ภูเขาน้ำแข็งบี-15
ภูเขาน้ำแข็งบี-15 เป็นภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดตามขนาดพื้นที่ตั้งแต่มีการบันทึก[หมายเหตุ 1] มันมีความยาว 295 กม. กว้าง 37 กม. คิดเป็นพื้นที่ขนาด 11,000 ตารางกิโลเมตร—ซึ่งใหญ่กว่าประเทศจาเมกา
ภูเขาน้ำแข็งบี-15 แยกตัวออกมาจากหิ้งน้ำแข็งรอสส์ ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2543 ต่อมาใน พ.ศ. 2546 ภูเขาน้ำแข็งบี-15 ได้แตกออก โดยก้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดมีชื่อว่า บี-15เอ ซึ่งมีขนาด 6,400 ตารางกิโลเมตร[2] บี-15เอ ลอยออกไปจากเกาะรอสส์มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือไปทางทะเลรอสส์ และในเดือนตุลาคม 2548 บี-15เอ ก็ได้แตกออกเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดเล็ก[3] พ.ศ. 2561 ภูเขาลูกใหญ่ที่สุดที่แตกออกจาก บี-15 ยังคงเดินทางขึ้นไปทางทิศเหนือ โดยมีต่ำแหน่งคร่าว ๆ คืออยู่ระหว่างหมู่เกาะฟอล์กแลนด์และเกาะเซาท์จอร์เจีย
ประวัติ
[แก้]ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม พ.ศ. 2543 ภูเขาน้ำแข็งบี-15 ได้แยกตัวออกมาจากหิ้งน้ำแข็งรอสส์ใกล้กับเกาะโรสเวลต์ ทวีปแอนตาร์กติกา[4][5] การแยกตัวออกมานั้นเป็นการแยกตัวตามรอยแต่ที่มีอยู่แล้วตามหิ้งน้ำแข็ง[4] ภูเขาน้ำแข็งสามารถวัดความยาวได้ประมาณ 295 กิโลเมตร กว้าง 37 กิโลเมตร คิดเป็นขนาดพื้นที่ 10,915 ตร.กม.—ขนาดใกล้เคียงกับเกาะจาเมกา นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการที่ก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาแตกออกนั้นเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรตามธรรมชาติในระยะยาวซึ่งเกิดขึ้นทุก ๆ 50–100 ปี[4] ใน พ.ศ. 2543, 2545 และ 2546 แตกออกมาเป็นภูเขาน้ำแข็งเล็ก ๆ หลายลูก โดยมีลูกที่ใหญ่ที่สุดคือ ภูเขาน้ำแข็งบี-15เอ ที่มีขนาด 6,400 ตร.กม.[2]
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2546 ภูเขาน้ำแข็งบี-15เจได้แตกออกจากภูเขาน้ำแข็งบี-15เอ ทำให้บี-15เอได้ลอยตัวออกจากเกาะรอสส์สู่ทะเลรอสส์ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2546 ภูเขาน้ำแข็งรูปมีดบี-15เคได้แตกออกทำให้บี-15เอลอยขึ้นไปทางเหนือ เมื่อถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2548 กระแสน้ำได้พัดบี-15เอไปทางลิ้นน้ำแข็งไดรกัลสกี (เป็นธารน้ำแข็งที่อยู่บริเวณส่วนปลายของธารน้ำแข็งดาวิด มีลักษณะเป็นพื้นน้ำแข็งยืนยาวออกไปในทะเล[6]) ก่อนจะถึงลิ้นน้ำแข็งไดรกัลสกีไม่กี่กิโลเมตร บี-15เอก็เกยตื้นกับภูเขาใต้ทะเล ก่อนจะลอยไปทางเหนืออีกครั้ง[7] ในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2548 บี-15เอชนกับลิ้นน้ำแข็ง ทำให้ส่วนปลายของลิ้นน้ำแข็งแตกออก แต่บี-15เอไม่ได้รับผลกระทบจากการปะทะ[6]
ภูเขาน้ำแข็งบี-15เอยังคงลอยเรียบไปตามชายฝั่งแมกเมอร์โดเซาน์ เมื่อวันที่ 27–28 ตุลาคม พ.ศ. 2548 บี-15เอเกยตื้นที่นอกชายฝั่งแหลมอาแดร์ วิกตอเรียแลนด์และได้แตกออกเป็นภูเขาน้ำแข็งลูกเล็ก ๆ แรงสั่นสั่นสะเทือนจากการชนวัดได้ไกลถึงสถานีวิจัยขั้วโลกใต้อามุนด์เซน-สก็อตต์[8][9] การชนกันครั้งนี้ได้แตกเป็นภูเขาน้ำแข็งบี-15พี บี-15เอ็มและบี-15เอ็น ส่วนภูเขาน้ำแข็งลูกที่ใหญ่ที่สุดใช้ชื่อว่าบี-15เอต่อไป (1,700 ตร.กม.) บี-15เอได้ลอยไกลขึ้นไปทางเหนือก่อนจะแตกออกเป็นภูเขาน้ำแข็งลูกเล็ก ๆ ตามการรายงงานของหน่วยลาดตระเวนการประมงของกองทัพอากาศในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549[ต้องการอ้างอิง] ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 มีผู้พบเห็นเศษภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่หลายลูกห่างจากชายฝั่งทิมารุ ประเทศนิวซีแลนด์เพียง 60 กม. ลูกที่ใหญ่ที่สุดวัดขนาดได้ประมาณ 18 กิโลเมตร โผล่พ้นผิวน้ำทะเล 37 เมตร
ใน พ.ศ. 2561 ศูนย์น้ำแข็งแห่งชาติติดตามภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่เหลือได้ 4 ลูก (ขนาดไม่ต่ำกว่า 37,040 ตร.ม.)[3] เช่น บี-15แซด ที่อยู่ห่างจากเกาะเซาท์จอร์เจียไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือราว 277.8 กิโลเมตร วัดขนาดได้ 18,520x9,260 ตารางเมตร และยังคงลอยไปทางเหนือ ยิ่งมันลอยไปเหนือเท่าไหร่อัตราการละลายของมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้น[10]
