ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แฮนนิบัล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
Setawut ย้ายหน้า แฮนนิบัล ไปยัง ฮันนีบาล: IPA: ḥannībaʿl
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ "แฮนนิบัล" → "ฮันนีบาล" +แทนที่ "คาร์ทิจ" → "คาร์เธจ" +แทนที่ "บาร์กา" → "บาร์คา" ด้วยสจห.
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{Infobox military person
{{Infobox military person
| name = แฮนนิบัล บาร์กา
| name = ฮันนีบาล บาร์คา
| native_name = {{script|Phnx|𐤇𐤍𐤁𐤏𐤋 𐤁𐤓𐤒}}
| native_name = {{script|Phnx|𐤇𐤍𐤁𐤏𐤋 𐤁𐤓𐤒}}
| native_name_lang =
| native_name_lang =
บรรทัด 6: บรรทัด 6:
| image_size =
| image_size =
| alt =
| alt =
| caption = รูปปั้นหินอ่อนของแฮนนิบัล พบที่เมืองเก่าใน[[คาปัว]], อิตาลี
| caption = รูปปั้นหินอ่อนของฮันนีบาล พบที่เมืองเก่าใน[[คาปัว]], อิตาลี
| birth_date = 247 ปีก่อนคริสตกาล
| birth_date = 247 ปีก่อนคริสตกาล
| death_date = 183/181 ปีก่อนคริสตกาล
| death_date = 183/181 ปีก่อนคริสตกาล
| birth_place = [[คาร์ทิจโบราณ|คาร์ทิจ]]
| birth_place = [[คาร์เธจโบราณ|คาร์เธจ]]
| death_place = [[ลิบิสซา]]
| death_place = [[ลิบิสซา]]
| placeofburial =
| placeofburial =
บรรทัด 15: บรรทัด 15:
| birth_name =
| birth_name =
| allegiance = {{plainlist|
| allegiance = {{plainlist|
* [[คาร์ทิจโบราณ|คาร์ทิจ]] (221–202 ปีก่อนคริสตกาล)
* [[คาร์เธจโบราณ|คาร์เธจ]] (221–202 ปีก่อนคริสตกาล)
* [[จักรวรรดิซิลูซิด|ซิลูซิด]] (198–188 ปีก่อนคริสตกาล)
* [[จักรวรรดิซิลูซิด|ซิลูซิด]] (198–188 ปีก่อนคริสตกาล)
* [[บีทิเนีย]] (188–181 ปีก่อนคริสตกาล)
* [[บีทิเนีย]] (188–181 ปีก่อนคริสตกาล)
}}
}}
| serviceyears =
| serviceyears =
| rank = ผู้บัญชาการใหญ่กองทัพคาร์ทิจ
| rank = ผู้บัญชาการใหญ่กองทัพคาร์เธจ
| battles = <small>{{tree list}}
| battles = <small>{{tree list}}
*[[การพิชิตฮิสเปเนียของบาร์ซิด]]
*[[การพิชิตฮิสเปเนียของบาร์ซิด]]
บรรทัด 61: บรรทัด 61:
| awards =
| awards =
| spouse = อิมิลซี (Imilce)
| spouse = อิมิลซี (Imilce)
| relations = [[แฮสดรูบัล บาร์กา]]<br />[[มาโก บาร์กา]]<br />[[แฮสดรูบัลคนรูปงาม]]
| relations = [[แฮสดรูบัล บาร์คา]]<br />[[มาโก บาร์คา]]<br />[[แฮสดรูบัลคนรูปงาม]]
| signature =
| signature =
}}
}}


