วิลเลียม หลี่

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วิลเลียม หลี่
เกิด (1974-08-09) สิงหาคม 9, 1974 (49 ปี)
มณฑลอานฮุย ประเทศจีน
สัญชาติจีน
มีชื่อเสียงจากผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของนีโอ

วิลเลียม หลี่ หรือ หลี่ ปิน (จีน: 李斌; พินอิน: Lǐ Bīn; เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1974) เป็นนักบริหารธุรกิจและผู้ประกอบการชาวจีน ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการผู้ผลิตรถพลังงานไฟฟ้านีโอ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะ "อีลอน มัสก์ แห่งเมืองจีน" ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 ฟอบส์คาดการณ์ว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิของหลี่จะอยู่ที่ 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ[1] หลี่ได้ร่วมก่อตั้งและลงทุนในบริษัทกว่า 40 แห่งในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตและยานยนต์

ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา[แก้]

หลี่เกิดในปี ค.ศ. 1974 ที่มณฑลอานฮุยในฟาร์มโคนม เขาได้ทำงานและเข้าโรงเรียน ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เขาและครอบครัวของเขาเก็บเงินเพื่อที่หลี่จะได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย หลี่เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งซึ่งเขาได้รับปริญญาตรีด้านสังคมวิทยาและวิชาโทด้านกฎหมาย[2]

อาชีพ[แก้]

บิตออโตโฮลดิงส์ลิมิเต็ด[แก้]

บิตออโตโฮลดิงส์ลิมิเต็ด ได้รับการก่อตั้งขึ้นโดยหลี่ในปี ค.ศ. 2000 ซึ่งเป็นบริษัทหลักแห่งแรกของหลี่ที่เขาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและประธาน แล้วเขาก็ได้ขายบริษัทนี้ในปี ค.ศ. 2013[3]

นีโอ[แก้]

ในเดือนพฤศจิกายนปี ค.ศ. 2014 หลี่ได้ก่อตั้งนีโอ ซึ่งผลิตรถพลังงานไฟฟ้าแบบหรูที่ต้องการเจาะเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่ของจีน หลังจากที่บริษัทเปิดตัว บริษัทอื่น ๆ อีกมากได้ร่วมลงทุนอย่างโดดเด่นเป็นส่วนใหญ่ซึ่งรวมถึง เทนเซ็นต์, เทมาเส็ก, ไป่ตู้, เลอโนโว และทีพีจี[4] ภายในปี ค.ศ. 2016 นีโอมีมูลค่าทรัพย์สินเกือบหนึ่งพันล้านจากหุ้นส่วน และต่อมาในปีดังกล่าวบริษัทได้เปิดตัวนีโอ อีพี 9 ซึ่งเป็นคูเปสองประตู[5] โดยใช้เวลาการพัฒนาเกือบ 18 เดือน[6][7]

ในการสัมภาษณ์กับรายการ 60 มินิทส์ ปี ค.ศ. 2019 หลี่เผยว่าได้ผลิตนีโอ 10,000 คันในปี ค.ศ. 2017 และ 14,000 คันในปี ค.ศ. 2018 หลี่ยังกล่าวอีกว่าบริษัทหวังที่จะนำส่ง 20,000 คันขึ้นไปในปี ค.ศ. 2019[8][9][10]

ในปี ค.ศ. 2018 บริษัทได้เปิดตัวที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กพร้อมกับการสั่นกระดิ่งของหลี่[11][12]

รางวัลและเกียรติยศ[แก้]

  • ผู้ประกอบการจีคิว ไชนา แห่งปี - ค.ศ. 2017
  • บุคคลสมาคมตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จีนแห่งปี - ค.ศ. 2017[13]
  • บุคคลสำคัญทางเศรษฐกิจของจีน 10 อันดับแรก ปี ค.ศ. 2017[14]

อ้างอิง[แก้]

  1. "William Li". Forbes (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-02-25.
  2. "Tesla's success sparks China's electric cars race - Business - Chinadaily.com.cn". www.chinadaily.com.cn. สืบค้นเมื่อ 2019-02-25.
  3. "Continental and NIO Sign Strategic Cooperation Agreement in the Field of Electric Vehicles". Continental Malaysia - Homepage (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-02-25.
  4. "William Li is the founder and chairman of NIO". 蔚来资本官网 (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-02-25. สืบค้นเมื่อ 2019-02-25.
  5. Collins, Jim (2018-09-15). "Stop Calling Nio the Chinese Tesla: It Has a MUCH Brighter Future". RealMoney (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-02-25.
  6. Michaels, Harrison Jacobs, Matthew. "The Elon Musk of China explains why its 'Tesla killer' won't fall into the same trap as troubled electric car startup Faraday Future". Business Insider. สืบค้นเมื่อ 2019-02-25.
  7. admin@thepassage.cc. "Who Is Li Bin?". thepassage.cc (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-02-25. สืบค้นเมื่อ 2019-02-25.
  8. Michaels, Harrison Jacobs, Matthew. "The Elon Musk of China explains why its 'Tesla killer' won't fall into the same trap as troubled electric car startup Faraday Future". Business Insider. สืบค้นเมื่อ 2019-02-25.
  9. "In China, an electric car lifestyle". www.cbsnews.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-02-25.
  10. Murphy, Mike. "Nio CEO touts its electric cars as 'ticket to a new lifestyle'". MarketWatch (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2019-02-25.
  11. "China's drive to dominate the electric car industry". www.cbsnews.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-02-25.
  12. Aycock, Jason (2019-02-22). "Nio gets boost as '60 Minutes' promos positive piece". Seeking Alpha (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2019-02-25.
  13. "Bloomberg - Are you a robot?". www.bloomberg.com. สืบค้นเมื่อ 2019-02-25. {{cite web}}: Cite ใช้ชื่อทั่วไป (help)
  14. "Day 2 Sends Nio's Shares Flying 76% - capitalwatch.com - via @CapitalWatchCom". www.capitalwatch.com. สืบค้นเมื่อ 2019-02-25.