ข้ามไปเนื้อหา

ฮิเดโอะ โคจิมะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฮิเดโอะ โคจิมะ
小島 秀夫
โคจิมะในงานโตเกียวเกมโชว์ ค.ศ. 2011
เกิด (1963-08-24) 24 สิงหาคม ค.ศ. 1963 (61 ปี)[1]
เขตเซตางายะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
สัญชาติญี่ปุ่น
อาชีพนักออกแบบ, นักเขียน, ผู้กำกับ, ผู้อำนวยการผลิตวิดีโอเกม
ปีปฏิบัติงานค.ศ. 1986–ปัจจุบัน
ผลงานเด่นเมทัลเกียร์, สแนตเชอร์, โพลิซนอตส์, โซนออฟเอนเดอส์, เดธสแตรนเดิง
ลายมือชื่อ

ฮิเดโอะ โคจิมะ (ญี่ปุ่น: 小島 秀夫; อักษรโรมัน: Hideo Kojima; 24 สิงหาคม ค.ศ. 1963 – ) เป็นทั้งนักออกแบบ, ผู้กำกับ, ผู้อำนวยการผลิต และนักเขียนวิดีโอเกมชาวญี่ปุ่น

เขาได้รับการยกย่องในฐานะนักประพันธ์ภาพยนตร์ที่โดดเด่นแห่งโลกวิดีโอเกม[2] โดยเขาได้พัฒนาความหลงใหลในภาพยนตร์แอ็กชันผจญภัยและวรรณกรรมในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น ใน ค.ศ. 1986 เขาได้รับการว่าจ้างจากบริษัทโคนามิ ที่เขาออกแบบและเขียนเมทัลเกียร์ (ค.ศ. 1987) สำหรับเอ็มเอสเอกซ์2 ซึ่งเป็นเกมที่วางรากฐานสำหรับเกมลอบเร้น และซีรีส์เมทัลเกียร์ ซึ่งเป็นผลงานที่รู้จักกันดีและเป็นที่ชื่นชมมากที่สุด หัวเรื่องที่อุทิศให้เขาในฐานะหนึ่งในนักออกแบบวิดีโอเกมที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคือเมทัลเกียร์โซลิด (ค.ศ. 1998) สำหรับเพลย์สเตชัน เขายังเป็นที่รู้จักจากการผลิตซีรีส์โซนออฟเอนเดอส์ รวมถึงเขียนและออกแบบสแนตเชอร์ (ค.ศ. 1988) และโพลิซนอตส์ (ค.ศ. 1994) ซึ่งเป็นเกมกราฟิกผจญภัยที่ได้รับการยกย่องในการนำเสนอในรูปแบบภาพยนตร์

ใน ค.ศ. 2005 โคจิมะได้ก่อตั้งโคจิมะโปรดักชันส์[1][3] ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์เฮาส์ที่ควบคุมโดยโคนามิ และใน ค.ศ. 2011 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานของโคนามิดิจิทัลเอนเตอร์เทนเมนต์[4] กระทั่ง ค.ศ. 2015 โคจิมะโปรดักชันส์ได้แยกตัวออกจากโคนามิ และกลายเป็นสตูดิโออิสระ เกมแรกของพวกเขาคือเดธสแตรนดิง ซึ่งเปิดตัวใน ค.ศ. 2019[5] โคจิมะยังมีส่วนร่วมในนิตยสารโรลลิงสโตน โดยเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาพยนตร์และวิดีโอเกม[6] ส่วนในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 โคจิมะได้รับรางวัลบันทึกสถิติโลกกินเนสส์สองรางวัลสำหรับผู้กำกับวิดีโอเกมที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในทวิตเตอร์และอินสตาแกรม[7]

ชีวิตในวัยเด็ก

[แก้]

ฮิเดโอะ โคจิมะ เกิดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1963 ที่เขตเซตางายะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น[8] และเป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนสามคน[9] พ่อของเขาชื่อคินโง เป็นเภสัชกรที่เดินทางไปทำธุรกิจบ่อยครั้ง และตั้งชื่อโคจิมะตามชื่อที่พบบ่อยที่สุดในบรรดาแพทย์ที่เขาพบ[10] เมื่อเขาอายุสี่ขวบ ครอบครัวของเขาย้ายไปที่โอซากะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่ออธิบายถึงช่วงชีวิตในวัยเด็กของเขา โคจิมะกล่าวว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมอย่างกะทันหัน และหลังจากนั้นเขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน, ดูโทรทัศน์ หรือทำหุ่นจำลอง[11] ในขณะที่ครอบครัวอาศัยอยู่ในโอซากะ พ่อแม่ของเขาได้เริ่มประเพณีของครอบครัวที่ดูภาพยนตร์ด้วยกันทุกคืน และเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้านอนจนกว่าภาพยนตร์ดังกล่าวจะจบลง พวกเขาชื่นชอบภาพยนตร์แนวยุโรป, ตะวันตก และสยองขวัญ รวมถึงไม่จำกัดประเภทของภาพยนตร์ที่เขาได้รับอนุญาตให้ดู[9]

