หมอกปนควันครั้งใหญ่ของลอนดอน
เสาเนลสันในขณะที่เกิดหมอกปนควัน | |
วันที่ | 5–9 ธันวาคม ค.ศ. 1952 |
---|---|
ที่ตั้ง | ลอนดอน ประเทศอังกฤษ |
พิกัด | 51°30′25″N 0°07′37″W / 51.507°N 0.127°W |
ความสูญเสีย | |
จนถึง 12,000 เสียชีวิต[1][2] |
หมอกปนควันครั้งใหญ่ของลอนดอน (อังกฤษ: Great Smog of London) เป็นเหตุการณ์มลพิษทางอากาศที่รุนแรงซึ่งส่งผลกระทบต่อเมืองหลวงลอนดอนของอังกฤษในช่วงต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2495 ช่วงที่อากาศหนาวเย็นผิดปกติบวกกับสภาพอากาศที่มีแอนติไซโคลนและไม่มีลม ทำให้สารมลพิษในอากาศที่ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ถ่านหินเกิดชั้นหมอกปนควันบนชั้นบรรยากาศปกคลุมทั้งเมืองลอนดอน เกิดขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคมถึงวันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2495 จากนั้นก็จะกระจายไปอย่างรวดเร็วเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง
มันทำให้เกิดการหยุดชะงักครั้งใหญ่โดยการลดการมองเห็นและแม้แต่การเข้าไปในพื้นที่ในร่ม รุนแรงกว่าเหตุการณ์หมอกปนควันก่อนหน้านี้อย่างมาก อย่างไรก็ตามรายงานทางการแพทย์ของรัฐบาลในสัปดาห์ต่อไปจนถึงวันที่ 8 ธันวาคมคาดว่ามีผู้เสียชีวิต 4,000 คนจากผลกระทบโดยตรงของหมอกปนควัน และอีก 100,000 คนป่วยจากผลกระทบของหมอกปนควันต่อระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ การวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่าจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดอาจมากกว่านี้มากโดยมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอีกราว 6,000 คนในเดือนต่อ ๆ ไปอันเป็นผลมาจากเหตุการณ์นี้[3]
ลอนดอนได้รับความเดือดร้อนจากคุณภาพอากาศที่ไม่ดีตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 แล้ว[4] ซึ่งเลวร้ายลงในคริสต์ทศวรรษ 1600[5][6] แต่หมอกปนควันครั้งใหญ่ครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์มลพิษทางอากาศที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักร[7] และที่สำคัญที่สุดในแง่ของผลกระทบต่อการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม กฎระเบียบของรัฐบาล และความตระหนักของสาธารณชนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพอากาศและสุขภาพ[3][5] นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติและกฎระเบียบหลายประการรวมถึงพระราชบัญญัติอากาศบริสุทธิ์ พ.ศ. 2499
ภูมิหลัง
[แก้]แหล่งมลพิษ
[แก้]สภาพอากาศที่หนาวเย็นจนผิดสังเกตในช่วงก่อนและระหว่างหมอกควันครั้งใหญ่ทำให้ชาวลอนดอนเผาถ่านมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้พวกเขารู้สึกอบอุ่นขึ้น ถ่านในประเทศช่วงก่อนสงครามมักเป็นถ่านคุณภาพต่ำ ส่วนถ่านคุณภาพสูงถูกส่งออกเพื่อชำระหนี้ในสงครามโลกครั้งที่สอง[8] ถ่านเหล่านี้เพิ่มปริมาณควันซัลเฟอร์ไดออกไซด์ โรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ในเกรเทอร์ลอนดอนมีหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าฟูลัม โรงไฟฟ้าแบตเทอร์ซี โรงไฟฟ้ากรีนิช โรงไฟฟ้าแบงก์ไซด์ และโรงไฟฟ้าคิงส์ตันอะพอนเทมส์ ซึ่งทั้งหมดนี้เพิ่มมลภาวะในอากาศ เม็ตออฟฟิศแจกแจงมลพิษที่ถูกปล่อยออกมาในแต่ละวันในช่วงภาวะหมอกควัน แบ่งเป็น อนุภาคควัน 1,000 ตัน กรดไฮโดรคลอริก 140 ตัน สารประกอบฟลูออรีน 14 ตัน และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ 370 ตันซึ่งอาจถูกแปรสภาพเป็นกรดซัลฟิวริกถึง 800 ตัน[9] งานวิจัยแสดงความเห็นว่า ระบบป้องกันมลพิษที่ใช้ในโรงไฟฟ้าแบตเทอร์ซีอาจทำให้คุณภาพอากาศย่ำแย่ลงเสียเอง การล้างก๊าซจากปล่องควันลดอุณหภูมิของตัวก๊าซจนทำให้ก๊าซไม่ยกตัวสูงขึ้นแต่กลับลดตัวลงสู่ระดับดิน สร้างความระคายเคืองต่อระบบทางเดินทางหายใจของคน[10]