ใน พ.ศ. 2563 มีภูเขาน้ำแข็งเพียง 2 ลูกที่ยังติดตามได้คือ บี-15เอเอ อันเป็นเศษของบี-15แซด อยู่บริเวณตะวันออกของเกาะเซาท์จอร์เจียในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ กับอีกลูกคือ บี-15เอบี ที่ยังลอยอยู่นอกชายฝั่งแอนตาร์กติกา[11]
ภาพถ่ายจากดาวเทียม
[แก้]ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]หมายเหตุ
[แก้]- ↑ ภูเขาน้ำแข็งบี-15 เป็นภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดที่บันทึกได้โดยภาพถ่ายจากดาวเทียม ใน พ.ศ. 2499 มีรายงานว่าภูเขาน้ำแข็งในแอนตาร์กติกมีขนาดความยาวประมาณ 333 กิโลเมตร (207 ไมล์) และกว้างประมาณ 100 กิโลเมตร (62 ไมล์) แต่เป็นบันทึกก่อนที่จะมีภาพถ่ายจากดาวเทียม ทำให้ขนาดภูเขาน้ำแข็ง พ.ศ. 2499 นั้นมีความน่าเชื่อถือน้อย[1]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Goering, Laurie (24 March 2000). "Mammoth Iceberg Is Born In Antarctic". Chicago Tribune. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-22. สืบค้นเมื่อ 18 February 2014.
- ↑ 2.0 2.1 Arrigo, Kevin R.; Van Dijken, Gert L. (January–February 2004). "Annual changes in sea-ice, chlorophyll a, and primary production in the Ross Sea, Antarctica". Deep-Sea Research Part II: Topical Studies in Oceanography. 51 (1–3): 117–138. Bibcode:2004DSRII..51..117A. doi:10.1016/j.dsr2.2003.04.003.
- ↑ 3.0 3.1 Specktor, Brandon (2018-06-08). "Antarctica's Largest Iceberg Is About to Die ... Near the Equator". Space.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-08-01.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 "Massive Iceberg Peels Off from Antarctic Ice Shelf". National Science Foundation. 22 March 2000. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-02-07. สืบค้นเมื่อ 17 February 2014.
- ↑ "Biggest iceberg tracked from space". The ATSR Project. 9 May 2000. สืบค้นเมื่อ 17 February 2014.
- ↑ 6.0 6.1 "Pile-up as berg hits Antarctica". BBC. 19 April 2005. สืบค้นเมื่อ 17 February 2014.
- ↑ Bhattacharya, Shaoni (19 April 2005). "World's largest iceberg 'goes bump in the night'". New Scientist. สืบค้นเมื่อ 17 February 2014.
- ↑ MacAyeal, Douglas R.; และคณะ (12 September 2006). "Transoceanic wave propagation links iceberg calving margins of Antarctica with storms in tropics and Northern Hemisphere". Geophysical Research Letters. 33 (17): L17502. Bibcode:2006GeoRL..3317502M. doi:10.1029/2006gl027235.
- ↑ Martin, Seelye; Drucker, Robert; Aster, Richard; Davey, Fred; Okal, Emile; Scambos, Ted; MacAyeal, Douglas (2010). "Kinematic and seismic analysis of giant tabular iceberg breakup at Cape Adare, Antarctica". Journal of Geophysical Research. 115 (B6): B06311. Bibcode:2010JGRB..115.6311M. doi:10.1029/2009jb006700.
- ↑ Eleanor Imster (11 June 2018). "End of the journey for iceberg B-15?". สืบค้นเมื่อ 22 July 2019.
- ↑ Scott Sutherland (28 April 2020). "New satellite images reveal Iceberg A-68's days are numbered". สืบค้นเมื่อ 20 May 2021.
อ่านเพิ่ม
[แก้]- Stone, Gregory S. (2003). Ice Island : Expedition to Antarctica's Largest Iceberg. Boston, Massachusetts: New England Aquarium Press, National Geographic Society. ISBN 1593730179. OCLC 52739140.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- ESA: Situation Around Balleby Islands; Icebergs B-15A, B-15N, C-19A (2 March 2006)
- ESA: Envisat Shows Behemoth B-15A Iceberg Breaking Up (7 November 2005)
- NASA: Antarctic Iceberg Gets Stuck เก็บถาวร 2017-06-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (6 January 2005)
- B-15A Iceberg Blocks McMurdo Sound (NASA Earth Observatory), (2004-12-15)
- Tracking the World's largest Iceberg B 15 (video)