วอตช์ด็อกส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วอตช์ด็อกส์
ผู้พัฒนาUbisoft Montreal[a]
ผู้จัดจำหน่ายยูบิซอฟต์
กำกับJonathan Morin
อำนวยการผลิตDominic Guay
ออกแบบDanny Bélanger
โปรแกรมเมอร์Patrice Zink
เขียนบทKevin Shortt
แต่งเพลงBrian Reitzell
ชุดวอตช์ด็อกส์
เครื่องเล่น
วางจำหน่าย
27 พฤษภาคม 2014
  • วินโดวส์, เพลย์สเตชัน 3, เพลย์สเตชัน 4, เอกซ์บอกซ์ 360, เอกซ์บอกซ์วัน
    • ทั่วโลก: 27 พฤษภาคม 2014
    วียู
    • NA: 18 พฤศจิกายน 2014
    • AU: 20 พฤศจิกายน 2014
    • EU: 21 พฤศจิกายน 2014
    สตาเดีย
    • ทั่วโลก: 9 ธันวาคม 2020
แนวแอ็กชันผจญภัย
รูปแบบผู้เล่นเดี่ยว, หลายผู้เล่น

วอตช์ด็อกส์ (อังกฤษ: Watch Dogs; หรือเขียนเป็น WATCH_DOGS) เป็นเกมแอ็กชันผจญภัย ผลิตโดย Ubisoft Montreal และจัดจำหน่ายโดยยูบิซอฟต์[3] รองรับไมโครซอฟท์ วินโดวส์, เพลย์สเตชัน 3, เพลย์สเตชัน 4, เอกซ์บอกซ์ 360, เอกซ์บอกซ์วัน และวียู[4] รุ่นที่วางแผนไว้ในการเปิดตัวไตรมาสที่สี่ในปี พ.ศ. 2557 โดยเมืองในตัวเกมนั้นเป็นเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอย โดยในรูปแบบวิดีโอเกมผู้เล่นคนเดียว โดยเรารับบทบาทเป็นแฮคเกอร์และความพยายามในการแสวงหาที่จะแก้แค้นหลังการอุบัติเหตุของหลานสาว โดยความอิสระที่ให้ผู้เล่นได้เตร็ดเตร่ไปทั่วเมืองชิคาโกซึ่งนั้นรวมไปถึงชนบท และชุมชมแออัดอีกด้วย

โดยตัวเกมเป็นเกมมุมมองบุคคลที่สามและในการเดินทางสามารถเดินหรือขับรถก็ได้ โดยผู้เล่นเล่นเป็น เอเดน เพียร์ซ ผู้มีความสามารถสูง สวมหมวกสีเทา ซึ่งเป็นแฮคเกอร์ที่สามารถแฮ็คเข้าไปในระบบของ CtOS ระบบศูนย์กลางเมืองซึ่งสามารถจะเชื่อมต่อไปยังเมืองชิคาโกได้ , โดยผู้เล่นสามารถเล่นได้ทั้งสิ่งที่ถูกและผิดกฎหมาย หรือความผิดทางอาญาหรือศาลเตี้ย

เนื้อหา[แก้]

ในเรื่องราวของวอตช์ดอกส์ จะตั้งขึ้นที่ชิคาโก ซึ่งศูนย์รวมของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้เชื่อมโยงทุกๆคนและทุกๆสิ่งเข้าด้วยกัน Watch Dogs สามารถคาดการณ์ได้ถึงผลกระทบอันใหญ่หลวงของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน โดยมีเครือข่ายอันมหึมาของชิคาโกเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ Central Operating System (ctOS) ซึ่งมีอิทธิพลในการควบคุมเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีอยู่ในเมืองแทบทั้งสิ้น โดยจะรวมไปถึงข้อมูลที่เป็นความลับของชาวเมืองชิคาโกได้ด้วย โดยผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็น เอเดน เพียร์ซ (Aiden Pearce) แฮกเกอร์สุดเจ้าเล่ห์แล้วยังเป็นอดีตผู้ก่อการร้ายมือฉมังที่มีประวัติอันดำมืด เขาต้องการที่จะสร้างความยุติธรรมในแบบของเขาเอง ด้วยการควบคุมติดตามและเจาะเข้าไปยังระบบทำให้ผู้เล่นสามารถควบคุม ctOS ได้ด้วยมือของคุณเอง คุณสามารถดึงข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ดาวน์โหลดข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อตามหาเป้าหมาย ควบคุมสัญญาณไฟจราจร รวมไปถึงการหยุดยั้งระบบการคมนาคมขนส่งสาธารณะ และอื่นๆอีกมากมาย