'''แฮนนิบัล บาร์กา''' ({{lang-en|Hannibal Barca}}; 247 ปีก่อนคริสตกาล – ระหว่าง 183 และ 181 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นขุนพลชาว[[คาร์ทิจโบราณ]] (Ancient Carthage) ซึ่งถือกันว่า เป็นหนึ่งในผู้นำทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาเป็นบุตรของ[[แฮมิลการ์ บาร์กา]] (Hamilcar Barca) นายทหารชาวคาร์ทิจช่วง[[สงครามพิวนิกครั้งแรก]] (First Punic War) เขายังเป็นพี่ชายของ[[มาโก บาร์กา]] (Mago Barca) กับ[[แฮสดรูบัล บาร์กา]] (Hasdrubal Barca) และเป็นพี่เขยหรือน้องเขยของ[[แฮสดรูบัลคนรูปงาม]] (Hasdrubal the Fair)
'''ฮันนีบาล บาร์คา''' (พิวนิก: 𐤇𐤍𐤁𐤏𐤋𐤟𐤁𐤓𐤒 ''Ḥannibaʿl Barqa'') เป็นขุนพลชาว[[คาร์เธจโบราณ]]ซึ่งถือกันว่าเป็นหนึ่งในผู้นำทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาเป็นบุตรของ[[แฮมิลการ์ บาร์คา]] (Hamilcar Barca) นายทหารชาวคาร์เธจช่วง[[สงครามพิวนิกครั้งแรก]] (First Punic War) เขายังเป็นพี่ชายของ[[มาโก บาร์คา]] (Mago Barca) กับ[[แฮสดรูบัล บาร์คา]] (Hasdrubal Barca) และเป็นพี่เขยหรือน้องเขยของ[[แฮสดรูบัลคนรูปงาม]] (Hasdrubal the Fair)


