อาหารที่บริการบนเครื่องบิน
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/78/In-flight_meal_Garuda_Indonesia_Air_Lines_200507.jpg/200px-In-flight_meal_Garuda_Indonesia_Air_Lines_200507.jpg)
อาหารที่บริการบนเครื่องบิน (อังกฤษ: airline meal) ได้แก่ อาหารที่ให้บริการแก่ผู้โดยสารของสายการบินพาณิชย์ เป็นอาหารที่จัดเตรียมเพื่อให้บริการบนเครื่องบินโดยเฉพาะ มีฝ่ายจัดการด้านอาหารของแต่ละสายการบินเป็นผู้รับผิดชอบ
ส่วนประกอบ
[แก้]โดยทั่วไปอาหารมื้อเย็นของสายการบินจะประกอบไปด้วยอาหารจำพวกเนื้อ (ไก่ ปลา หมู หรือเนื้อวัว) สลัดผัก ขนมปังก้อนเล็ก และขนมหวาน ปกติแล้วผู้ให้บริการจะเตรียมอาหารชนิดพิเศษสำหรับลูกค้าบางกลุ่มด้วยเช่น อาหารแบบโคเชอร์หรืออาหารสำหรับผู้บริโภคอาหารมังสวิรัติ อาหารพิเศษเหล่านี้จะต้องสั่งก่อน บางครั้งก็ต้องแจ้งขณะที่จองตั๋วโดยสาร บางสายการบินอนุญาตให้แจ้งได้ก่อนเวลาเดินทางอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
อุปกรณ์สำหรับหั่นหรือจิ้มอาหาร
[แก้]ก่อนเกิดเหตุการณ์ 911 สายการบินจะแจกอุปกรณ์สำหรับหั่นหรือจิ้มที่ทำจากโลหะแก่ผู้โดยสารระดับ First Class แต่หลังจากนั้น เริ่มมีผู้มองว่าอุปกรณ์ธรรมดาที่เราใช้ภายในครัวเรือนแบบนี้สามารถใช้เป็นอาวุธบนเครื่องบินได้ ส่งผลให้ผู้โดยสารทั้งในชั้น First Class และ Economy ต้องใช้มีดที่ทำจากพลาสติกแทน หลังจากปี ค.ศ. 2004 อุปกรณ์สำหรับการรับประทานอาหารที่ทำจากโลหะกลับมีให้ใช้ในชั้น First Class ของบางสายการบินอีกครั้ง หลังจากการจำกัดสิ่งของเครื่องใช้บนเครื่องบินเริ่มผ่อนปรนลง
สิ่งอื่นที่ไม่ใช่อาหาร
[แก้]เครื่องปรุง (เกลือ พริกไทยและน้ำตาล) จะบรรจุอยู่ในถุงเล็กๆ บางมื้ออาหารจะมีผ้าเช็ดปากหรือกระดาษทิชชู่ชนิดเปียกแนบมาให้เพื่อความสะอาด
ชุดอาหาร
[แก้]อาหารเช้า
[แก้]ในเที่ยวบินเช้า บางสายการบินจะให้บริการอาหารเช้าแบบตะวันออก โดยจะมาในรูปของกล่องอาหารขนาดเล็ก ประกอบไปด้วยซีเรียล ผลไม้ที่หั่นมาพอดีคำ มัฟฟิ่นหรือขนมอบ บางสายการบินอาจให้บริการอาหารเช้าแบบ hot breakfast (ส่วนใหญ่จะเป็นเที่ยวบินที่ใช้เวลาการเดินทางมาก หรือเที่ยวบินที่ใช้เวลาไม่มากนักและบินในทวีปเอเชีย) อาหารเช้าแบบนี้จะมีแพนเค้ก ไข่ มัฟฟิ่นหรือขนมอบ ผลไม้และซีเรียล น้ำชาและกาแฟก็มีให้บริการเช่นกัน รวมไปถึงช็อคโกแล็ตร้อนด้วย
อาหารพิเศษ
[แก้]ทุกสายการบินจะมีอาหารพิเศษไว้บริการผู้โดยสารที่มีข้อจำกัดในเรื่องของอาหาร เช่น เหตุผลทางศาสนา ความเชื่อ หรือทางด้านสุขภาพ ตัวอย่างของอาหารพิเศษซึ่งนำมาจากสองสายการบิน (ในที่นี้คือสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก สิงคโปร์แอร์ไลน์):
- อาหารมังสวิรัต
- Ovo-Lacto Vegetarian, Western Vegetarian หรือ Non-Strict Western Vegetarian ไม่มีเนื้อสัตว์แต่จะมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เช่น เนย ชีส รวมไปถึงไข่
- Strict Western Vegetarian หรือ Vegan ไม่มีเนื้อทุกชนิด รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมด้วย (อาหารเจ)
- Oriental หรือ Asian Vegetarian ไม่มีเนื้อสัตว์ รวมไปถึงผักมีกลิ่นบางชนิดเช่น ขิง หอมหัวใหญ่ ผักชี ฯลฯ แต่มีผลิตภัณฑ์จากนม