ระบบการเล่น[แก้]

  • เปลี่ยนเมืองทั้งเมืองเป็นอาวุธ: สถานที่คือเมืองจำลองที่เต็มไปด้วยชีวิต เอเดนจะสามารถใช้มือถือสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมโครงสร้างภายในของตัวเมือง วางกับดักศัตรูให้ถูกจู่โจมโดยรถยนต์บนท้องถนนกว่า 30 คันเพียงแค่การเปลี่ยนแปลงสัญญาณไฟจราจร สลับรางรถไฟเพื่อขับออกนอกเส้นทาง หลบหนีการจับกุมอย่างฉับพลันด้วยการยกสะพาน ทุกสิ่งที่เชื่อมต่ออยู่กับ ctOS จะทำหน้าที่เป็นอาวุธของคุณได้ทั้งสิ้น
  • เส้นทางแห่งความยุติธรรม: ในชิคาโก เมืองที่ความรุนแรงจะต้องถูกตอบโต้ด้วยความรุนแรง เอเดนรู้จักกับการต่อสู้แบบข้างถนนเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะสวมบทเป็นนักเลงหัวไม้ โค่นล้มศัตรูด้วยไม้กระบอง หรือจะใช้กระสุนปืนประจุไฟฟ้าชนิดพิเศษที่เหนือกว่าอาวุธปืนทุกชนิด นอกจากนี้ยังมีอาวุธอื่นๆอีกมากกว่า 30 แบบให้เลือกใช้ได้ตลอดการเดินทางของเขา
  • ซิ่งบนรถที่มีพลังงานเต็มสูบ: เมื่อ Ubisoft Montreal จับมือกับสตูดิโอยอดเยี่ยมอย่าง Ubisoft Reflections ที่เป็นผู้ชนะเลิศในซีรีส์ Driver เอเดนไม่จำเป็นต้องเดินเท้าเพื่อที่จะท่องไปในชิคาโกอีกต่อไป เขาสามารถขับขี่ยานพาหนะซึ่งมีกำลังแรงม้าสูงลิ่วและทะยานไปกับรถสุดทันสมัยที่มีให้ใช้งานมากกว่า 65 แบบ โดยแต่ละคันจะมีขีดความสามารถแตกต่างกันไป ให้คุณได้สำรวจเมืองที่กว้างใหญ่และซับซ้อนได้อย่างเต็มที่
  • ทุกอย่างอยู่ในกำมือ: ด้วยกราฟิกส์เอนจินใหม่ล่าสุด Disrupt ได้เสริมพลังให้กับ Watch Dogs เพื่อการประมวลผลอันยอดยิ่งและภาพที่สวยสดล้ำเลิศ
  • ป้อนคำสั่งการใช้งานแบบยืดหยุ่น: Watch Dogs ไม่เพียงแต่จะให้คุณได้ใช้ประโยชน์จาก ctOS อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่คุณจะได้สำรวจทุกซอกทุกมุมและรายละเอียดของชิคาโกอย่างลึกซึ้งด้วย ตั้งแต่การตัดผ่านโครงสร้างอาคารให้เห็นได้ถึงเนื้อใน สำรวจที่อยู่ใต้ดินสุดอันตรายเพื่อตามล่าเป้าหมายของคุณและกำจัดให้สิ้นซาก

การวางจำหน่าย[แก้]

ในวันที่ 27 พฤษภาคมพ.ศ. 2557 บริษัทิ Ubisoft จะเริ่มเปิดจองก่อนวันงาน จากการที่เลือนการวางำหน่าย จาก 29 มีนาคม 2556[5]

ในกล่องแบบแบบ collectors' editions ของเกม Watch Dogs และระบบการเล่นเสริมจำนวน 4 ระบบ เพิ่มนอกเหนือจากการเล่นระบบปกติโดยมีทั้ง ภารกิจ เครื่องมือ และ เนื้อหาที่เพิ่มเติมขึ้นมากกว่าเดิม โดยมีทั้งหมด 4 แบบ The Dedsec, Vigilante, Uplay, Special and Limited มีทั้งในระบบเกมคอนโซลและเหมบนพีซี [6]

