ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปลากระเบนค้างคาว"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 44: | บรรทัด 44: | ||
ปลากระเบนค้างคาวนั้น มักถูกล่าเป็นอาหารจาก[[ปลาฉลาม]] โดยเฉพาะ[[ปลาฉลามหัวค้อน]]<ref>Chapman, D.D. and Gruber, S.H. (May 2002). "A further observation of the prey-handling behavior of the great hammerhead shark, ''Sphyrna mokarran'': predation upon the spotted eagle ray, ''Aetobatus narinari''". Bulletin of Marine Science 70 (3): 947–952</ref> สำหรับความสัมพันธ์ต่อมนุษย์แล้ว นิยมเลี้ยงใน[[พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ]]ต่าง ๆ เพราะความสวยงามในสีสันและการว่ายน้ำ และยังนิยมใช้เนื้อเพื่อการบริโภคด้วยทั้งการบริโภคสดและเก็บรักษาเป็น[[ปลาแห้ง]] และทำเป็นปลาหย็อง<ref>[http://docs.google.com/viewer?a=v&q=cache:TN_LZdnHLhsJ:library.dip.go.th/multim/edoc/09988.doc+%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%99&hl=th&gl=th&pid=bl&srcid=ADGEESjPPDzGBAmP4fLsQ9Ag7tVb1AofoO2Z9oHy34RW8fkGnp4DEZqZ-WnVifNIzwB0JuZJruS_KMtKUjEoNlU21NPz1RWHzFjUGClZSN6Q_k7qFBdl-4cI5_uQetzQ81LrKaNC9b3j&sig=AHIEtbR06aJHFfLjCMHkhgou88UPSBgToA ปลาค้างคาวสนหยอง ของดีเมืองแม่กลอง]</ref> |
ปลากระเบนค้างคาวนั้น มักถูกล่าเป็นอาหารจาก[[ปลาฉลาม]] โดยเฉพาะ[[ปลาฉลามหัวค้อน]]<ref>Chapman, D.D. and Gruber, S.H. (May 2002). "A further observation of the prey-handling behavior of the great hammerhead shark, ''Sphyrna mokarran'': predation upon the spotted eagle ray, ''Aetobatus narinari''". Bulletin of Marine Science 70 (3): 947–952</ref> สำหรับความสัมพันธ์ต่อมนุษย์แล้ว นิยมเลี้ยงใน[[พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ]]ต่าง ๆ เพราะความสวยงามในสีสันและการว่ายน้ำ และยังนิยมใช้เนื้อเพื่อการบริโภคด้วยทั้งการบริโภคสดและเก็บรักษาเป็น[[ปลาแห้ง]] และทำเป็นปลาหย็อง<ref>[http://docs.google.com/viewer?a=v&q=cache:TN_LZdnHLhsJ:library.dip.go.th/multim/edoc/09988.doc+%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%99&hl=th&gl=th&pid=bl&srcid=ADGEESjPPDzGBAmP4fLsQ9Ag7tVb1AofoO2Z9oHy34RW8fkGnp4DEZqZ-WnVifNIzwB0JuZJruS_KMtKUjEoNlU21NPz1RWHzFjUGClZSN6Q_k7qFBdl-4cI5_uQetzQ81LrKaNC9b3j&sig=AHIEtbR06aJHFfLjCMHkhgou88UPSBgToA ปลาค้างคาวสนหยอง ของดีเมืองแม่กลอง]</ref> |
||
ณ ปัจจุบันกระเบนค้างคาวยังไม่สามารถเพาะพันธุ์ในเชิงพาณิชย์ได้ เนื่องจาก |
ณ ปัจจุบันกระเบนค้างคาวยังไม่สามารถเพาะพันธุ์ในเชิงพาณิชย์ได้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงในการจัดการพื้นที่ มีเพียงการเพาะพันธุ์โดยไม่ได้ตั้งใจจาก[[พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ]]บางแห่งเท่านั้น จึงยังไม่สามารถเพาะพันธุ์ทดแทนกับปริมาณที่ลดลงในธรรมชาติได้ |
||
==รูปภาพ== |
==รูปภาพ== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:17, 9 มีนาคม 2562
ปลากระเบนค้างคาว ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ครีเตเชียสตอนต้น-ปัจจุบัน[1] | |
---|---|
รูปวาดลำตัวด้านบน | |
ลำตัวด้านข้าง | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Chondrichthyes |
ชั้นย่อย: | Elasmobranchii |
อันดับ: | Myliobatiformes |
วงศ์: | Aetobatus White & Naylor, 2016 |
สกุล: | Aetobatus |
สปีชีส์: | A. Ocellatus |
ชื่อทวินาม | |
Aetobatus Ocellatus (Kuhl, 1823) | |
ชื่อพ้อง | |
|
ปลากระเบนค้างคาว,[3] หรือ ปลากระเบนนก, ปลากระเบนเนื้อดำ, ปลากระเบนยี่สนหรือปลากระเบนนกจุดขาว (อังกฤษ: spotted eagle ray; ชื่อวิทยาศาสตร์: Aetobatus Ocellatus[4]) เป็นปลากระเบนชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์ (Aetobatidae)[5]
