ข้ามไปเนื้อหา

มิชิมะ ยูกิโอะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มิชิมะ ยูกิโอะ
三島由紀夫
มิชิมะใน ค.ศ. 1955
เกิดฮิราโอกะ คิมิตาเกะ
14 มกราคม ค.ศ. 1925(1925-01-14)
Nagazumi-cho 2-chome, ยตสึระ-กุ, นครโตเกียว จังหวัดโตเกียว จักรวรรดิญี่ปุ่น[1]
เสียชีวิต25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1970(1970-11-25) (45 ปี)
สาเหตุเสียชีวิตฆ่าตัวตายด้วยการเซ็ปปูก
สุสานสุสานทามะ โตเกียว
การศึกษามหาวิทยาลัยโตเกียว
อาชีพ
  • นักเขียน
  • playwright
  • นักแสดง
  • นายแบบ
  • ผู้กำกับละครและภาพยนตร์
  • ข้าราชการ
  • นักเคลื่อนไหวทางการเมือง
นายจ้าง
องค์การทาเตโนไก ("Shield Society")
อาชีพนักเขียน
ภาษาญี่ปุ่น
ช่วงเวลาร่วมสมัย (คริสต์ศตวรรษที่ 20)
แนวs
แนวร่วมในทางวรรณคดี
ผลงานที่สำคัญ
ช่วงปีที่ทำงาน1938–1970
ชื่อภาษาญี่ปุ่น
คันจิ三島 由紀夫
การถอดเสียง
โรมาจิMishima Yukio
ชื่อภาษาญี่ปุ่น
คันจิ平岡 公威
การถอดเสียง
โรมาจิHiraoka Kimitake
ลายมือชื่อ

มิชิมะ ยูกิโอะ (ญี่ปุ่น: 三島 由紀夫โรมาจิMishima Yukio) เป็นนามปากกาของ ฮิราโอกะ คิมิตาเกะ (ญี่ปุ่น: 平岡 公威โรมาจิHiraoka Kimitake; 14 มกราคม ค.ศ. 1925 - 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1970) เป็นกวีและนักเขียนชาวญี่ปุ่น ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักเขียนท่านหนึ่งที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับ มิชิมะเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมถึง 3 ครั้ง[2] และเกือบได้รับรางวัลนี้ในปี ค.ศ. 1968 (แต่คาวาบาตะ ยาซูนาริได้รับรางวัลแทน)[3]

ประวัติ

[แก้]

มิชิมะ ยูกิโอะ หรือชื่อเกิดว่า ฮิราโอกะ คิมิตาเกะ เกิดเมื่อ ค.ศ. 1925 ในครอบครัวที่มีบรรพบุรุษเป็นซามูไร ตอนยังเป็นเด็ก มิชิมะอาศัยอยู่กับคุณย่า จนถึงปี ค.ศ. 1937 เขาก็ย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัว มิชิมะเป็นเด็กเรียนดี และสนใจในวรรณกรรมตะวันตก งานเขียนของเขาได้รับการตีพิมพ์ตั้งแต่สมัยเขาอยู่ชั้นมัธยมศึกษา เมื่อเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยโตเกียว เขาก็เปลี่ยนมาใช้นามปากกา "มิชิมะ ยูกิโอะ" เพื่อปกปิดอายุตัวเอง[4] หลังเรียนจบ มิชิมะทำงานในกระทรวงการคลัง แต่ต่อมาก็ลาออกมาเขียนนิยาย เขามีแนวคิดที่จะฟื้นฟู "บูชิโด" และต่อต้านการพัฒนาแบบตะวันตกของญี่ปุ่น มิชิมะเชื่อในลัทธิชาตินิยมสุดโต่ง และ มีความคิดฟื้นฟูจักรพรรดิโชวะให้กลับไปมีอำนาจสูงสุดในญี่ปุ่น เพื่อแสดงความรับผิดชอบที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง ที่มาพร้อมกับอิทธิพลของตะวันตก โดยเฉพาะในช่วงการยึดครองญี่ปุ่น และ ช่วงหลังการลงนามสนธิสัญญาซานฟรานซิสโก[5] จึงเริ่มรวบรวมผู้คน จนในวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1970 มิชิมะและพรรคพวกอีก 4 คนก็บุกยึดศูนย์บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น จับผู้บัญชาการเป็นตัวประกัน และปลุกระดมให้กองทัพก่อรัฐประหาร แต่ไม่เป็นผล มิชิมะจึงกระทำเซ็ปปูกุ หรือคว้านท้องตัวเอง[6][7]

ชีวิตส่วนตัว

[แก้]

นอกจากจะเป็นนักเขียน มิชิมะยังเป็นเคยแสดงภาพยนตร์มาแล้ว 5 เรื่อง[8] นอกจากนี้เขายังฝึกเพาะกายและศิลปะการต่อสู้อื่น ๆ อีกด้วย[9]

ด้านความสัมพันธ์ เขาเคยคบหากับโชดะ มิจิโกะ (ต่อมาโชดะเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและทรงขึ้นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ)[10] ต่อมามิชิมะสมรสกับซูงิยามะ โยโกะในปี ค.ศ. 1958 ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 2 คน

อ้างอิง

[แก้]
  1. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ bio-m1
  2. YUKIO MISHIMA - BIOGRAPHY
  3. Revealing the many masks of Mishima
  4. A View of the Snowy Mountain :: 1941-1964
  5. "Yukio Mishima -- C.M. Stassel". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-15. สืบค้นเมื่อ 2015-03-01.
  6. Yukio Mishima Essay - Mishima, Yukio
  7. MISHIMA’S SUICIDE
  8. Yukio Mishima by iMDb
  9. Sun and Steel
  10. The Man Who Would Be Samurai

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]