ลัมโบร์กีนี คูนทาช

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ลัมโบร์กีนี คูนทาช
ลัมโบร์กีนี คูนทาช แอลพี500 เอส
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตลัมโบร์กีนี
เริ่มผลิตเมื่อค.ศ. 1974 – 1990
(1,983 คัน)
แหล่งผลิตSant'Agata Bolognese, ประเทศอิตาลี
ผู้ออกแบบมาเซลโล แกนดินี (Marcello Gandini) จากสำนักออกแบบเบอร์โทน[1]
โฮราชิโอ ปากานี (Horacio Pagani; ในรุ่น 25th Anniversary Countach)
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภทรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง (Sports car)
รูปแบบตัวถัง2 ประตู คูเป
โครงสร้างเครื่องยนต์กลางลำหลังตามยาว ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (RMR)
จำนวนประตู2 แบบลัมโบดอร์ (Lambo doors)
ระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์เครื่องลัมโบร์กีนี V12
LP400, LP400 S: 3,929 cc (3.9 L)
LP500 S: 4,754 cc (4.8 L)
5000 QV, 25th Anniversary: 5,167 cc (5.2 L)
ระบบเกียร์เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ[2]
มิติ
ระยะฐานล้อ2,450 mm (96.46 in)[3]
ความยาว4,140 mm (162.99 in)[4]
ความสูง1,070 mm (42.13 in)[3][4]
ระยะเหตุการณ์
รุ่นก่อนหน้าลัมโบร์กีนี มิวรา
รุ่นต่อไปลัมโบร์กีนี ไดอะโบล (โดยตรง)
ลัมโบร์กีนี คูนทาช LPI 800-4 (ชื่อ)

ลัมโบร์กีนี คูนทาช (อังกฤษ: Lamborghini Countach) เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง เครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (RMR) 2 ประตู 2 ที่นั่ง ผลิตโดยบริษัทรถยนต์สัญชาติอิตาลี ลัมโบร์กีนี ระหว่างปี ค.ศ. 1974 - 1990 ผู้ออกแบบรถได้ใช้วิธีออกแบบทรงรถที่บีบอัด ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในการออกแบบรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง ในเวลาต่อ ๆ มา รถยังใช้แนวทางการออกแบบตามหลัก "แคปฟอร์เวิร์ด" (cab forward) ซึ่งทำให้มีพื้นที่ท้ายรถไว้วางเครื่องมากขึ้น

รถต้นแบบคันแรก เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1971 ที่งานเจนีวามอเตอร์โชว์ หลังจากนั้นก็ได้วางจำหน่ายรุ่นย่อยเสริมมากมาย ได้แก่ Countach LP500 prototype, Countach LP400, Countach LP400 S, Countach LP500 S, Countach LP Turbo S, Countach 5000 Quattrovalvole และ 25th Anniversary Countach โดยรุ่นย่อยของคูนทาชทั้งหมด ล้วนเป็นคูเปทั้งสิ้น ไม่มีรุ่นที่เป็นเปิดประทุนเลย รถแต่ละคันใช้ประตูแบบลัมโบร์ดอร์ (Lambo doors) ซึ่งกลายเป็นแบบประตูที่ใช้เรื่อยมาตลอดสายการผลิตรุ่นใกล้เคียงของลัมโบร์กีนีรุ่นนี้ ได้แก่ ไดอะโบล มูร์เซียลาโก และ อะเวนตาโดร์

ในปี ค.ศ. 2004 นิตยสาร สปอร์ตสคาร์อินเตอร์เนชันแนล ได้จัดอันดับคูนทาช ในลำดับที่ 3 บนหัวข้อ รถสปอร์ตแห่งทศวรรษที่ 1970 และอันดับ 10 ในหัวข้อ รถสปอร์ตแห่งทศวรรษที่ 1980 อีกด้วย

ชื่อเรียก[แก้]

คำว่า คูนทาช (countach) (ออกเสียง: [kuŋˈtatʃ]) เป็นคำวิเศษของคำว่า "ความอัศจรรย์" (astonishment) ในภาษาท้องถิ่นของอิตาลี (ภาษาปีเยมอนเต)[5] ซึ่งมีความหมายว่า "perbacco" หรือ "accidenti" ("สวรรค์!")

ยอดผลิต[แก้]

ทั้งหมด 1,983 คัน ตลอดสายการผลิต 16 ปี

Prototype LP400 LP400 S LP500 S 5000 QV 25 Anniversary
1 157 237 321 610 657

ข้อมูลเทคนิค[แก้]

รุ่น ขนาดเครื่องยนต์ กำลัง แรงบิด อัตราส่วนกำลังอัดเครื่องยนต์ ระบบฉีดเชื้อเพลิง
LP500 prototype 4,971 cc (303.3 cu in) 328 kW (446 PS) 448 N·m (330 lbf·ft) at 5,750 rpm 10.5:1 คาร์บูเรเตอร์
LP400 3,929 cc (239.8 cu in) 276 kW (375 PS) 361 N·m (266 lb·ft) at 5,000 rpm 10.5:1 คาร์บูเรเตอร์
LP400 S 261 kW (355 PS) 356 N·m (263 lb·ft) at 5,000 rpm 10.5:1 คาร์บูเรเตอร์
LP500 S 4,754 cc (290.1 cu in) 276 kW (375 PS) 418 N·m (308 lb·ft) at 4,500 rpm 9.2:1 คาร์บูเรเตอร์
LP500 Turbo S prototype 549 kW (746 PS) 876 N·m (646 lb·ft) at 4,500 rpm N/A ทวินเทอร์โบชาร์เจอร์, คาร์บูเรเตอร์
5000 QV 5,167 cc (315.3 cu in) 335 kW (455 PS) 500 N·m (369 lb·ft) at 5,200 rpm 9.5:1 คาร์บูเรเตอร์
25th Anniversary
Evoluzione prototype 5,167 cc (315.3 cu in)[6] 335 kW (455 PS) ที่ 7,000 rpm[6] N/A 9.5:1 Motronic fuel injection[6]

