ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อองซาน"
ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560 |
ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560 |
||
บรรทัด 79: | บรรทัด 79: | ||
{{โครง-ส่วน}} |
{{โครง-ส่วน}} |
||
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง สมาชิกของกองทัพพม่าที่ตั้งขึ้นเองบางส่วนได้รับข้อเสนอรับตำแหน่งในกองทัพแห่งชาติของพม่าถายใต้บังคับการของอังกฤษ ข้อตกลงมีขึ้นที่[[ซีลอน]]โดย[[Louis Mountbatten, 1st Earl Mountbatten of Burma|ลอร์ดลุยส์ เมาท์แบตเติน]] เมื่อกันยายน 1945 อองซานไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมการตกลงนี้เพราะเขากำลังตกเป็นประเด็นถกเถียงว่าเขาควรถูกนำเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมหรือไม่ จากบทบาทของเขาในการประหารชีวิตผู้นำมุสลิมใน [[Thaton]] ระหว่างสวคราม<ref>Smith 65-66</ref> |
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง สมาชิกของกองทัพพม่าที่ตั้งขึ้นเองบางส่วนได้รับข้อเสนอรับตำแหน่งในกองทัพแห่งชาติของพม่าถายใต้บังคับการของอังกฤษ ข้อตกลงมีขึ้นที่[[ซีลอน]]โดย[[Louis Mountbatten, 1st Earl Mountbatten of Burma|ลอร์ดลุยส์ เมาท์แบตเติน]] เมื่อกันยายน 1945 อองซานไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมการตกลงนี้เพราะเขากำลังตกเป็นประเด็นถกเถียงว่าเขาควรถูกนำเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมหรือไม่ จากบทบาทของเขาในการประหารชีวิตผู้นำมุสลิมใน [[Thaton]] ระหว่างสวคราม<ref>Smith 65-66</ref> |
||
==การลอบสังหาร== |
|||
ในช่วงปีท้าย ๆ ของ[[British Burma|การปกครองของเจ้าอาณานิคมอังกฤษในพม่า]] อองซานได้ผูกมิตรกับ[[Governor of Burma|ผู้ว่าการพม่า]] [[Reginald Dorman-Smith|เรจินัลด์ ดอร์มัน-สมิธ]] ในปี 1946 ราวหนึ่งปีก่อนเขาถูกลอบสังหาร อองซานเคยกล่าวว่าเขารู้สึกกลัวว่าตนเองอาจถูกลอบสังหาร<ref>Thant 248</ref> |
|||
เวลาราว 10:30 นาฬิกา ของวันที่ 19 กรกฎาคม 1947 รถจีปของกองทัพคันหนึ่งพร้อมกลุ่มชายติดอาวุธขับเข้ามาในสวนของ[[Ministers' Building|อาคารรัฐเลาขาธิการ]] ขณะอองซานกำลังมีประชุมกับสมาชิกรัฐบาลชุดใหม่ อาคารนี้ไม่มีกำแพงหรือรั้วงล้อมในเวลานั้น<ref name="Thant254"/> และถึงแม้จะมีคนเตือนแล้วว่าอองซานกำลังถูกวาวแผนฆาตกรรม<ref name="Lintnerxii">Lintner 2003 xii</ref> ยามรักษาประตูเข้าออกของอาคารก็ไม่มีทีท่าจะกังวลกับชายติดอาวุธกลุ่มนี้ที่เข้ามาในอาคาร<ref name="Thant254"/> ชายสี่คนลงจากรถพร้อมปืน[[Thompson submachine gun|ทอมมีซับแมชชีน]]สามลำ และ [[Sten|สเตน]]หนึ่งลำ<ref>{{Cite web|date=2017-07-17|title=Who Killed Aung San?