ข้ามไปเนื้อหา

สงครามฉางผิง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สงครามฉางผิง (长平之战) เป็นสงครามใหญ่ระหว่างแคว้นฉิน (秦国) และแคว้นจ้าว (赵国) เกิดขึ้นในปี 260 ก่อนคริสตกาล

สาเหตุเริ่มจากในปี 265 ก่อนคริสตกาล จ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋ง (赵孝成王) ขึ้นเป็นกษัตริย์แคว้นจ้าวแทนกษัตริย์องค์ก่อน ฉินจ่าวเซี่ยงหวั๋ง (秦昭襄王) กษัตริย์ของแคว้นฉินจึงส่งกองทัพออกไปหมายจะโจมตีแคว้นจ้าว

แคว้นจ้าวเพิ่งผลัดเปลี่ยนกษัตริย์ได้ไม่นานจึงไม่มั่นใจว่าจะรับมือได้ จึงส่งคนไปขอให้แคว้นฉียกทัพมาช่วย โดยเสนอจะคืนดินแดนที่เคยยึดจากแคว้นฉีให้ พร้อมทั้งส่ง ฉางอันจวิน (长安君) ลูกชายที่ยังเด็กไปเป็นตัวประกันที่แคว้นฉี เพื่อรับประกันว่าจะทำตามสัญญา แคว้นฉีจึงสั่งให้เถียนตานนำทหารสิบหมื่นมาช่วย แคว้นฉินทราบข่าวจึงต้องถอยทัพกลับไปที่ด่านหานกูก่วน

หลังจากนั้น ฟั่นจวี๋ (范雎) ที่ปรึกษาคนสำคัญของฉินจ่าวเซี่ยงหวั๋งจึงได้เสนอแผน ‘ผูกมิตรไกลโจมตีใกล้’ โดยการผูกมิตรกับแคว้นจ้าว เพื่อจะโจมตีแคว้นหานที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อน

ฉินจ่าวเซี่ยงหวั๋งจึงทำตามคำแนะนำของฟั่นจวี๋ส่งทูตไปผูกมิตรกับแคว้นจ้าว ถ้าแคว้นฉินโจมตีแคว้นหาน ขอให้แคว้นจ้าวอย่าได้ส่งทหารไปช่วยแคว้นหาน ถ้าแคว้นจ้าวยอมทำตาม จะแบ่งดินแดนส่วนหนึ่งที่ยึดได้ให้กับแคว้นจ้าว

แต่จ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋ง (赵孝成王) กษัตริย์ของแคว้นจ้าวไม่ยอมเชื่อ เพราะแคว้นฉินขึ้นชื่อเรื่องปลิ้นปล้อนตลบตะแลงผิดสัญญาเป็นว่าเล่น อย่างก่อนหน้านี้ ฉินจ่าวเซี่ยงหวั๋งเคยเสนอว่าจะยก 15 เมืองให้เพื่อแลกกับหยกของแคว้นจ้าว แต่เมื่อให้หลิ่นเซี่ยงหยู (蔺相如) ส่งหยกไปให้ถึงมือ ฉินจ่าวเซี่ยงหวั๋งกลับผิดสัญญาไม่ยอมยกให้ แถมยังคิดจะยึดหยกขึ้นไปดื้อๆ อีก แต่ยังดีที่หลิ่นเซี่ยงหยูคาดไว้แต่แรกแล้วจึงใช้แผนที่เตรียมไว้นำหยกกลับคืนมาได้

ฉินจ่าวเซี่ยงหวั๋งเห็นจ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋งไม่ยอมหลงกลง่ายๆ จึงต้องเปลี่ยนแผนส่ง อี้เหริน (异人) ผู้เป็นหลานชายไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันอยู่ที่แคว้นจ้าว จ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋งจึงยอมรับข้อเสนอของแคว้นฉิน สัญญาว่าจะไม่ยกทัพลงไปช่วยแคว้นหาน

เมื่อตกลงกันได้ แคว้นฉินก็เปิดฉากโจมตีส่งทหารเข้าไปโจมตีแคว้นหานทันที

เวลานั้น แคว้นหานเป็นแคว้นใหญ่พอตัว มีพรมแดนติดกับแคว้นฉิน หานห้วนฮุ่ยหวั๋ง (韩桓惠王) กษัตริย์ของแคว้นหานจึงพยายามรับมือสุดความสามารถ ทั้งสองแคว้นรบกันนานถึงสามปี จนกระทั่งถึงปี 262 ก่อนคริสตกาล แคว้นหานพ่ายแพ้ติดต่อกันหลายครั้ง เสียทหารไปหลายหมื่นคน ทัพฉินยกทัพถึงเทือกเขาไท่สิงซาน ตัดผ่านเส้นทางโดยรอบเอาไว้ ทำให้ดินแดนของแคว้นหานถูกทัพฉินตัดแบ่งเป็นสองส่วน