รถรุ่นต่างๆ[แก้]

คูนทาช LP400
คูนทาช LP400 
คูนทาช LP400 S
คูนทาช LP400 S 
คูนทาช LP500 S
คูนทาช LP500 S 
คูนทาช 5000QV
คูนทาช 5000QV 
คูนทาช 25th Anniversary
คูนทาช 25th Anniversary 

Countach LPI 800-4[แก้]

ลัมโบร์กินี คูนทาช แอลพีไอ 800-4 (Lamborghini Countach LPI 800-4)

ชื่อของ Countach กลับมาอีกครั้งกับค่ายกระทิงดุในชื่อ Lamborghini Countach LPI 800-4 มาพร้อมกับขุมพลัง V12 พ่วงระบบ Hybrid กำลังสูงสุด 814 แรงม้า แต่ปัดเศษเหลือ 800 ถ้วนในรหัสห้อยท้ายชื่อ ทั้งยังเป็นรถยนต์ไม่กี่รุ่นของค่าย ที่มีชื่อไม่เกี่ยวข้องกับชื่อของกระทิง

Lamborghini Countach LPI 800-4 ได้แรงบันดาลใจมาจาก Countach จึงคงเอกลักษณ์ไว้หลายประการทั้งไฟหน้าโคมเหลี่ยม, ช่องลมกันชนหน้าแบบเหลี่ยม, ช่องดักอากาศฝากระโปรงหน้าทรงเหลี่ยม, ประตูแบบปีกนกเอกลักษณ์ของค่าย สำหรับรุ่นที่ใช้ขุมพลัง V12 โดยใช้เป็นครั้งแรกใน Countach ต้นตำรับ, ช่องลมข้างประตูแบบสามเหลี่ยม และ ล้อลายแป้นหมุนโทรศัพท์ทรงกลมย้อนยุค ขนาด 20 -21 นิ้ว

สีตัวถังมีทางเลือกสีเดียวกับของ Countach ในอดีตทั้ง สีขาว Impact White, สีเหลือง Giallo Countach และ สีเขียว Verde Medio ห้องโดยสารมีหน้าจอสัมผัส HDMI ติดตั้งอยู่กึ่งกลางขนาด 8.4 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อหลากหลายรูปแบบรวมถึง Apple CarPlay ทั้งยังมีปุ่มกดพิเศษชื่อว่า Stile (หมายถึง Design) ซึ่งเมื่อกดปุ่มนี้แล้ว จะมีคำอธิบายปรัชญาการออกแบบของ Countach มาให้ชมกัน

ขุมพลังของ Lamborghini Countach LPI 800-4 เป็นเครื่องยนต์เบนซินวางกลาง แบบ V12 ขนาด 6,498 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 95 x 76.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.8 : 1 กำลังสูงสุด 780 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 720 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบ/นาที

เสริมระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 34 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 35 นิวตันเมตร พละกำลังทั้งระบบรวมกัน 814 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ ISR 7 จังหวะ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ตัวเลขสมรรถนะมีดังนี้

  • ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 2.8 วินาที
  • ทำอัตราเร่ง 0 – 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.6 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 355 กิโลเมตร/ชั่วโมง

น้ำหนักตัวถังอยู่ที่ 1,595 กิโลกรัม เนื่องจาก platform แบบ monocoque และเปลือกตัวถังทั้งหมดทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักจึงอยู่ที่ 1.95 กิโลกรัม/แรงม้า ระบบเบรกเป็นแบบ carbon ceramic ด้านหน้าใช้คาลิปเปอร์ขนาด 6 สูบ พร้อมจานขนาด 400 x 38 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังใช้คาลิปเปอร์ขนาด 4 สูบ พร้อมจานขนาด 380 x 38 มิลลิเมตร

Lamborghini Countach LPI 800-4 เปิดตัวเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2021 มีกำหนดการเริ่มส่งมอบทั่วโลกตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2022 และผลิตจำนวนจำกัด 112 คัน เป็นสาเหตุให้ในขณะที่รถยนต์รุ่นนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนา มีรหัสเรียกภายในว่า LP112

Lamborghini Countach LPI 800-4 ขับเคลื่อนสี่ล้อผ่านเกียร์ ISR 7 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.8 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ 355 กม./ชม. โดยผลิตจำนวนจำกัด 112 คันทั่วโลก เริ่มส่งมอบคันแรกในไตรมาสแรกของปี 2565

Lamborghini Countach LPI 800-4 ราคา 2.64 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 87 ล้านบาท ดังนั้นถ้านำเข้ามาขายในไทยราคาควรจะทะลุ 200 ล้านบาท โดยมีข่าวว่า เอกภัทร พรประภา (คิม-พรประภา) ได้สิทธิ์จองไปแล้ว และน่าจะได้รับรถในปี 2566

อ้างอิง[แก้]

  1. "Designer". ajovalo.net. สืบค้นเมื่อ 8 February 2012.
  2. "Image: 73countach2.jpg, (1124 × 542 px)". storm.oldcarmanualproject.com. สืบค้นเมื่อ 1 September 2015.
  3. 3.0 3.1 World Cars 1982. Herald Books. ISBN 0-910714-14-2.
  4. 4.0 4.1 World Cars 1978. Herald Books. ISBN 0-910714-10-X.
  5. Edsall, Larry (2005). Legendary Cars. White Star. ISBN 978-88-544-0098-6.
  6. 6.0 6.1 6.2 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ autocapital evoluzione