|url=https://www.irrawaddy.com/from-the-archive/who-killed-aung-san.html|access-date=2021-05-11|website=The Irrawaddy|language=en-US}}</ref> พร้อมระเบิด วิ่งขึ้นบนบันไดเข้าไปยังโถงประชุม ยิงยามรักษาประตูด้านนอกห้อง และบุกเข้าไปในโถงประชุม<ref name="Thant254"/> The gunmen shouted, "Remain seated! Don't move!"<ref name="Lintnerxii"/> อองซานลุกขึ้นและถูกยิงเข้าที่อก เสียชีวิตโดยทันที และมีสมาชิกสภาอีกสี่คนที่ถูกกราดยิง สามคนได้รับบาดเจ็บ และสามคนเท่านั้นที่รอดชีวิต<ref name="Thant254"/> |
|||
อดีตนายกรัฐมนตรีพม่าก่อนสงครามโลกครั้งที่สองคนสุดท้าย [[U Saw]] ถูกจับกุมฐานก่อการฆาตกรรมในวันเดียวกัน<ref>Lintner 2003 xiii</ref> ต่อมา U Saw ถูกตัดสินกระทำผิดจริงและประหารชีวิตโดยการแขวนคอ อย่างไรก็ตามมีการถกเถียงถึงกลุ่มหรือพรรคอื่น ๆ ที่มีส่วนร่วมในการก่อการลอบสังหารอองซานในครั้งนี้ บางส่วนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของอังกฤษเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง<ref>Smith 71-72</ref> |
|||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:04, 19 กรกฎาคม 2564
อองซาน | |
---|---|
အောင်ဆန်း | |
ผู้นำคนที่ 5 แห่งพม่าของบริเตน รองประธานคณะผู้บริหารระดับสูงของพม่า | |
ดำรงตำแหน่ง 26 กันยายน ค.ศ. 1946 – 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 | |
ก่อนหน้า | Sir Paw Tun |
ถัดไป | อู้นุ (เป็นนายกรัฐมนตรี) |
ประธานสันนิบาตเสรีภาพประชาชนต่อต้านฟาสซิสต์ | |
ดำรงตำแหน่ง 27 มีนาคม ค.ศ. 1945 – 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 | |
ก่อนหน้า | ไม่มี |
ถัดไป | อู้นุ |
รัฐมนตรีว่าการสงครามแห่งพม่า | |
ดำรงตำแหน่ง 1 สิงหาคม ค.ศ. 1943 – 27 มีนาคม ค.ศ. 1945 | |
ก่อนหน้า | ไม่มี |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | Htein Lin 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1915 Natmauk, เขตมะกเว, ประเทศพม่าของบริเตน |
เสียชีวิต | 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 ย่างกุ้ง, ประเทศพม่าของบริเตน | (32 ปี)
ลักษณะการเสียชีวิต | ถูกลอบสังหาร |
ที่ไว้ศพ | Martyrs' Mausoleum, ประเทศพม่า |
เชื้อชาติ | พม่า |
ศาสนา | พุทธเถรวาท |
พรรคการเมือง | สันนิบาตเสรีภาพประชาชนต่อต้านฟาสซิสต์ พรรคคอมมิวนิสต์พม่า |
คู่สมรส | Khin Kyi (สมรส 1942) |
บุตร | Aung San Oo Aung San Lin อองซานซูจี Aung San Chit |
ญาติ | U Pha (พ่อ) Daw Suu (แม่) Ba Win (พี่/น้องชาย) Aung Than (พี่/น้องชาย) Sein Win (หลานชาย) Alexander Aris (หลานชาย) |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง โรงเรียนมัธยมในเยนานช่อง |
อาชีพ | นักการเมือง, พลตรี |
ลายมือชื่อ | |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | Burma National Army สันนิบาตเสรีภาพประชาชนต่อต้านฟาสซิสต์ พรรคคอมมิวนิสต์พม่า |
ยศ | พลตรี (เป็นยศที่สูงสุดในสมัยนั้น) |