นอกจากนี้ ยังมีมลพิษและควันที่ถูกปล่อยออกจากยานพาหนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากรถจักรไอน้ำและรถโดยสารที่ใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งต่อมาถูกแทนที่โดยรถรางไฟฟ้า แหล่งอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมอื่น ๆ ก็ส่งผลต่อมลภาวะอากาศด้วยเช่นกัน[11]
สภาพอากาศ
[แก้]วันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1952 ลมแอนไทไซโคลนที่อยู่เหนือกรุงลอนดอนที่ไร้ลม ก่อให้เกิดการผกผันของอุณหภูมิ ที่อากาศเย็นจะเข้าไปแทนที่โดยอยู่ใต้ชั้นอากาศอุ่น[12][13] หมอกที่ผสมกับอนุภาคควันที่ปล่อยออกจากครัวเรือน โรงงานอุตสาหกรรม ยานพาหนะ และมลพิษอื่น ก่อให้เกิดหมอกควันที่ปกคลุมเมืองหลวงในวันถัดมา อนุภาคเขม่าที่ค้างในอากาศก่อให้เกิดหมอกควันสีเหลือง-ดำ เป็นที่มาของฉายา "หมอกซุปถั่ว"[11]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "The lethal effects of London fog". BBC News. 22 December 2015.
- ↑ "In 1952 London, 12,000 people died from smog — here's why that matters now". The Verge. 16 December 2017.
- ↑ 3.0 3.1 Bell, M.L.; Davis, D.L.; Fletcher, T. (2004). "A Retrospective Assessment of Mortality from the London Smog Episode of 1952: The Role of Influenza and Pollution". Environ Health Perspect. 112 (1, January): 6–8. doi:10.1289/ehp.6539. PMC 1241789. PMID 14698923.
- ↑ Brimblecombe, Peter (1976). "Attitudes and Responses Towards Air Pollution in Medieval England". Journal of the Air Pollution Control Association. 26 (10): 941–45. doi:10.1080/00022470.1976.10470341. PMID 789426.
- ↑ 5.0 5.1 Evelyn, John; Pegge, Samuel, 1704–1796, (ed.) (1661), Fumifugium, Printed by W. Godbid, สืบค้นเมื่อ 5 May 2016
{{citation}}
:|author2=
มีชื่อเรียกทั่วไป (help)CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ Graunt, John, 1620–1674; Petty, William, Sir, 1623–1687 (1662), Natural and political observations mentioned in a following index, and made upon the bills of mortality [microform] / by John Graunt ... ; with reference to the government, religion, trade, growth, ayre, diseases, and the several changes of the said city, Printed by Tho. Roycroft for John Martin, James Allestry, and Tho. Dicas
- ↑ McKie, Robin & Townsend, Mark. Great Smog is history, but foul air still kills (The Observer, 24 November 2002).
- ↑ Matthew Wills (2015-08-24). "Old Smoke: London's Famous Fog". JSTOR Daily.
- ↑ "The Great Smog of 1952". metoffice.gov.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 กันยายน 2014. สืบค้นเมื่อ 12 ตุลาคม 2014.
- ↑ Sheail, John (1991). Power in Trust: the environmental history of the Central Electricity Generating Board. Oxford: Clarendon. pp. 22, 42–3. ISBN 0-19-854673-4.
- ↑ 11.0 11.1 Mason, Nigel; Hughes, Peter (2001). Introduction to Environmental Physics. CRC Press. pp. 112–13. ISBN 978-0748407651.
- ↑ "Atmosphere, Climate & Environment Information Programme". Ace.mmu.ac.uk. 4 ธันวาคม 1952. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2009. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2010.
- ↑ "Met Office Education: Teens – Case Studies – The Great Smog". Metoffice.gov.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 มิถุนายน 2011. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2010.