อุซามะฮ์ อิบน์ ซัยด์
อุซามะฮ์ อิบน์ ซัยด์ أُسَامَة ٱبْن زَيْد | |
---|---|
ส่วนบุคคล | |
เกิด | ป. 615–618 |
มรณภาพ | ป. 680 [1] |
ศาสนา | อิสลาม |
บุพการี | ซัยด์ อิบน์ ฮาริษะฮ์ (พ่อ) อุมม์ อัยมัน (แม่) |
รู้จักจาก | ผู้ติดตามของมุฮัมมัด |
ญาติ |
|
Military service | |
ชั้นยศ | ผู้บัญชาการทหารของมุฮัมมัด (632) |
การรบ |
อุซามะฮ์ อิบน์ ซัยด์ (อาหรับ: أُسَامَة ٱبْن زَيْد) เป็นมุสลิมและสาวกของนบีมุฮัมมัดที่สำคัญคนหนึ่ง เขาเป็นบุตรของซัยด์ อิบน์ ฮาริษะฮ์ ทาสที่เป็นไทและบุตรบุญธรรมของมุฮัมมัด กับอุมม์ อัยมัน[2]
ภูมิหลังและชีวิตช่วงต้น
[แก้]อุซามะฮ์เป็นบุตรของบะเราะกะฮ์ (อุมม์ อัยมัน) ชาวอบิสซีเนีย กับซํยด์ อิบน์ ฮาริษะฮ์ สามีคนที่สองของเธอ พ่อแม่ของเขาแต่งงาน "หลังเข้ารับอิสลาม"[3] และอุซามะฮ์เกิดก่อนการฮิจเราะห์
แม่ของอุซามะฮ์เป็นทาสในบ้านของอับดุลลอฮ์ อิบน์ อับดุลมุฏฏอลิบกับอามินะฮ์ บินต์ วะฮบ์ พ่อแม่ของมุฮัมมัด หลังอามินะฮ์เสียชีวิต เธอจึงกลายเป็นทาสของมุฮัมมัด[4] บะเราะกะฮ์ดูแลมุฮัมมัดและย้ายไปอยู่ในบ้านของอับดุลมุฏฏอลิบ อิบน์ ฮาชิม ปู่ของท่านที่มักกะฮ์ โดยเธอดูแลท่านตั้งแต่วัยเด็ก[5] และหลังจากนั้น[6]ในวัยผู้ใหญ่[7] เมื่อมุฮัมมัดแต่งงานกับเคาะดีญะฮ์ ท่านจัดการปลดปล่อยบะเราะกะฮ์และจัดงานแต่งงานให้แก่เศาะฮาบะฮ์นาม อุบัยด์ อิบน์ ซัยด์ จากบะนูค็อซร็อจญ์ สามีคนแรกของเธอ โดยให้กำเนิดอัยมัน อิบน์ อุบัยด์ ซึ่งทำให้เธอรู้จักกันในชื่อ "อุมม์ อัยมัน" ("มารดาของอัยมัน")[8]
ซัยด์ อิบน์ ฮาริษะฮ์ พ่อของอุซามะฮ์ เป็นเศาะฮาบะฮ์และบุตรบุญธรรมของมุฮัมมัด โดยทั่วไปถือว่าเป็นคนที่สามที่เข้ารับอิสลาม (หลังจากเคาะดีญะฮ์ ภรรยาของท่าน และอะลี ลูกพี่ลูกน้อง)[9] เขาเป็นชาวอาหรับจากเผ่าบะนูกัลบ์สาขา Udhra แห่งนัจญด์ คาบสมุทรอาหรับตอนกลาง[10][11] ส่วน Suda bint Thaalaba แม่ของซัยด์มาจากเผ่าฏ็อยย์ สาขา Maan[10][12]
อุซามะฮ์มีความสัมพันธ์ใกล้ชืดกับมุฮัมมัดและร่วมสู้รบกับมุฮัมมัดในยุทธการที่ฮุนัยน์[13]
การทัพของอุซามะฮ์
[แก้]การทัพของอุซามะฮ์เป็นการทัพของรัฐเคาะลีฟะฮ์มุสลิมยุคแรกที่นำโดยอุซามะฮ์ อิบน์ ซัยด์ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 632 โดยที่กองทัพมุสลิมบุกเข้าซีเรียของไบแซนไทน์[14][15]
ชีวิตช่วงหลัง
[แก้]หลังมุฮัมมัดเสียชีวิต อุซามะฮ์ตั้งถิ่นฐานที่ Wadi al-Qura ภายหลังย้ายไปมะดีนะฮ์ เขาเสียชีวิตที่ al-Jurf "ในช่วงสิ้นสุดของสมัยมุอาวิยะฮ์" คือ ประมาณ ค.ศ. 680[1]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Muhammad al-Jarir al-Tabari, Al-Tarikh al-Rusul wa'l-Muluk. Translated by Ella Landau-Tasseron (1998). Volume 39: Biographies of the Companions and Their Successors (Albany: State University of New York Press), 65.
- ↑ Baladhuri, vol.1, p. 96
- ↑ Bewley/Saad vol. 8 p. 157.
- ↑ Ibn Sa`d, vol. 8, p. 223; Baladhuri, vol.1, p. 96
- ↑ Ibn Qutaybah, p. 150
- ↑ Baladhuri, vol.1, p. 472
- ↑ Ibn Hajar, al-Ithaba, vol.8, p. 380
- ↑ Ibn Sa`d, vol. 8, p. 223; Ibn Sa`d, vol. 4, p. 61
- ↑ Razwy, Sayed Ali Asgher. A Restatement of the History of Islam & Muslims. p. 53.
- ↑ 10.0 10.1 Landau-Tasseron/Tabari p. 6.
- ↑ Lecker, p. 773.
- ↑ Zuhri, p. 177; al-Tabarani, vol. 25, p. 86
- ↑ mahallati, vol.2, p. 26
- ↑ Abu Khalil, Shawqi (1 March 2004). Atlas of the Prophet's biography: places, nations, landmarks. Dar-us-Salam. p. 249. ISBN 978-9960897714.
- ↑ Gil, A history of Palestine, 634-1099, p. 31.