โบกโยเก อองซาน (พม่า: ဗိုလ်ချုပ် အောင်ဆန်း, เอ็มแอลซีทีเอส: aung hcan:, ออกเสียง: [àʊɰ̃ sʰáɰ̃]; 13 กุมภาพันธ์ 1915 – 19 กรกฎาคม 1947) เป็นนักการเมือง, นักเคลื่อนไหวเพื่อเอกราช และนักปฏิวัติชาวพม่า ผู้ก่อตั้งกองกำลังแห่งชาติพม่า และได้รับการขนานให้เป็นบิดาแห่งรัฐพม่าสมัยใหม่ เขามีบทบาทมากในการได้รับเอกราชของพม่า แต่ถูกลอบสังหารราวหกเดือนก่อนที่พม่าจะได้รับเอกราช
อองซานทั้งก่อตั้งและมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากกับกลุ่มและขบวนการทางการเมือง และเข้าใช้ชีวิตไปกับการศึกษาแนวคิดทางการเมืองต่าง ๆ ตลอด เขาเป็นผู้นิยมการต่อต้านลัทธิจักรวรรดิ และเมื่อเป็นนักศึกษาได้เรียนรู้เกี่ยวกับคอมมิวนิสต์และสังคมนิยม ต่อมาได้ศึกษาเกี่ยวกับลัทธิแพนเอเชียของญี่ปุ่นเมื่อครั้งเป็นสมาชิกของกองทัพญี่ปุ่น เขาได้รับการเลือกตั้งเป็นกรรมการระดับสูงของสภานักศึกษามหาวิทยาลัยย่างกุ้งตั้งแต่ปีแรกที่เข้าเรียน และเป็นบรรณาธิการประจำหนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัย อองซานเข้าร่วมประชาคมตาขิ่นในปี 1938 ในตำแหน่งเลขาธิการ และต่อมาได้ก่อตั้งพรรคคอมนิวสต์พม่า และพรรคสังคมนิยมแห่งพม่า
ชีวิตช่วงต้น
อองซานเกิดที่เมืองเล็ก ๆ ชื่อ Natmauk ใน Magway District เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1915 ในครอบครัวชนชั้นกลาง[1] เข้ามีพี่น้องรวมตัวเอง 9 คน โดยเป็นคนสุดท้อง ในจำนวนนี้เป็นพี่สาวสามคน และพี่บายห้าคน[2] ชื่อ "อองซาน" นั้นตั้งโดยพี่ชายคนหนึ่งของเขา Aung Than อองซานเข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนพุทธของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน Natmauk แต่ต่อมาได้ย้ายไป Yenangyaung ตอนอยู่ประถมสี่ หลังพี่ชายคนโตสุด Ba Win ได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมที่เมืองนั้น[3]
เมื่อเป็นวัยรุ่น อองซานมักอ่านหนัวสือและครุ่นคิดกับตัวเองอยู่คนเดียวเป็นเวลาหลายชั่วโมง ในบทความชิ้นแรกสุดที่เขาได้เขียน ซึ่งตีพิมพ์ในส่วน "ความเห็น" ของ The World of Books เขาต่อต้านแนวคิดปัจเจกนิยมของตะวันตกซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยอู้ตั่น แต่ต่อมาอองซานและอู้ตั่นก็เป็นเพื่อนกัน[4]
การปฏิวัติทะขิ่น
ในเดือนตุลาคม ปี 1938 อองซานออกจากการศึกษานิติศาสตร์และเข้าสู่เวทีการเมืองระดับชาติ ในเวลานี้เขามีจุดยืนต่อต้านอังกฤษและต่อต้านลัทธิจักรวรรดิอย่างมั่นคง เขาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ ทะขิ่น (สมาคมเราชาวพม่า) และเป็นเลขานุการของประชาคมจนถึงเดือนสิงหาคม 1940 ขณะดำรงตำแหน่ง เขาได้มีส่วนช่วยจัดการชุดการนัดประท้วงหยุดงานซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อการปฏิวัติ ME 1300 ซึ่งตั้งตามปีแบบพม่า 1300 ตรงกับเดือนสิงหาคม 1938 ถึงกรกฎาคม 1939[5]