- Non-Strict Indian Vegetarian ไม่มีเนื้อสัตว์ ไม่มีผลิตภัณฑ์จากนมหรือมีแค่บางชนิด มีรสชาติเผ็ด
- Strict Indian Vegetarian ไม่มีเนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม รวมไปถึงผักกินหัวไม่ว่าจะเป็นขิง กระเทียม หัวหอม มันฝรั่ง ปรุงด้วยเครื่องเทศแบบอินเดีย
- Raw Vegetarian รับประทานแต่ผักและผลไม้
- อาหารของผู้นับถือบางศาสนา
- อาหารโคเชอร์ เป็นอาหารของชาวยิวผู้ที่นับถือศาสนายูดาย จะปิดอย่างมิดชิด สามารถมีเนื้อเป็นส่วนประกอบ
- อาหารมุสลิม ไม่มีส่วนประกอบของหมู เบคอน แฮมหรือแอลกอฮอลล์ อาหารทุกประเภทปรุงตามกฎฮาลาล
- อาหารชาวฮินดู ไม่มีเนื้อวัว หรือเนื้อหมู แต่เป็นเนื้อแกะ เนื้อปลาหรือเนื้อชนิดอื่น มีผลิตภัณฑ์ของนม ปรุงแบบอินเดีย
- อาหารที่ไม่มีเนื้อวัว ไม่มีส่วนประกอบของเนื้อวัวเลย
- อาหารสำหรับผู้โดยสารที่มีข้อจำกัดด้านสุขภาพ
- อาหารที่ประกอบไปด้วยผลไม้ มีแต่ผลไม้เท่านั้น ทั้งสด เชื่อมหรือของหวานที่ทำจากผลไม้
- อาหารเหลว เช่นนม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ คัสตาร์ดและเยลลี่
- อาหารแคลอรีต่ำ ประกอบไปด้วยเนื้อไม่ติดมัน ผลิตภัณฑ์จากนมที่ไขมันต่ำ อาหารที่มีไฟเบอร์สูง ไม่มีอาหารทอด หรือราดซอส ไขมันสูง หรือมีน้ำตาลเยอะ
- อาหารโซเดียมต่ำ ไม่มีส่วนประกอบของเกลือ เหมาะสำหรับผู้โดยสารที่ความดันโลหิตสูงหรือมีปัญหาเกี่ยวกับไต
- อาหารปราศจากแลกโตส ไม่มีส่วนประกอบของแลกโตสหรือผลิตภัณฑ์จากนม
- อาหารไฟเบอร์สูง ประกอบไปด้วยส่วนประกอบจำพวกถั่ว ผัก ผลไม้ ขนมปังธัญพืชไฟเบอร์สูง และซีเรียล
- อาหารโปรตีนต่ำ จำกัดโปรตีนและเกลือ
- อาหารสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน มีส่วนประกอบของไฟเบอร์สูง ไขมันและแคลอร์รี่ต่ำ
- อาหารแคลอรี/ไขมันต่ำ มีส่วนประกอบของโปรตีนเชิงซ้อน ไฟเบอร์สูง ไขมันต่ำ คอเลสเตอรอลจากผลิตภัณฑ์นมต่ำ ไม่มีเนื้อ
- อาหารเด็ก
- อาหารสำหรับเด็ก จะคัดสรรชนิดของอาหารที่เด็กเล็กโปรดปรานเช่นแฮมเบอร์เกอร์ ไส้กรอก หรือปลาทอดเป็นชิ้น วางในกล่องที่ออกแบบเป็นพิเศษ
- อาหารสำหรับเด็กทารก ประกอบด้วยจานเนื้อและผัก (ขนาดเล็ก) ขนมหวานและน้ำผลไม้สำหรับเด็กทารก
คุณภาพ
[แก้]แม้อาหารที่ให้บริการบนเครื่องบินจะถูกมองว่ามีรสชาติที่แย่อยู่เป็นประจำ แต่แท้จริงแล้วคุณภาพของอาหารนั้นจะต่างกันไปตามสายการบิน ราคาของอาหารที่ผู้โดยสารต้องจ่ายนั้นมีตั้งแต่ไม่เสียค่าบริการเพิ่มเติม (สายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบโดยทั่วไป) ไปจนถึงหลายร้อยบาท (มักเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ) คุณภาพของอาหารจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของธุรกิจสายการบินในขณะนั้น ในเที่ยวบินที่ใช้เวลาบินนาน อาหารของผู้โดยสารระดับ First Class และชั้นธุรกิจของสายการบินจากประเทศแถบเอเชียหรือยุโรปจะมีหลายชนิด เป็นอาหารที่มีคุณภาพดี เลิศรส ในขณะที่สายการบินของฝั่งอเมริกามักจะให้บริการอาหารคุณภาพสูง ปริมาณมาก ไม่ว่าจะเป็นสลัดจานโต เนื้อสเต็กหรือไก่ มันฝรั่งและไอศกรีม ตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา คุณภาพอาหารเริ่มแย่ลง ผู้โดยสารจำนวนมากแสดงความเห็นว่าอาหารของผู้โดยสารระดับ First Class เริ่มไม่ต่างจากอาหารของผู้โดยสารระดับ Business Class เลย สภาพธุรกิจที่ผันผวนทำให้ปัจจุบันสายการบินสัญชาติอเมริกันเริ่มเก็บค่าอาหารจากผู้โดยสารหรือเปลี่ยนเป็นให้บริการอาหารทานเล่น (Snack) แทน