แฮนนิบัลมีชีวิตอยู่ในช่วงที่เกิดความตรึงเครียดขนานใหญ่ใน[[ลุ่มเมดิเตอร์เนียน]] (Mediterranean Basin) ฝั่งตะวันตก เนื่องด้วย[[สาธารณรัฐโรมัน|โรม]] (Rome) ตั้งตนเป็นใหญ่เหนือมหาอำนาจอื่น ๆ อย่างคาร์ทิจโบราณ, [[อีทรูเรีย]] (Etruria), [[แซมเนียม]] (Samnium), และ[[ซีราคิวส์]] (Syracuse) หนึ่งในผลงานที่เลื่องลือที่สุดของแฮนนิบัล คือ [[การข้ามเทือกเขาแอลป์ของแฮนนิบัล|การนำทัพ]]ในช่วง[[สงครามพิวนิกครั้งที่สอง]] (Second Punic War) โดยเป็นการนำทัพที่มี[[ช้างศึก]]อยู่ด้วย ข้ามจาก[[คาบสมุทรไอบีเรีย]] (Iberian Peninsula) ผ่าน[[เทือกเขาพิรินี]] (Pyrenees) และ[[เทือกเขาแอลป์]] (Alps) เข้าสู่[[อิตาลี]] ช่วงแรกที่เขาอยู่อิตาลีนั้น เขามีชัยในการยุทธ์หลายสนาม เช่น [[ยุทธการที่เทรบเบีย|เทรบเบีย]] (Trebbia), [[ยุทธการที่ทะเลสาบแทรซิมีน|แทรซิมีน]] (Trasimene), และ[[ยุทธการที่แคนนี|แคนนี]] (Cannae) ที่ซึ่งเขาสร้างความโดดเด่นให้แก่ตนเองด้วยความสามารถในการกำหนดจุดแข็งจุดอ่อนของตนและศัตรูแล้วจึงวางแผนการยุทธ์ตามนั้น ชัยชนะดังกล่าวยังทำให้เขาได้สมัครพรรคพวกเป็นอันมากในโรม แฮนนิบัลยึดครองดินแดนส่วนใหญ่ในอิตาลีเป็นเวลา 15 ปี แต่ไม่สามารถยกทัพไปบุกโรม และเมื่อถูกศัตรูรุกราน[[แอฟริกาเหนือ]]กลับ เขาก็จำต้องถอยร่นคืนไปยังคาร์ทิจบ้านเกิดที่ซึ่งเขาพ่ายแพ้ยับเยินต่อ[[ซิปพิโอ แอฟริกานัส]] (Scipio Africanus) ใน[[ยุทธการที่ซามา]] (Battle of Zama)
ฮันนีบาลมีชีวิตอยู่ในช่วงที่เกิดความตรึงเครียดขนานใหญ่ใน[[ลุ่มเมดิเตอร์เนียน]] (Mediterranean Basin) ฝั่งตะวันตก เนื่องด้วย[[สาธารณรัฐโรมัน|โรม]] (Rome) ตั้งตนเป็นใหญ่เหนือมหาอำนาจอื่น ๆ อย่างคาร์เธจโบราณ, [[อีทรูเรีย]] (Etruria), [[แซมเนียม]] (Samnium), และ[[ซีราคิวส์]] (Syracuse) หนึ่งในผลงานที่เลื่องลือที่สุดของฮันนีบาล คือ [[การข้ามเทือกเขาแอลป์ของฮันนีบาล|การนำทัพ]]ในช่วง[[สงครามพิวนิกครั้งที่สอง]] (Second Punic War) โดยเป็นการนำทัพที่มี[[ช้างศึก]]อยู่ด้วย ข้ามจาก[[คาบสมุทรไอบีเรีย]] (Iberian Peninsula) ผ่าน[[เทือกเขาพิรินี]] (Pyrenees) และ[[เทือกเขาแอลป์]] (Alps) เข้าสู่[[อิตาลี]] ช่วงแรกที่เขาอยู่อิตาลีนั้น เขามีชัยในการยุทธ์หลายสนาม เช่น [[ยุทธการที่เทรบเบีย|เทรบเบีย]] (Trebbia), [[ยุทธการที่ทะเลสาบแทรซิมีน|แทรซิมีน]] (Trasimene), และ[[ยุทธการที่แคนนี|แคนนี]] (Cannae) ที่ซึ่งเขาสร้างความโดดเด่นให้แก่ตนเองด้วยความสามารถในการกำหนดจุดแข็งจุดอ่อนของตนและศัตรูแล้วจึงวางแผนการยุทธ์ตามนั้น ชัยชนะดังกล่าวยังทำให้เขาได้สมัครพรรคพวกเป็นอันมากในโรม ฮันนีบาลยึดครองดินแดนส่วนใหญ่ในอิตาลีเป็นเวลา 15 ปี แต่ไม่สามารถยกทัพไปบุกโรม และเมื่อถูกศัตรูรุกราน[[แอฟริกาเหนือ]]กลับ เขาก็จำต้องถอยร่นคืนไปยังคาร์เธจบ้านเกิดที่ซึ่งเขาพ่ายแพ้ยับเยินต่อ[[ซิปพิโอ แอฟริกานัส]] (Scipio Africanus) ใน[[ยุทธการที่ซามา]] (Battle of Zama)


