วงศ์ตีนเป็ด
วงศ์ตีนเป็ด | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Angiosperms |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Eudicots |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Asterids |
อันดับ: | Gentianales |
วงศ์: | Apocynaceae L. |
วงศ์ตีนเป็ด หรือ วงศ์ไม้ลั่นทม หรือ วงศ์โมก[1] (ชื่อวิทยาศาสตร์: Apocynaceae) หรือ Dogbane Family เป็นชื่อวงศ์พรรณไม้ของพืชในสกุล lสกุลลั่นทม หรือ ลีลาวดี, ตีนเป็ด, ลักษณะเด่นคือทุกส่วนของต้นพืชมีน้ำยางขาวมี ใบเป็นเดี่ยวติดตรงข้ามหรือติดเป็นวงรอบข้อ ขอบใบเรียบเส้นแขนงใบเป็นร่างแห กลีบดอกเชื่อมติดกัน เกสรเพศผู้มี 5 อันติดบนท่อกลีบดอก มีเกสรเพศเมีย 2 อันเชื่อมติดกัน รังไข่ติดเหนือวงกลีบ รังไข่มี 2 ช่อง ผลเป็นฝักคู่ หรือเดี่ยวแตกตามแนวเดียว เมล็ดมีขนเป็นกระจุกที่ปลาย ในวงศ์นี้เป็นไม้หวงห้าม 4 สกุล คือ สกุลตีนเป็ด สกุลไยลูตง สกุลโมกหลวง และสกุลโมกมัน ไม้ตีนเป็ด จัดเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530
ลักษณะประจำวงศ์
[แก้]วงศ์ตีนเป็ดเป็นวงศ์ของ ไม้ต้น ไม้พุ่ม หรือไม้เลื้อย ซึ่งมียางสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยวติดตรงข้ามหรือติดเป็นวงรอบข้อ ดอกออกเป็นช่อตามง่ามใบหรือตามปลายยอด และเป็นดอกสมบูรณ์เพศสมมาตรตามรัศมี กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีอย่างละ 5 กลีบ กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปแจกัน รูปทรงกระบอก รูปกรวย รูปคนโท หรือรูปวงล้อ ปลายกลีบซ้อนกัน เกสรเพศผู้มี 5 อันติดบนท่อกลีบดอก รังไข่ติดเหนือวงกลีบ มีเกสรเพศเมีย 2 อัน เชื่อมติดกัน ยอดเกสรเพศเมียมีอันเดียว รังไข่ภายในมี 2 ช่องหรือมีช่องเดียว ผลมีลักษณะทั้ง นุ่มมีเมล็ดเดี่ยว และ แข็ง หรือหลายเมล็ด หรือผลเป็นฝักคู่ เมื่อแก่แตก หรือผลแตกตามแนวเดียว เมล็ดมีขนเป็นกระจุกที่ปลาย
วงศ์ใกล้เคียง
[แก้]- วงศ์นมตำเลีย (ชื่อวิทยาศาสตร์: Asclepiadaceae) ลักษณะที่แตกต่างคือ วงศ์นมตำเลียจะมีกลีบดอกแยกกันเป็นรูปวงล้อ ก้านเกสรเพศผู้สั้น หรือไม่มีเลย รังไข่ติดเหนือวงกลีบ หรือติดค่อนข้างใต้วงกลีบ ผลมักมีปุยขนที่ปลายด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว ในระบบ APG รวมเข้ากับวงศ์ตีนเป็ดแล้ว
- วงศ์เข็ม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Rubiaceae) โดยวงศ์เข็มมีหูใบร่วมระหว่างโคนก้านใบ รังไข่ติดใต้วงกลีบ บางครั้งพบติดอยู่เหนือวงกลีบ
- วงศ์กันเกรา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Loganiaceae) เพียงแต่วงศ์กันเกราไม่มีหูใบ บางที่พบว่ามีรังไข่ติดอยู่เหนือวงกลีบ หรือบางครั้งพบติดอยู่เกือบใต้วงกลีบ
การจัดจำแนก
[แก้]วงศ์ย่อย
[แก้]Apocynoideae และ Rauvolfioideae เป็นส่วนของวงศ์ Apocynaceae อย่างแคบ ส่วนอีกสามวงศ์ย่อยมาจากวงศ์นมตำเลีย
สกุล
[แก้]- Acokanthera
- Adenium
- Aganonerion
- Aganosma
- Alafia
- Allamanda
- Allomarkgrafia
- Allowoodsonia
- สกุลตีนเป็ด (Alstonia)
- Alyxia
- Amalocalyx
- Ambelania
- Amsonia
- Ancylobothrys
- Anechites
- Angadenia
- Anodendron
- Apocynum
- Araujia
- Arduina
- Artia
- Asclepias
- Asketanthera
- Aspidosperma
- Baissea
- Beaumontia
- Bousigonia
- Cabucala
- Callichilia
- Calocrater
- Cameraria
- Caralluma
- Carissa
- Carpodinus
- Carruthersia
- Carvalhoa
- Catharanthus
- Cerbera
- Cerberiopsis
- Ceropegia
- Chamaeclitandra
- Chilocarpus
- Chonemorpha
- Cionura
- Cleghornia
- Clitandra
- Condylocarpon
- Couma
- Craspidospermum
- Crioceras
- Cycladenia
- Cyclocotyla
- Cylindropsis
- Cynanchum
- Delphyodon
- Dewevrella
- Dictyophleba
- Dipladenia
- Diplorhynchus
- Dyera
- Ecdysanthera
- Echites
- Elytropus
- Epigynium
- Eucorymbia
- Farquharia
- Fernaldia
- Forsteronia
- Funtumia