ในวันที่ 18 มกราคม 1939 สมาคมเราชาวพม่าประกาศเจตจำนงที่จะใช้กำลังเพื่อล้มรัฐบาล ส่งผลให้ประชาคมถูกเพ่งเล็งและกำจัดโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ในวันที่ 23 มกราคม ตำรวจบุกเข้าสำนักงานของสมาคมทีทเจดีย์ชเวดากอง และอองซานถูกจับกุมและคุมขังในคุกเป็นเวลา 15 วัน ฐานอั้งยี่และสมรู้ร่วมคิดล้มล้างรัฐบาล แต่ต่อมาได้ถูกเพิกถอนข้อกล่าวหา[6] หลังเขาถูกปล่อยตัว เขาได้วางแผนการเพื่อขับเคลื่อนการได้รับเอกราชของพม่าโดยการเตรียมจัดการนัดประท้วงหยุดงานใหญ่ทั่วประเทศ, การรณรงค์ไม่จ่ายภาษี และจัดความไม่สงบผ่านการรบแบบกองโจร[7]
มนเดือนสิงหาคม 1939 อองซานร่วมก่อตั้งและเป็นเลขาธิการประจำพรรคคอมมิวนิสต์พม่า (CPB) ที่ซึ่งในภายหลังเขายอมรับว่าความสัมพันธ์กับพรรคไม่ค่อยราบรื่นนัก เขาเข้าร่วมและลาออกจากพรรคถึงสองครั้ง ไม่นานหลังตั้งพรรค เขาได้ตั้งองค์กรคล้ายคลึงขึ้นอีก คือ "พรรคประชาปฏิวัติ" (People's Revolutionary Party) หรืออีกชื่อคือ "พรรคปฏิวัติพม่า" (Burma Revolutionary Party) ซึ่งมีจุดยืนมาร์กซิสต์ มีเป้าหมายเพื่อล้มล้างการปกครองของอังกฤษเหนือพม่า ต่อมาพรรคนี้กลายเป็นพรรคสังคมนิยมพม่าหลังสงครามโลกครั้งที่สอง[8]
นับตั้งแต่เป็นนักเรียนจนถึงสมัยทำงานทางการเมือง อองซานแทขไม่ได้รับค่าตอบแทนมากนัก เขาจึงใช่ชีวิตส่วนใหญ่ในช่วงนี้อยู่ในความยากจน สมาชิกและผู้ร่วมงานกับเขาชื่นชมเขามากในฐานะบุคคลที่มีความสามารถในการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมและจรรบาบรรณการทำงานที่แข็งแกร่ง แต่บางครั้งก็ถูกวิจารณ์ว่าเขาขาดทักษะการประชาสัมพันธ์ และบ้างถึงกับว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโส ตลอดข่วงนี้เขาปฏิเสธการดื่มแอลกอฮอล์และไม่เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว[9]
สงครามโลกครั้งที่สอง
หลังสงครามโลกครั้งทีทสองปะทุในเดือนกันยายน 1939 อองซานมีส่วนร่วมก่อตั้งองค์การชาตินิยมอีกแห่ง คือ ฟรีดอมบล็อก ซึ่งเชื่อมการทำงานของทะขิ่น, สหพันธ์นักเรียนนักศึกษาพม่า, พระสงฆ์ที่มีความตื่นตัวทางการเมือง และพรรคยาจกของ ดร. Ba Maw[10] โดยมี Ba Maw เป็น anarshin ("เผด็จการ") ของฟรีดอมบล็อก ส่วนอองซานเป็นเลาธิการของกลุ่ม กิจกรรมและเป้าหมายของกลุ่มมีใจกลางอยู่ที่แนวคิดการใช้ประโยชน์จากสงครามเพื่อให้พม่าได้รับเอกราช[11] ซึ่งนำเอาแบบอย่างในการดำเนินการมาจาก "ฟอร์เวิร์ดบล็อก" ของอินเดีย ซึ่งนำโดยจันทระ โพส ผู้ที่มีการติดต่อเสมอ ๆ กับ Ba Maw[12] ในปี 1939 ถูกจับกุมฐานล้มรัฐบาล แต่ต่อมาก็ถูกปล่อยตัว[13] หลังเพียงสิบเจ็ดวัน[14]
ในเดือนมีนาคม 1940 เขาเข้าร่วมการประชุมของคองเกรสแห่งชาติอินเดียที่รามคฤห์ในประเทศอินเดีย[15] พร้อมทั้งสมาชิกทะขิ่น เช่น Than Tun และ Ba Hein ระหว่างนั้น อองซานได้พบกับผู้นำขบวนการเอกราชอินเดียจำนวนมาก เช่น ชวาหรลาล เนหรู, มหาตมะ คานธี และ จันทระ โพส[16]