เมื่อสิ้นสงครามแล้ว แฮนนิบัลได้รับตำแหน่ง[[ชอเฟต]] (shophet) และได้ริเริ่มปฏิรูปทางการคลังและการเมืองหลายประการเพื่อเอื้อการชำระค่าปฏิกรรมสงครามที่โรมเรียกร้อง แต่การปฏิรูปของเขาไม่เป็นที่สบอารมณ์ของกลุ่มชนชั้นนำในคาร์ทิจและโรม เขาจึงลี้ภัยไปราชสำนัก[[จักรวรรดิซิลูซิด]] (Seleucid Empire) ที่ซึ่งเขาได้เป็นกุนซือทหารของ[[แอนไทโอคัสที่ 3 มหาราช]] (Antiochus III the Great) ในการศึกต่อต้านโรม แต่แอนไทโอคัสปราชัยใน[[ยุทธการที่แมกนีเชีย]] (Battle of Magnesia) จึงต้องยอมตามคำเรียกร้องของโรม ส่วนแฮนนิบัลก็ลี้ภัยอีกครั้ง โดยแวะพัก ณ [[อาณาจักรอาร์มีเนีย (สมัยโบราณ)|อาณาจักรอาร์มีเนีย]] (Kingdom of Armenia) แล้วไปพำนักเป็นการถาวร ณ ราชสำนัก[[บีทิเนีย]] (Bithynia) ที่ซึ่งเขาได้นำทัพเรือต่อต้าน[[เพอร์กามัน]] (Pergamon) และได้ชัยอย่างดงาม แต่ภายหลัง เขาถูกบีทิเนียหักหลังโดยมอบตัวเขาให้แก่โรม แล้วเขาก็เสียชีวิต สาเหตุว่ากันไปหลายอย่าง [[พอซิเนียสแห่งดาแมสกัส]] (Pausanias of Damascus) บันทึกว่า เขาเสียชีวิตหลังจากชักดาบขณะอยู่บนหลังม้าแล้วดาบบาดนิ้วจนติดเชื้อและเป็นไข้นำไปสู่ความตายในสามวันถัดมา<ref>{{Cite web|url=http://www.perseus.tufts.edu/hopper/text?doc=Perseus:text:1999.01.0160:book=8:chapter=11&highlight=hannibal|title=Description of Greece, 8.11.11|author=Pausanias|date=|website=Perseus Digital Library|publisher=|access-date=10 April 2016}}</ref> แต่[[จูเวอนัล]] (Juvenal) อ้างว่า เขากินยาฆ่าตัวตายที่[[ลิบิสซา]] (Libyssa) บนฝั่งตะวันออกของ[[ทะเลมาร์มารา]] (Sea of Marmara) โดยยาพิษนั้นเขาบรรจุไว้ในหัวแหวนมานานแล้ว<ref>Cornelius Nepos, ''Hannibal'' 12.5; Juvenal, ''Satires'' X.164</ref>
เมื่อสิ้นสงครามแล้ว ฮันนีบาลได้รับตำแหน่ง[[ชอเฟต]] (shophet) และได้ริเริ่มปฏิรูปทางการคลังและการเมืองหลายประการเพื่อเอื้อการชำระค่าปฏิกรรมสงครามที่โรมเรียกร้อง แต่การปฏิรูปของเขาไม่เป็นที่สบอารมณ์ของกลุ่มชนชั้นนำในคาร์เธจและโรม เขาจึงลี้ภัยไปราชสำนัก[[จักรวรรดิซิลูซิด]] (Seleucid Empire) ที่ซึ่งเขาได้เป็นกุนซือทหารของ[[แอนไทโอคัสที่ 3 มหาราช]] (Antiochus III the Great) ในการศึกต่อต้านโรม แต่แอนไทโอคัสปราชัยใน[[ยุทธการที่แมกนีเชีย]] (Battle of Magnesia) จึงต้องยอมตามคำเรียกร้องของโรม ส่วนฮันนีบาลก็ลี้ภัยอีกครั้ง โดยแวะพัก ณ [[อาณาจักรอาร์มีเนีย (สมัยโบราณ)|อาณาจักรอาร์มีเนีย]] (Kingdom of Armenia) แล้วไปพำนักเป็นการถาวร ณ ราชสำนัก[[บีทิเนีย]] (Bithynia) ที่ซึ่งเขาได้นำทัพเรือต่อต้าน[[เพอร์กามัน]] (Pergamon) และได้ชัยอย่างดงาม แต่ภายหลัง เขาถูกบีทิเนียหักหลังโดยมอบตัวเขาให้แก่โรม แล้วเขาก็เสียชีวิต สาเหตุว่ากันไปหลายอย่าง [[พอซิเนียสแห่งดาแมสกัส]] (Pausanias of Damascus) บันทึกว่า เขาเสียชีวิตหลังจากชักดาบขณะอยู่บนหลังม้าแล้วดาบบาดนิ้วจนติดเชื้อและเป็นไข้นำไปสู่ความตายในสามวันถัดมา<ref>{{Cite web|url=http://www.perseus.tufts.edu/hopper/text?doc=Perseus:text:1999.01.0160:book=8:chapter=11&highlight=hannibal|title=Description of Greece, 8.11.11|author=Pausanias|date=|website=Perseus Digital Library|publisher=|access-date=10 April 2016}}</ref> แต่[[จูเวอนัล]] (Juvenal) อ้างว่า เขากินยาฆ่าตัวตายที่[[ลิบิสซา]] (Libyssa) บนฝั่งตะวันออกของ[[ทะเลมาร์มารา]] (Sea of Marmara) โดยยาพิษนั้นเขาบรรจุไว้ในหัวแหวนมานานแล้ว<ref>Cornelius Nepos, ''Hannibal'' 12.5; Juvenal, ''Satires'' X.164</ref>