รสชาติจืดของอาหารที่บริการบนเครื่องบิน
[แก้]สาเหตุที่อาหารที่บริการบนเครื่องบินจืดนั้นมีสาเหตุมาจากพื้นที่ที่จำกัดบนเครื่องบิน และข้อจำกัดทางด้านเงินทุนของสายการบินเอง ปกติแล้วอาหารที่บริการบนเครื่องบินจะถูกแช่แข็งและนำมาอุ่นให้ร้อนบนพื้นดินก่อนที่เครื่องจะออก ไม่ใช่ปรุงกันสดๆเดี๋ยวนั้น สาเหตุอีกประการหนึ่งก็คือปุ่มรับรสบนลิ้นของมนุษย์เราจะรับรสได้น้อยลงเวลาที่บินในระดับสูง ทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปนั้นคล้ายกับไม่มีรสชาติ
อย่างไรก็ดี การที่อาหารบนเครื่องบินจืดนั้น เป็นเพราะสายการบินส่วนใหญ่ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น สาเหตุมีอยู่สองประการคือ:เพื่อความปลอดภัยของอาหารและความสบายของผู้โดยสาร
ความปลอดภัยของอาหารเป็นหัวใจหลักของผู้ให้บริการประกอบอาหารสำหรับสายการบิน หากเกิดกรณีอาหารเป็นพิษกับผู้โดยสาร ผลที่ตามมาอาจหมายถึงหายนะได้ เช่น ในเที่ยวบินที่ใช้เวลาบินนานและต้องผ่านมหาสมุทร ปกติแล้วจะบริการอาหารสองมื้อและของทานเล่นอีกหนึ่งมื้อ ซึ่งเป็นเวลามากพอที่อาการจะปรากฏกับผู้โดยสารตลอดเที่ยวบินนั้น หากผู้โดยสารท้องเสียทั้งลำ ห้องน้ำที่มีจำกัดและความสะอาดที่ไม่เพียงพอบนเครื่องบินอาจส่งผลร้ายแก่ผู้โดยสารได้ ซ้ำร้ายกว่านั้น นักบินไม่สามารถนำเครื่องลงจอดกลางมหาสมุทรได้เลยในกรณีมีเหตุฉุกเฉิน
ประเด็นต่อมาคือความสบายของผู้โดยสาร เวลาที่คิดเมนูอาหารสำหรับสายการบินนั้น ผู้ให้บริการต้องตระหนักเสมอว่าผู้โดยสารบนเครื่องไม่มีสิทธิ์เลือกรับประทานอาหารหรือหาซื้ออย่างอื่นได้นอกจากอาหารที่ผู้ให้บริการปรุงเท่านั้น ดังนั้นแล้วอาหารจะต้องปรุงเพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนบนเครื่องรับประทานได้ เครื่องเทศกลิ่นฉุนที่อาจสร้างความไม่พอใจให้กับผู้โดยสารได้เช่น พริก มัสตาร์ดหรือกระวาน เหล่านี้ทุกสายการบินจะไม่ใช่ปรุงอาหารโดยเด็ดขาด หัวหอมใหญ่ก่อให้เกิดกลิ่นปาก อาจทำให้ผู้โดยสารในชั้นประหยัดที่ต้องนั่งติดกันไม่ได้รับความสะดวกสบายนัก ผักบางชนิดก่อนให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสายการบินจากฝั่งตะวันตกส่วนใหญ่ถึงเลือกที่จะบริการอาหารจำพวกโปรตีน (ไก่ เนื้อสเต็กหรือปลา) สลัดผักขนาดเล็ก (ปราศจากหอมหัวใหญ่ และเพิ่มมะเขือเทศและแตงกวาแทนผักกาดหอม) มันฝรั่งและของหวาน (ขนมเค้กหรือพุดดิ้ง)
อาหารสำหรับนักบิน
[แก้]อาหารสำหรับนักบินและวิศวกรบนเครื่องบินจะเข้มงวดกว่าอาหารของผู้โดยสาร อาหารบางชนิดถูกห้ามนำมาเป็นส่วนประกอบเลยทีเดียว รวมไปถึงอาหารจำพวกไข่หรือผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่ผ่านการฉายแสงอัลตร้าไวโอเลต อาหารแต่ละชุดจะมีป้ายติดบอกไว้ว่าเป็นของใคร นักบินและวิศวกรบนเครื่องบินจะไม่ทานอาหารชนิดเดียวกันเพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งคู่ได้รับอันตรายจากอาหารพร้อมกัน (หากเกิดกรณีดังกล่าวจริง)
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/4a/Commons-logo.svg/30px-Commons-logo.svg.png)