โคจิมะได้สนใจเรื่องการสร้างภาพยนตร์เมื่อเพื่อนนำกล้องซูเปอร์ 8 มาที่โรงเรียน ซึ่งพวกเขาเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยกัน โดยเรียกเก็บเงินจากเด็กคนอื่น ๆ 50 เยนเพื่อดูพวกมัน[12] โคจิมะหลอกพ่อแม่ของเขาให้จัดหาเงินทุนสำหรับการเดินทางไปเกาะนอกชายฝั่งของญี่ปุ่น โดยไม่ได้บอกพวกเขาว่าเขาต้องการถ่ายทำที่นั่น โดยแทนที่จะถ่ายทำ เขากลับใช้เวลาไปกับการว่ายน้ำ และในวันสุดท้ายได้เปลี่ยนโครงเรื่องเป็นเรื่องเกี่ยวกับซอมบี[13] โดยที่เขาไม่ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ให้พ่อแม่เห็น[14]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 "IGN: Hideo Kojima Biography". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 16, 2007. สืบค้นเมื่อ March 12, 2008.
  2. "Hideo Kojima – video gaming's first auteur – Screen Robot". Screen Robot. July 2014. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 18, 2016. สืบค้นเมื่อ April 7, 2016.
  3. "Announcement of Personnel Changes (March 17, 2009)". Konami. March 17, 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 6, 2009. สืบค้นเมื่อ August 11, 2009.
  4. "Hideo Kojima becomes VP of Konami Digital Entertainment". March 30, 2011. สืบค้นเมื่อ October 20, 2018.
  5. "Death Stranding Release Date For PS4 Revealed In New Gameplay Trailer". GameSpot (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ November 5, 2019.
  6. "Hideo Kojima". Rolling Stone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 21, 2018. สืบค้นเมื่อ January 5, 2018.
  7. "Hideo Kojima Has Been Awarded Two Guinness World Records, But Not For What You Might Expect". GameSpot (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ November 12, 2019.
  8. "IGN: Hideo Kojima Biography". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 16, 2007. Born on August 24, 1963, Hideo Kojima is the Konami Digital Entertainment, Operating Officer and Studio Head of Kojima Productions.
  9. 9.0 9.1 Parkin, Simon (May 23, 2012). "Hideo Kojima: video game drop-out – interview part 1". The Guardian. ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ September 7, 2020. It was during that time that my parents introduced a family tradition: every night we would all watch a film together. I wasn't allowed to go to bed till the film had finished: the opposite of how it is for most children. My parents were huge fans of westerns, European cinema and horror in particular. They wouldn't just show me kids' films. I'd even see the sex scenes.
  10. Dawkins, Dan (June 12, 2018). "Why MGS4's final scene is more powerful than we ever realised". gamesradar. สืบค้นเมื่อ September 7, 2020. Kingo Kojima, a pharmacist, named his son based on the most common name among the doctors he met. He travelled a lot on business and watched a lot of movies, a trait he impressed on young Hideo.
  11. Parkin, Simon (May 23, 2012). "Hideo Kojima: video game drop-out – interview part 1". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ September 7, 2020. "I was born in a countryside town," he says. "But when I was four years old we moved to Osaka. It was a huge environment change and after that I would spend much more time at home, watching television or making figurines.
  12. Itoi, Kay (December 30, 2001). "Hideo Kojima". Newsweek. สืบค้นเมื่อ September 7, 2020.
  13. Parkin, Simon (May 23, 2012). "Hideo Kojima: video game drop-out – interview part 1". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ September 7, 2020. We managed to trick our parents into giving us the money to go on a four day trip to an exotic island off the coast of Japan. But when we arrived we spent the first three days swimming in the sea. On the final day we realised how little time we had left so I changed the plot … to another zombie movie. The idea was still that the plane had crashed and high school student had survived. But this time they found zombies on the island.
  14. Parkin, Simon (May 23, 2012). "Hideo Kojima: video game drop-out – interview part 1". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ September 7, 2020. "Did you show your parents the film?" I ask. "No," he replies, breaking into a generous laugh.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]