ถือกันว่า แฮนนิบัล ตลอดจน[[ฟิลิปแห่งแมซิดอน]] (Philip of Macedon), [[อะเล็กซานเดอร์มหาราช]] (Alexander the Great), [[จูเลียส ซีซาร์]] (Julius Caesar), และซิปพิโอ แอฟริกานัส เป็นนักยุทธศาสตร์ทางทหารที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ทั้งเป็นขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของแว่นแคว้นเมดิเตอร์เรเนียโบราณ ปรัชญาเมธี[[พลูทาร์ก]] (Plutarch) ระบุว่า ซิปพิโอเคยถามแฮนนิบัลว่า ใครบ้างเป็นแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แฮนนิบัลตอบว่า ไม่อะเล็กซานเดอร์ก็[[พิรัสแห่งอีไพรัส]] (Pyrrhus of Epirus) แล้วจึงเป็นตัวเขาแฮนนิบัลเอง<ref>"Plutarch, and when asked what his choices would be if he had beaten Scipio, he replied that he would be the best of them all" ''Life of Titus Flamininus'' 21.3–4.</ref> แต่บางบันทึกก็ว่า เขาตอบว่า ได้แก่ พิรัส, ซิปพิโอ, แล้วตัวเขาเอง ตามลำดับ<ref>Plutarch, ''Life of Pyrrhus'' 8.2.</ref>
ถือกันว่า ฮันนีบาล ตลอดจน[[ฟิลิปแห่งแมซิดอน]] (Philip of Macedon), [[อะเล็กซานเดอร์มหาราช]] (Alexander the Great), [[จูเลียส ซีซาร์]] (Julius Caesar), และซิปพิโอ แอฟริกานัส เป็นนักยุทธศาสตร์ทางทหารที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ทั้งเป็นขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของแว่นแคว้นเมดิเตอร์เรเนียโบราณ ปรัชญาเมธี[[พลูทาร์ก]] (Plutarch) ระบุว่า ซิปพิโอเคยถามฮันนีบาลว่า ใครบ้างเป็นแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ฮันนีบาลตอบว่า ไม่อะเล็กซานเดอร์ก็[[พิรัสแห่งอีไพรัส]] (Pyrrhus of Epirus) แล้วจึงเป็นตัวเขาฮันนีบาลเอง<ref>"Plutarch, and when asked what his choices would be if he had beaten Scipio, he replied that he would be the best of them all" ''Life of Titus Flamininus'' 21.3–4.</ref> แต่บางบันทึกก็ว่า เขาตอบว่า ได้แก่ พิรัส, ซิปพิโอ, แล้วตัวเขาเอง ตามลำดับ<ref>Plutarch, ''Life of Pyrrhus'' 8.2.</ref>


==อ้างอิง==
==อ้างอิง==
บรรทัด 79: บรรทัด 79:


[[หมวดหมู่:บุคคลในศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล]]
[[หมวดหมู่:บุคคลในศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล]]
[[หมวดหมู่:ชาวคาร์ทิจ]]
[[หมวดหมู่:ชาวคาร์เธจ]]


{{โครงประวัติศาสตร์}}
{{โครงประวัติศาสตร์}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:45, 21 ตุลาคม 2563

ฮันนีบาล บาร์คา
รูปปั้นหินอ่อนของฮันนีบาล พบที่เมืองเก่าในคาปัว, อิตาลี
ชื่อพื้นเมือง
𐤇𐤍𐤁𐤏𐤋 𐤁𐤓𐤒
เกิด247 ปีก่อนคริสตกาล
คาร์เธจ
เสียชีวิต183/181 ปีก่อนคริสตกาล
ลิบิสซา
รับใช้
ชั้นยศผู้บัญชาการใหญ่กองทัพคาร์เธจ
สงคราม
คู่สมรสอิมิลซี (Imilce)
ความสัมพันธ์แฮสดรูบัล บาร์คา
มาโก บาร์คา
แฮสดรูบัลคนรูปงาม

ฮันนีบาล บาร์คา (พิวนิก: 𐤇𐤍𐤁𐤏𐤋𐤟𐤁𐤓𐤒 Ḥannibaʿl Barqa) เป็นขุนพลชาวคาร์เธจโบราณซึ่งถือกันว่าเป็นหนึ่งในผู้นำทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาเป็นบุตรของแฮมิลการ์ บาร์คา (Hamilcar Barca) นายทหารชาวคาร์เธจช่วงสงครามพิวนิกครั้งแรก (First Punic War) เขายังเป็นพี่ชายของมาโก บาร์คา (Mago Barca) กับแฮสดรูบัล บาร์คา (Hasdrubal Barca) และเป็นพี่เขยหรือน้องเขยของแฮสดรูบัลคนรูปงาม (Hasdrubal the Fair)

ฮันนีบาลมีชีวิตอยู่ในช่วงที่เกิดความตรึงเครียดขนานใหญ่ในลุ่มเมดิเตอร์เนียน (Mediterranean Basin) ฝั่งตะวันตก เนื่องด้วยโรม (Rome) ตั้งตนเป็นใหญ่เหนือมหาอำนาจอื่น ๆ อย่างคาร์เธจโบราณ, อีทรูเรีย (Etruria), แซมเนียม (Samnium), และซีราคิวส์ (Syracuse) หนึ่งในผลงานที่เลื่องลือที่สุดของฮันนีบาล คือ การนำทัพในช่วงสงครามพิวนิกครั้งที่สอง (Second Punic War) โดยเป็นการนำทัพที่มีช้างศึกอยู่ด้วย ข้ามจากคาบสมุทรไอบีเรีย (Iberian Peninsula) ผ่านเทือกเขาพิรินี (Pyrenees) และเทือกเขาแอลป์ (Alps) เข้าสู่อิตาลี ช่วงแรกที่เขาอยู่อิตาลีนั้น เขามีชัยในการยุทธ์หลายสนาม เช่น เทรบเบีย (Trebbia), แทรซิมีน (Trasimene), และแคนนี (Cannae) ที่ซึ่งเขาสร้างความโดดเด่นให้แก่ตนเองด้วยความสามารถในการกำหนดจุดแข็งจุดอ่อนของตนและศัตรูแล้วจึงวางแผนการยุทธ์ตามนั้น ชัยชนะดังกล่าวยังทำให้เขาได้สมัครพรรคพวกเป็นอันมากในโรม ฮันนีบาลยึดครองดินแดนส่วนใหญ่ในอิตาลีเป็นเวลา 15 ปี แต่ไม่สามารถยกทัพไปบุกโรม และเมื่อถูกศัตรูรุกรานแอฟริกาเหนือกลับ เขาก็จำต้องถอยร่นคืนไปยังคาร์เธจบ้านเกิดที่ซึ่งเขาพ่ายแพ้ยับเยินต่อซิปพิโอ แอฟริกานัส (Scipio Africanus) ในยุทธการที่ซามา (Battle of Zama)