มีผิวหนังเรียบ ใกล้โคนหางด้านบนมีเงี่ยง 1–4 เงี่ยง พบมากที่สุด 6 เงี่ยง เรียงอยู่ชิดกัน ด้านหลังสีดำมีจุดสีขาวกระจายอยู่ส่วนท้าย ด้านท้องสีขาว หางเรียวยาวมาก มีส่วนหัวที่แยกออกจากครีบเห็นได้ชัดเจน จึงทำให้ว่ายน้ำไปมาได้อย่างอิสระเหมือนนกบิน มีขนาดกว้างได้ถึง 1.5 เมตร เคยพบสูงสุดถึง 3 เมตร น้ำหนัก 230 กิโลกรัม[6]
หากินจำพวกสัตว์น้ำหน้าดิน เช่น หอย, กุ้ง, กั้ง, ปู บริเวณใต้พื้นน้ำเป็นอาหาร โดยใช้ปากคุ้ยเขี่ยพื้นทรายหา บางครั้งอาจเข้ามาหากินถึงบริเวณปากแม่น้ำที่เป็นน้ำกร่อยได้ บางครั้งจะรวมตัวกันเป็นฝูงหลายตัว และสามารถดำน้ำได้ลึกถึง 80 เมตร
ในปี ค.ศ. 2010 มีงานวิจัย[4]ว่าด้วยเรื่องการแบ่งชื่อสายพันธุ์ใหม่จากสายพันธุ์เดิม Aetobatus Narinari เนื่องจากในงานวิจัยพบความแตกต่างที่ชัดเจนของตัวอย่างที่พบในแต่ละพื้นที่ทั่วโลก พบการกระจายพันธุ์ Aetobatus Narinari ในบริเวณมหาสมุทรแอตแลนติก สายพันธุ์ Aetobatus Laticeps ในบริเวณตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก และ Aetobatus Ocellatus ในบริเวณตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก และ มหาสมุทรอินเดีย รวมถึงบริเวณ อ่าวไทย และ ทะเลอันดามัน ของประเทศไทย
ปลากระเบนค้างคาวออกลูกเป็นไข่ แต่ไข่ได้พัฒนาเป็นตัวในช่องท้องของปลาตัวเมีย เมื่อแรกเกิดลูกปลาจะมีถุงไข่แดงติดตัวมาด้วย
ปลากระเบนค้างคาวนั้น มักถูกล่าเป็นอาหารจากปลาฉลาม โดยเฉพาะปลาฉลามหัวค้อน[7] สำหรับความสัมพันธ์ต่อมนุษย์แล้ว นิยมเลี้ยงในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำต่าง ๆ เพราะความสวยงามในสีสันและการว่ายน้ำ และยังนิยมใช้เนื้อเพื่อการบริโภคด้วยทั้งการบริโภคสดและเก็บรักษาเป็นปลาแห้ง และทำเป็นปลาหย็อง[8]
ณ ปัจจุบันกระเบนค้างคาวยังไม่สามารถเพาะพันธุ์ในเชิงพาณิชย์ได้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงในการจัดการพื้นที่ มีเพียงการเพาะพันธุ์โดยไม่ได้ตั้งใจจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแห่งเท่านั้น จึงยังไม่สามารถเพาะพันธุ์ทดแทนกับปริมาณที่ลดลงในธรรมชาติได้
รูปภาพ
-
ขณะว่ายเป็นฝูงในทะเล
-
ขณะคุ้ยเขี่ยหาอาหารกินบนพื้นทราย
-
ส่วนปากและซี่กรองเหงือก
-
คลิปวิดีโอในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
-
ในน้ำตื้น
อ้างอิง
- ↑ Summers, Adam (2001). "Aetobatus narinari". Digital Morphology. สืบค้นเมื่อ 1 November 2011.
- ↑ แม่แบบ:IKyne, P.M., Dudgeon, C.L., Ishihara, H., Dudley, S.F.J. & White, W.T. 2016. Aetobatus ocellatus. The IUCN Red List of Threatened Species 2016: e.T42566169A42566212. http://dx.doi.org/10.2305/IUCN.UK.2016-1.RLTS.T42566169A42566212.en.
- ↑ ทัศพล กระจ่างดารา. 2560. ปลากระดูกอ่อน (ปลาฉลาม ปลากระเบน และปลาหนู) ที่พบในน่านน้ำไทยและน่านน้ำใกล้เคียง. กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล. กรมประมง. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. 331 หน้า.
- ↑ 4.0 4.1 White, W. T., Last, P. R., Naylor, G. J. P, Jensen, K. and Caira, J. N. 2010. Descriptions of new sharks and rays from Borneo. "Clarification of Aetobatus ocellatus (Kuhl, 1823) as a valid species, and a comparison with Aetobatus narinari (Euphrasen, 1790) (Rajiformes: Myliobatidae)"
- ↑ White, W. T. & Naylor, G. J. P. (2016). Resurrection of the family Aetobatidae (Myliobatiformes) for the pelagic eagle rays, genus Aetobatus. Zootaxa 4139, 435–438. 10.11646/zootaxa.4139.3.10
- ↑ SPOTTED EAGLE RAY
- ↑ Chapman, D.D. and Gruber, S.H. (May 2002). "A further observation of the prey-handling behavior of the great hammerhead shark, Sphyrna mokarran: predation upon the spotted eagle ray, Aetobatus narinari". Bulletin of Marine Science 70 (3): 947–952
- ↑ ปลาค้างคาวสนหยอง ของดีเมืองแม่กลอง