Features Standard Special Edition Vigilante Edition Uplay Exclusive Edition Limited Edition Dedsec Edition
แผ่นเกม ใช่ ใช่ ใช่ ใช่ ใช่ ใช่
Watch Dogs แผนเมืองชิคาโก ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ใช่
ภารกิจเล่นเดียว Breakthrough Pack ไม่ ใช่ ไม่ ใช่ ไม่ ใช่
Palace Pack ไม่ ไม่ ใช่ ใช่ ไม่ ใช่
Signature Shot ไม่ ไม่ ไม่ ใช่ ไม่ ใช่
ภารกิจ พิเศษ ไม่ ไม่ ใช่ ไม่ ใช่ ใช่
เพลงประกอบเกม ไม่ ไม่ ใช่ ไม่ ใช่ ใช่
หมวกและหน้ากาก เอเดน เพียร์ซ ไม่ ไม่ ใช่ ไม่ Mask Only ไม่
หนังสือเบื้องภาพร่างและการออกแบบ ไม่ ไม่ ไม่ ใช่ ใช่ ใช่
หุ่นจำลอง เอเดน เพียร์ซ ไม่ ไม่ ไม่ ใช่ ใช่
Watch Dogs อาร์ตบุค ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ใช่ ใช่
การ์ด Collectible ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ใช่
Exclusive Badges ของแถม ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ใช่

โดยมีการวางจำหน่าย แบบพิเศษ ผ่านทาง GameStop โดยการสั่งซื้อล่วงหน้า โดยมีการ เพิ่ม สมุดรวมการสร้างของAlex Ross อีกด้วย [7]

ผลตอบรับ[แก้]

รางวัล[แก้]

ปี รางวัล หมวดหมู่ ผล อ้างอิง
2012 30th Golden Joystick Awards One to Watch เสนอชื่อเข้าชิง [8][9]
2013 31st Golden Joystick Awards Most Wanted เสนอชื่อเข้าชิง [10][11]
VGX 2013 Most Anticipated Game เสนอชื่อเข้าชิง [12]
2014 32nd Golden Joystick Awards Best Original Game เสนอชื่อเข้าชิง [13][14]
Best Multiplayer เสนอชื่อเข้าชิง
Best Gaming Moment (being invaded) เสนอชื่อเข้าชิง
Game of the Year เสนอชื่อเข้าชิง
Studio of the Year (Ubisoft Montreal) ชนะ
NAVGTR Awards Lighting/Texturing (Jean-Philippe Leroux) เสนอชื่อเข้าชิง [15]
Performance in a Drama, Supporting (Aaron Douglas as Jordi Chin) เสนอชื่อเข้าชิง
Game, Original Adventure (Jonathan Morin) เสนอชื่อเข้าชิง
Control Design, 3D เสนอชื่อเข้าชิง

หมายเหตุ[แก้]

  1. Additional work by Ubisoft Reflections, Ubisoft Paris, Ubisoft Quebec, and Ubisoft Bucharest;[1] Ubisoft Reflections contributed nearly ninety staff members.[2]

อ้างอิง[แก้]

  1. Brightman, James (May 15, 2014). "Watch Dogs becomes Ubisoft's most pre-ordered new IP". GamesIndustry.biz. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 1, 2014.
  2. Weber, Rachel (February 28, 2013). "On Reflections: First interview with the Ubisoft studio's new MD". GamesIndustry.biz. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 26, 2015.
  3. Karmali, Luke (March 6, 2014). "Watch Dogs Release Date Officially Announced". IGN. สืบค้นเมื่อ March 6, 2014.
  4. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-06. สืบค้นเมื่อ 2014-03-30.
  5. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-06. สืบค้นเมื่อ 2014-03-30.
  6. "Watch Dogs Collectors Editions". Ubisoft. April 29, 2013.
  7. Gaudiosi, John (May 1, 2013). "Alex Ross Talks Watch_Dogs Poster, Digital Comics And Video Games As Art". Forbes.
  8. Reynolds, Matthew (August 23, 2012). "Golden Joystick Awards 2012 public voting now open". Digital Spy. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 30, 2016.
  9. Martin, Liam (October 26, 2012). "'Skyrim' voted 'Game of the Year' at 2012 Golden Joystick Awards". Digital Spy. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 11, 2018.
  10. Leack, Jonathan (August 29, 2013). "Golden Joystick Awards Announces Game of the Year 2013 Nominees". CraveOnline. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 11, 2018.
  11. Staff (October 25, 2013). "Here are your Golden Joystick Award winners 2013". GamesRadar. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 1, 2015.
  12. McWhertor, Michael (November 18, 2013). "Spike VGX 2013 award nominees announced". Polygon. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 18, 2013.
  13. Reynolds, Matthew (September 24, 2014). "Golden Joystick Awards 2014 public voting now open". Digital Spy. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 11, 2018.
  14. Arce, Nicole (October 28, 2014). "Golden Joystick Awards 2014: The winners are..." Tech Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 11, 2018.
  15. "2014 NAVGTR Winners: Dragon 5, Alien/Mordor/South Park 4". NAVGTR. February 16, 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 17, 2015.

อ่านเพิ่ม[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]