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง สมาชิกของกองทัพพม่าที่ตั้งขึ้นเองบางส่วนได้รับข้อเสนอรับตำแหน่งในกองทัพแห่งชาติของพม่าถายใต้บังคับการของอังกฤษ ข้อตกลงมีขึ้นที่ซีลอนโดยลอร์ดลุยส์ เมาท์แบตเติน เมื่อกันยายน 1945 อองซานไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมการตกลงนี้เพราะเขากำลังตกเป็นประเด็นถกเถียงว่าเขาควรถูกนำเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมหรือไม่ จากบทบาทของเขาในการประหารชีวิตผู้นำมุสลิมใน Thaton ระหว่างสวคราม[17]
การลอบสังหาร
ในช่วงปีท้าย ๆ ของการปกครองของเจ้าอาณานิคมอังกฤษในพม่า อองซานได้ผูกมิตรกับผู้ว่าการพม่า เรจินัลด์ ดอร์มัน-สมิธ ในปี 1946 ราวหนึ่งปีก่อนเขาถูกลอบสังหาร อองซานเคยกล่าวว่าเขารู้สึกกลัวว่าตนเองอาจถูกลอบสังหาร[18]
เวลาราว 10:30 นาฬิกา ของวันที่ 19 กรกฎาคม 1947 รถจีปของกองทัพคันหนึ่งพร้อมกลุ่มชายติดอาวุธขับเข้ามาในสวนของอาคารรัฐเลาขาธิการ ขณะอองซานกำลังมีประชุมกับสมาชิกรัฐบาลชุดใหม่ อาคารนี้ไม่มีกำแพงหรือรั้วงล้อมในเวลานั้น[19] และถึงแม้จะมีคนเตือนแล้วว่าอองซานกำลังถูกวาวแผนฆาตกรรม[20] ยามรักษาประตูเข้าออกของอาคารก็ไม่มีทีท่าจะกังวลกับชายติดอาวุธกลุ่มนี้ที่เข้ามาในอาคาร[19] ชายสี่คนลงจากรถพร้อมปืนทอมมีซับแมชชีนสามลำ และ สเตนหนึ่งลำ[21] พร้อมระเบิด วิ่งขึ้นบนบันไดเข้าไปยังโถงประชุม ยิงยามรักษาประตูด้านนอกห้อง และบุกเข้าไปในโถงประชุม[19] The gunmen shouted, "Remain seated! Don't move!"[20] อองซานลุกขึ้นและถูกยิงเข้าที่อก เสียชีวิตโดยทันที และมีสมาชิกสภาอีกสี่คนที่ถูกกราดยิง สามคนได้รับบาดเจ็บ และสามคนเท่านั้นที่รอดชีวิต[19]
อดีตนายกรัฐมนตรีพม่าก่อนสงครามโลกครั้งที่สองคนสุดท้าย U Saw ถูกจับกุมฐานก่อการฆาตกรรมในวันเดียวกัน[22] ต่อมา U Saw ถูกตัดสินกระทำผิดจริงและประหารชีวิตโดยการแขวนคอ อย่างไรก็ตามมีการถกเถียงถึงกลุ่มหรือพรรคอื่น ๆ ที่มีส่วนร่วมในการก่อการลอบสังหารอองซานในครั้งนี้ บางส่วนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของอังกฤษเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง[23]
อ้างอิง
- ↑ Thant 213
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อNay 99
- ↑ Nay 106
- ↑ Thant 214
- ↑ Naw 41-43
- ↑ Naw 44
- ↑ Smith 58
- ↑ Smith 56-57
- ↑ Naw 45-48
- ↑ Lintner 1990
- ↑ Thant 217
- ↑ Naw 49
- ↑ Smith 58
- ↑ Lintner 2003 41
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อas
- ↑ Thant 228
- ↑ Smith 65-66
- ↑ Thant 248
- ↑ 19.0 19.1 19.2 19.3 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อThant254
- ↑ 20.0 20.1 Lintner 2003 xii
- ↑ "Who Killed Aung San?". The Irrawaddy (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2017-07-17. สืบค้นเมื่อ 2021-05-11.
- ↑ Lintner 2003 xiii
- ↑ Smith 71-72