แคว้นหานรู้ตัวว่าไม่มีกำลังพลมากพอที่จะขับไล่ทัพฉินออกไปได้ จึงส่งคนไปขอความช่วยเหลือจากแคว้นจ้าว โดยเสนอว่าจะยกดินแดนในเขตซางตั๋งจวิน (上党郡) ให้แคว้นจ้าวเป็นการตอบแทน

จ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋งได้ข้อเสนอที่ดีเช่นนี้จึงไม่สนใจสัญญาที่เคยทำไว้กับแคว้นฉิน ยอมตกลงยอมรับข้อเสนอจากแคว้นหานรีบสั่งแม่ทัพเหลียนผ่อ (廉颇) ยกทัพลงไปช่วย

ฉินจ่าวเซี่ยงหวั๋งทราบข่าวจึงโกรธมากรีบส่งคนไปทวงสัญญาบีบบังคับให้ทัพจ้าวถอยทัพกลับไป แต่จ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋งไม่สนใจยังสั่งให้เหลียนผ่อตั้งทัพประจันหน้ากับทัพฉินต่อไป และไม่ยอมคืนตัวหลานชายที่เป็นตัวประกันในแคว้นจ้าวกลับไปด้วย ทำให้ ‘สงครามฉางผิง’ อุบัติขึ้นในเวลาต่อมา

แม่ทัพของแคว้นฉินคือ ไป๋ ฉี่ (白起) แม่ทัพฉินผู้เลื่องชื่อที่ชนะสงครามมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เหลียนป๋อ แม่ทัพแคว้นจ้าวจึงไม่กล้าสู้รบตรงๆ กับทัพฉิน จึงให้ทัพจ้าวตั้งรับอยู่ในที่สูง หวังจะใช้ชัยภูมิที่ได้เปรียบขับไล่ทัพฉินให้ถอยไปเอง

ไป๋ฉีใช้เวลาอยู่นานหลายเดือนยังหาทางเจาะเข้าไปไม่ได้ จึงเสนอแผนให้ฉินจ่าวเซี่ยงหวั๋งปลดตนออกจากตำแหน่ง แล้วสั่งให้หวังเห๋อ (王龁) เป็นแม่ทัพมาคุมแทน หมายจะหลอกให้เหลียนผ่อยกทัพออกมาโจมตี

แต่เหลียนผ่อรู้ทันจึงไม่ยอมหลงกลไป๋ฉี ยังคงตั้งรับอยู่ที่เดิม ทำให้ทั้งสองฝ่ายจึงยันกันไว้อีกหลายวัน

จ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋งเห็นทัพฉินรุกล้ำเข้ามาในดินแดนแคว้นจ้าวอยู่นานแล้ว จึงเร่งรัดให้เหลียนผ่อนำทัพออกโจมตีขับไล่ทัพฉินออกไปจากดินแดนแคว้นจ้าว แต่เหลียนผ่อเอาแต่ตั้งรับไม่ยอมออกรบ ทำให้จ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋งไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ฟั่นจวี๋ทราบข่าวว่าจ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋งไม่พอใจเหลียนผ่อ จึงส่งคนไปปล่อยข่าวในแคว้นจ้าวว่า เหลียนผ่อจัดการได้ไม่ยาก คนที่แคว้นฉินกลัวที่สุดก็คือจ้าวคว่อ (赵括) ลูกชายของจ้าวเชอ (赵奢)

เนื่องจากในปี 270 ก่อนคริสตกาล จ้าวเชอ ผู้เป็นบิดาของจ้าวคว่อเคยรบชนะทัพฉินสังหารทหารฉินไปหลายหมื่นคนที่สงครามเอ้อวี้ (阏与之战)

จ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋งทราบข่าวจึงสั่งให้เรียกตัวจ้าวคว่อมาพูดคุยด้วย จ้าวคว่อผู้นี้เคยโต้เถียงพิชัยสงครามเอาชนะบิดาของตัวเองได้ จึงคิดว่าตัวเองเก่งกว่าบิดาคุยโตโอ้อวดไปทั่ว เมื่อมีโอกาสได้สร้างชื่อจึงเสนอแผนการที่คิดขึ้นไว้ออกมา จ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋งฟังแล้วก็รู้สึกเชื่อถือในฝีมือของจ้าวคว่อจึงสั่งให้เปลี่ยนตัวแม่ทัพทันที แต่หลิ่นเซี่ยงหยู ที่ปรึกษาคนสำคัญของจ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋งไม่เห็นด้วย พยายามคัดค้านไว้ แต่ก็ไม่เป็นผล

