลบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้ เอลลีช่วยพาโจลหนีออกมาได้ แต่โจลก็สลบไปเพราะฤทธิ์บาดแผล
ในฤดูหนาว เอลลีและโจลพักอยู่ในหุบเขา โจลกำลังพักรักษาตัวโดยมีเอลลีคอยดูแล ขณะเอลลีออกไปล่าสัตว์ก็ได้พบกับเดวิด (โนแลน นอร์ท) และเจมส์ (รูเบน แลงดอน) กลุ่มคนเก็บหาอาหารที่ตั้งใจจะแลกอาหารกับยา เดวิดกลายเป็นศัตรูเมื่อเผยว่ากลุ่มโจรที่โจลปะทะด้วยในมหาวิทยาลัยเป็นกลุ่มของเขา เอลลีพยายามล่อกลุ่มของเดวิดไปให้ไกลจากโจล แต่ถูกจับในที่สุด เดวิดตั้งใจจะรับเธอมาอยู่ในกลุ่มมนุษย์กินคน เอลลีปฏิเสธ ฆ่าเจมส์และหนีออกมาได้ เดวิดไล่ต้อนเธอไปถึงภัตตาคารแห่งหนึ่ง ขณะนั้น โจลอาการดีขึ้น และออกตามหาเอลลี เขามาเจอเอลลีขณะที่เธอฆ่าเดวิด โจลปลอบใจเธอก่อนหนีไปด้วยกัน
ในฤดูใบไม้ผลิ โจลและเอลลีมาถึงซอลต์เลกซิตีและถูกทหารลาดตระเวนของไฟร์ฟลายส์จับตัวไป ในโรงพยาบาล มาร์ลีนบอกโจลว่าเอลลีกำลังเข้ารับการผ่าตัด เพื่อผลิตวัคซีนรักษาการติดเชื้อ โดยพวกเขาจะต้องผ่าชิ้นสมองส่วนที่ติดเชื้อของเอลลีออกมา ซึ่งหมายถึงเอลลีจำเป็นต้องตายเพื่อให้วัคซีนสำเร็จ โจลไม่ต้องการเสียเอลลีไป เขาจึงต่อสู้กลุ่มไฟร์ฟลายส์จนไปถึงห้องผ่าตัด และอุ้มเอลลีที่หมดสติออกไปยังที่จอดรถ เขาพบกับมาร์ลีนอีกครั้ง เขาฆ่ามาร์ลีนเพื่อป้องกันกลุ่มไฟร์ฟลายส์ที่ตามล่าเขา ระหว่างขับรถออกจากเมือง โจลอ้างว่าไฟร์ฟลายส์พบคนที่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อมากมาย แต่ไม่เคยหาทางรักษาได้ และได้หยุดหาทางรักษาแล้ว ที่ชานเมืองบริเวณชุมชนของทอมมี เอลลีเผยว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียวตอนติดเชื้อ และแสดงความรู้สึกผิดที่รอดชีวิตมาได้ โจลสาบานกับเธอว่าเรื่องเกี่ยวกับไฟร์ฟลายส์ที่เขาเล่ามาเป็นความจริง[11]
การพัฒนา
[แก้]นอตีด็อกเริ่มต้นพัฒนาเกมเดอะลาสต์ออฟอัสในปี พ.ศ. 2552 หลังจากที่เกมอันชาร์ทิด 2: อะมังทีฟส์ ได้ออกวางจำหน่าย นับเป็นครั้งแรกที่นอตีด็อกได้ทำการแบ่งออกเป็น 2 ทีมเพื่อพัฒนา 2 เกมไปพร้อมกัน คือ เดอะลาสต์ออฟอัส และอันชาร์ทิด 3: เดรกส์ดีเซปชัน [12] บรูซ สแตรลีย์ ละนีล ดรักแมนน์ ป็นผู้กำกับและควบคุมทีมที่พัฒนาเกมเดอะลาสต์ออฟอัส
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Hamilton, Kirk (July 29, 2014). "The Last of Us: The Kotaku Review". Kotaku. Gawker Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 18, 2015. สืบค้นเมื่อ October 19, 2015.
- ↑ Wells, Evan (December 10, 2011). "Naughty Dog Reveals The Last of Us at 2011 VGAs". PlayStation Blog. Sony Computer Entertainment. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 6, 2014. สืบค้นเมื่อ October 6, 2014.
- ↑ Naughty Dog and Area 5 (February 24, 2014). Grounded: Making The Last of Us. Sony Computer Entertainment. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 25, 2014. สืบค้นเมื่อ October 11, 2014.
- ↑ Kietzmann, Ludwig (May 17, 2013). "The Last of Us: Bricks, bottles and a few bullets". Joystiq. AOL. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 2, 2015. สืบค้นเมื่อ March 3, 2015.
- ↑ Yoon, Andrew (May 20, 2013). "A guide to crafting in The Last of Us". Shacknews. Gamerhub. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 2, 2015. สืบค้นเมื่อ March 3, 2015.
- ↑ Lavoy, Bill (August 2014). "The Last of Us Remastered Beginners Tips". Prima Games. Random House. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 2, 2015. สืบค้นเมื่อ March 3, 2015.
- ↑ Wilson, Jeffrey L. (October 23, 2013). "The Last of Us (PlayStation 3) - Review 2013". PCMag. Ziff Davis. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 21, 2020. สืบค้นเมื่อ April 10, 2021.
- ↑ Lavoy, Bill (August 2014). "The Last of Us Remastered - All Optional Conversations - I Want to Talk About It". Prima Games. Random House. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 2, 2015. สืบค้นเมื่อ March 3, 2015.
- ↑ Wilson, Tony (October 6, 2013). "The Last of Us Remastered - Collectibles guide". GamesRadar. Future plc. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 2, 2015. สืบค้นเมื่อ January 1, 2021.
- ↑ Meyer, Arne (March 2, 2012). "Balance Of Power: Gameplay In The Last of Us". PlayStation Blog. Sony Computer Entertainment. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 2, 2015. สืบค้นเมื่อ March 3, 2015.
- ↑ Naughty Dog (June 14, 2013). The Last of Us (PlayStation 3) (1.0 ed.). Sony Computer Entertainment.
- ↑ Moriarty, Colin (December 12, 2011). "Naughty Dog Officially Split Into Two Teams". IGN. Ziff Davis. Archived from the original on October 6, 2014. เข้าถึงเมื่อ 19 เมษายน พ.ศ. 2560.