เมื่อสิ้นสงครามแล้ว ฮันนีบาลได้รับตำแหน่งชอเฟต (shophet) และได้ริเริ่มปฏิรูปทางการคลังและการเมืองหลายประการเพื่อเอื้อการชำระค่าปฏิกรรมสงครามที่โรมเรียกร้อง แต่การปฏิรูปของเขาไม่เป็นที่สบอารมณ์ของกลุ่มชนชั้นนำในคาร์เธจและโรม เขาจึงลี้ภัยไปราชสำนักจักรวรรดิซิลูซิด (Seleucid Empire) ที่ซึ่งเขาได้เป็นกุนซือทหารของแอนไทโอคัสที่ 3 มหาราช (Antiochus III the Great) ในการศึกต่อต้านโรม แต่แอนไทโอคัสปราชัยในยุทธการที่แมกนีเชีย (Battle of Magnesia) จึงต้องยอมตามคำเรียกร้องของโรม ส่วนฮันนีบาลก็ลี้ภัยอีกครั้ง โดยแวะพัก ณ อาณาจักรอาร์มีเนีย (Kingdom of Armenia) แล้วไปพำนักเป็นการถาวร ณ ราชสำนักบีทิเนีย (Bithynia) ที่ซึ่งเขาได้นำทัพเรือต่อต้านเพอร์กามัน (Pergamon) และได้ชัยอย่างดงาม แต่ภายหลัง เขาถูกบีทิเนียหักหลังโดยมอบตัวเขาให้แก่โรม แล้วเขาก็เสียชีวิต สาเหตุว่ากันไปหลายอย่าง พอซิเนียสแห่งดาแมสกัส (Pausanias of Damascus) บันทึกว่า เขาเสียชีวิตหลังจากชักดาบขณะอยู่บนหลังม้าแล้วดาบบาดนิ้วจนติดเชื้อและเป็นไข้นำไปสู่ความตายในสามวันถัดมา[1] แต่จูเวอนัล (Juvenal) อ้างว่า เขากินยาฆ่าตัวตายที่ลิบิสซา (Libyssa) บนฝั่งตะวันออกของทะเลมาร์มารา (Sea of Marmara) โดยยาพิษนั้นเขาบรรจุไว้ในหัวแหวนมานานแล้ว[2]

ถือกันว่า ฮันนีบาล ตลอดจนฟิลิปแห่งแมซิดอน (Philip of Macedon), อะเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great), จูเลียส ซีซาร์ (Julius Caesar), และซิปพิโอ แอฟริกานัส เป็นนักยุทธศาสตร์ทางทหารที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ทั้งเป็นขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของแว่นแคว้นเมดิเตอร์เรเนียโบราณ ปรัชญาเมธีพลูทาร์ก (Plutarch) ระบุว่า ซิปพิโอเคยถามฮันนีบาลว่า ใครบ้างเป็นแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ฮันนีบาลตอบว่า ไม่อะเล็กซานเดอร์ก็พิรัสแห่งอีไพรัส (Pyrrhus of Epirus) แล้วจึงเป็นตัวเขาฮันนีบาลเอง[3] แต่บางบันทึกก็ว่า เขาตอบว่า ได้แก่ พิรัส, ซิปพิโอ, แล้วตัวเขาเอง ตามลำดับ[4]

อ้างอิง

  1. Pausanias. "Description of Greece, 8.11.11". Perseus Digital Library. สืบค้นเมื่อ 10 April 2016.
  2. Cornelius Nepos, Hannibal 12.5; Juvenal, Satires X.164
  3. "Plutarch, and when asked what his choices would be if he had beaten Scipio, he replied that he would be the best of them all" Life of Titus Flamininus 21.3–4.
  4. Plutarch, Life of Pyrrhus 8.2.