เดือน 7 ปี 260 ก่อนคริสตกาล จ้าวคว่อจึงได้เป็นแม่ทัพคุมกองทัพแทนเหลียนผ่อ

ฉินจ่าวเซี่ยงหวั๋งทราบข่าวก็รู้ว่านี่เป็นโอกาสที่จะเอาชนะแคว้นจ้าวจึงรีบคืนตำแหน่งให้กับไป๋ฉี

ส่วนจ้าวคว่อยังไม่ทราบข่าวว่าไป๋ฉีกลับมาคุมกองทัพแทนที่หวังเห๋อแล้วจึงสั่งให้ทัพจ้าวยกทัพออกจากแนวป้องกันเป็นฝ่ายบุกโจมตีทัพฉิน

ไป๋ฉีวางแผนดักรอเล่นงานเหลียนผ่ออยู่นานแล้ว เมื่อเห็นจ้าวคว่อนำทัพออกมาตายแทน จึงแบ่งทหารสองหมื่นห้าพันคนอ้อมไปโจมตีตลบหลังทัพจ้าว และส่งทหารห้าพันคนอ้อมไปตัดเส้นทางขนส่งเสบียง ขวางเส้นทางส่งเสบียงและปิดทางถอยของทัพจ้าวเอาไว้ทั้งหมด ทัพจ้าวเสียท่าก็คิดจะถอยทัพกลับ แต่พื้นที่ที่ทัพจ้าวอยู่นี้เป็นที่ต่ำ ส่วนทัพฉินยึดครองที่สูงเอาไว้ทำให้ยากจะตีฝ่าออกไปได้

ทัพจ้าวจะบุกขึ้นหน้าก็ไม่ได้ จะถอยกลับก็ไม่ได้จึงถูกกักขังอยู่ที่นี่ ทัพฉินก็ไม่บุกโจมตี แค่ยึดชัยภูมิในที่สูงเอาไว้

แคว้นจ้าวทราบข่าวก็ไม่นิ่งนอนใจรีบขอความช่วยเหลือจากแคว้นอื่น แต่หลายสิบปีที่ผ่านมา แคว้นหาน แคว้นเว่ย และแคว้นฉู่เคยแพ้ให้กับแคว้นฉินมาแล้วหลายครั้งจึงหวาดกลัวไม่กล้ายกทัพมาช่วย แคว้นฉีไม่พอใจที่แคว้นจ้าวผิดสัญญาที่ทำไว้ก่อนหน้านี้จึงไม่ยอมยกทัพมาช่วย ส่วนแคว้นเอี้ยนเลือกอยู่ข้างแคว้นฉิน สรุปแล้วไม่มีแคว้นไหนยอมยกทัพมาช่วย แคว้นจ้าวจึงต้องหาทางเอาตัวรอดเอาเอง

ทัพจ้าวติดกับอยู่ที่นี่นานถึงสี่สิบหกวัน ทหารจ้าวหิวโหยไม่มีอาหารให้กิน จึงฆ่ากันเองเพื่อนำศพมากินประทังชีวิต จ้าวคว่อคิดว่าคงไม่มีทัพหนุนมาช่วยแล้วจึงตัดสินใจนำทหารทั้งหมดที่เหลืออยู่ตีฝ่าออกไป ทัพฉินที่อยู่ในที่สูงจึงยิงธนูสังหารทุกคนที่บุกเข้ามา จ้าวคว่อผู้เป็นแม่ทัพถูกยิงตาย ทหารจ้าวที่เหลือจึงต้องยอมจำนนต่อทัพฉิน แต่ไป๋ฉีไม่ยอมไว้ชีวิตแม้แต่คนเดียวสั่งให้ฝังทหารจ้าวทั้งหมดทั้งเป็น

สงครามฉางผิงจึงจบด้วยชัยชนะของแคว้นฉิน จากที่มีการบันทึกไว้ สงครามในครั้งนี้มีทหารจ้าวถูกฆ่าตายไปราวๆ สี่แสนห้าหมื่นคน ทำให้ต่อมาแคว้นจ้าวจึงถูกเรียกว่าแคว้นแห่งหญิงม่ายและเด็กกำพร้า

การพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้แคว้นจ้าวตกต่ำลงจนไม่มีสิทธิ์ขึ้นมาท้าแข่งกับแคว้นฉินได้อีก

อ้างอิง

[แก้]