- Galactophora
- Geissospermum
- Gonioma
- Grisseea
- Gymnema
- Hancornia
- Haplophyton
- Himatanthus
- Holarrhena
- Hoya
- Hunteria
- Hymenolophus
- Ichnocarpus
- Isonema
- Ixodonerium
- Kamettia
- Kibatalia
- Kopsia
- Lacmellea
- Landolphia
- Laubertia
- Laxoplumeria
- Lepinia
- Lepiniopsis
- Leuconotis
- Lochnera
- Lyonsia
- Macoubea
- Macropharynx
- Macrosiphonia
- Malouetia
- Mandevilla
- Mascarenhasia
- Melodinus
- Mesechites
- Micrechtites
- Microplumeria
- Molongum
- Mortoniella
- Motandra
- Mucoa
- Neobracea
- Neocouma
- Nerium
- Nouettea
- Ochrosia
- Odontadenia
- Oncinotis
- Orthopichonia
- Pachypodium
- Pachouria
- Papuechites
- Parahancornia
- Parameria
- Parepigynum
- Parsonsia
- Peltastes
- Pentalinon
- Periploca
- Petchia
- Picralima
- Plectaneia
- Pleiocarpa
- Pleioceras
- (สกุลลีลาวดี) หรือ (อังกฤษ: Genus Plumeria)
- Pottsia
- Prestonia
- Pycnobotrya
- Quiotania
- Rauvolfia
- Rhabdadenia
- Rhazya
- Rhigospira
- Rhodocalyx
- Rhyncodia
- Saba
- Schizozygia
- Secondatia
- Sindechites
- Skytanthus
- Spirolobium
- Spongiosperma
- Stemmadenia
- Stephanostegia
- Stephanostema
- Stipecoma
- Strempeliopsis
- Strophanthus
- Tabernaemontana
- Tabernanthe
- Temnadenia
- Thenardia
- Thevetia
- Tintinnabularia
- Trachelospermum
- Urceola
- Urnularia
- Vahadenia
- Vallariopsis
- Vallaris
- Vallesia
- Vinca
- Vincetoxicum
- Voacanga
- Willughbeia
- Woytkowskia
- Wrightia
- Xylinabaria
- Xylinabariopsis
การกระจายพันธุ์
[แก้]พันธุ์ไม้ในวงศ์นี้มีประมาณ 180 สกุล 1,500 ชนิด กระจายพันธุ์ในประเทศไทย 42 สกุล 150 ชนิด โดยมีสกุลเด่นๆคือ
- สกุลตีนเป็ด (ชื่อวิทยาศาสตร์: Alstonia) มีลักษณะผลเป็นฝักคู่ ขึ้นในป่าดิบที่ต่ำ ได้แก่ ตีนเป็ดหรือพญาสัตบรรณ (Alstonia scholaris (L.) R. Br.)
- สกุลตีนเป็ดทะเล (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cerbera) ไม้ต้น ขึ้นตามป่าชายเลนและป่าชายหาด ได้แก่ ตีนเป็ดทราย (Cerbera manghas L.) ผลมีเนื้อเมล็ดแข็ง
- สกุลไยลูตง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Dyera) ไม้ต้น ขึ้นตามป่าชายหาด ได้แก่ ตีนเป็ดแดง (Dyera costulata (Miq.) Hook.f.) ผลเป็นฝักคู่ เมล็ดรีแบนมีปีก
- สกุลคุย (ชื่อวิทยาศาสตร์: Willughbeia) ไม้เลื้อย ผลนุ่ม กลม สีเหลืองหรือส้ม ได้แก่ คุย (Willughbeia edulis Roxb.)
- สกุลโมกหลวง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Holarrhena) ไม้พุ่มผลัดใบหรือไม้ต้น สูงได้ถึง 15 เมตร เปลือกต้นสีเทาอ่อนถึง น้ำตาล หลุดลอกเป็นแผ่นกลมๆ ไม่เท่ากัน เช่น โมกหลวง (Holarrhena pubescens)
- สกุลโมกมัน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Wrightia) ไม้ต้นผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง 8 - 20 เมตร เปลือกสีขาวหรือสีเทาอ่อนถึงน้ำตาล นิ่มคล้ายจุกไม้ก๊อร์ค เช่น โมกมัน (Wrightia arborea (Dennst.) Mabb.)
อ้างอิง
[แก้]- ก่องกานดา ชยามฤต. ลักษณะประจำวงศ์พรรณไม้. กรุงเทพมหานคร : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, 2548. ISBN 974-415-175-7
- วงศ์ตีนเป็ด เก็บถาวร 2007-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สวนพฤกษศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
- ตีนเป็ด เก็บถาวร 2007-07-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ส่วนปลูกป่าเอกชน กรมป่าไม้
- ภาณุมาศ ลาดปาละ และคณะ. ลักษณะโครงสร้างสังคมพืชในป่าเบญจพรรณต่อการเปลี่ยนแปลงวัฎจักรคาร์บอน. กรุงเทพมหานคร : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, 2547.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-27. สืบค้นเมื่อ 2007-08-26.