ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย"
→ประวัติ: เพิ่มการขายที่ดิน |
|||
บรรทัด 12: | บรรทัด 12: | ||
== ความสัมพันธ์ทางการทูตและสนธิสัญญา == |
== ความสัมพันธ์ทางการทูตและสนธิสัญญา == |
||
ประเทศไทยและสหราชอาณาจักรมีความสัมพันธ์ทางการค้ามากว่า 400 ปี ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ประเทศไทยและสหราชอาณาจักรได้ขาดช่วงความสัมพันธ์ลงหลังสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์การติดต่อต้องดำเนินการผ่านเมืองขึ้นของของสหราชอาณาจักรในขณะนั้น คือ อินเดีย |
ประเทศไทยและสหราชอาณาจักรมีความสัมพันธ์ทางการค้ามากว่า 400 ปี ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ประเทศไทยและสหราชอาณาจักรได้ขาดช่วงความสัมพันธ์ลงหลังสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์การติดต่อต้องดำเนินการผ่านเมืองขึ้นหรืออาณานิคมของของสหราชอาณาจักรในขณะนั้น คือ ประเทศอินเดีย โดยมีการลงนามสนธิสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน ลงนามสนธิสัญญาระหว่างฉบับแรกเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2369 ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สหราชอาณาจักรได้ส่ง [[เซอร์จอห์น บาวริ่ง]] มาเป็นราชทูตเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูนและการค้าซึ่งก็ประสบผลสำเร็จ ไทยและสหราชอาณาจักรได้มีการลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพและการค้าระหว่างกัน ซึ่งเรียกสนธิสัญญาระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรฉบับนี้ว่า [[สนธิสัญญาบาวริ่ง]] โดยลงนามทำสนธิสัญญากันเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2398 ซึ่งนับว่าเป็นการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรระหว่างกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกในสมัยรัตนโกสินทร์ |
||
ในปี พ.ศ.2400 ประเทศไทยได้ส่งคณะราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับสหราชอาณาจักรเป็นการตอบแทน โดยมี [[เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี]] เป็นหัวหน้าคณะเพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร |
|||
กระทั่งปี พ.ศ.2425 ประเทศไทยได้แต่งตั้ง [[หม่อมเจ้าปฤษฎางค์ ชุมสาย]] เป็นราชทูตไทยประจำสหราชอาณาจักรและประเทศต่างๆ ในยุโรปและอเมริการวม 12 ประเทศอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือได้ว่า [[หม่อมเจ้าปฤษฎางค์ ชุมสาย]] เป็นราชทูตคนแรกของไทยที่ส่งไปประจำที่สหราชอาณาจักร |
|||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:34, 18 พฤษภาคม 2560
สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย (อังกฤษ: British Embassy Bangkok) เป็นสถานเอกอัครราชทูตของสหราชอาณาจักรในประเทศไทยตั้งอยู่ ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
ประวัติ
สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ยกฐานะมาจากสถานกงสุลอังกฤษประจำประเทศไทย ซึ่งแต่เดิมตั้งอยู่ที่ ตำบลบางรัก จังหวัดพระนคร ซึ่งติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สมัยเปิดสัมพันธ์ทางทูตและการค้ากับประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 4 ต่อมาได้มีการก่อสร้างโรงสีขึ้นอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ตรงข้ามกับสถานกงสุลอังกฤษ โรงสีได้ปล่อยควันซึ่งสร้างปัญหามลภาวะในการทำงานและการพักอาศัยให้กับบุคลากรของสถานกงสุลอังกฤษเป็นอย่างมาก จึงดำริที่ต้องการจะย้ายสถานที่ตั้งสถานกงสุลใหม่ ซึ่งประจวบกับขณะนั้น พระยาภักดีนรเศรษฐ หรือ นายเลิศ มีที่ดินจำนวนมากต้องการพัฒนาพื้นที่ย่านเพลินจิตของตน จึงนำมาเสนอขายให้กับสถานกงสุลอังกฤษ โดยมีเงื่อนไขขอพื้นที่และสิ่งปลูกสร้างของสถานกงสุลอังกฤษเดิมทั้งหมดด้วย เมื่อสถานกงสุลพิจารณาแล้วเห็นชอบจึงรับข้อเสนอและก่อสร้างอาคารสถานกงสุลในที่ดินของนายเลิศ ในปี พ.ศ. 2465 สถานกงสุลได้ย้ายไปอยู่ที่ตั้งใหม่ย่านเพลินจิต ส่วนที่ตั้งเดิมของสถานกงสุลอังกฤษ นายเลิศได้นำไปเสนอขายให้กับรัฐบาลไทย ซึ่งรัฐบาลไทยได้รับซื้อไว้ พ.ศ. 2469 อาคารสถานที่เดิมของสถานกงสุลอังกฤษได้ถูกนำไปใช้เป็นที่ตั้งของกรมไปรษณีย์โทรเลขกลาง ต่อมาอาคารมีความทรุดโทรมและคับแคบไม่เหมาะกับงานไปรษณีย์ จึงรื้ออาคารทิ้งทั้งหมดแล้วก่อสร้างอาคารใหม่ ซึ่งก็คือ อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก ถนนเจริญกรุง ในปัจจุบัน ส่วนสถานกงสุลอังกฤษที่ย้ายไปที่ตั้งใหม่ย่านเพลินจิต ถนนวิทยุ ต่อมาได้ถูกยกฐานะเป็น สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย
กระทั่งปี พ.ศ.2549 สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร มีนโยบายขายที่ดินบางส่วนจำนวน 9 ไร่ ติดกับถนนเพลินจิต จึงมอบหมายให้ตัวแทนเปิดการประมูลซึ่งผลปรากฎว่า กลุ่มเซ็นทรัล ชนะการประมูล ต่อมา กลุ่มเซ็นทรัล ได้นำพื้นที่จำนวน 9 ไร่ นี้ไปก่อสร้างเป็น ศูนย์การค้าและโรงแรมในชื่อ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งเปิดดำเนินการแล้วในปัจจุบัน
ต่อมาปีพ.ศ. 2560 สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร มีนโยบายขายที่ดิน 25 ไร่ ทั้งหมดที่เหลือของสถานทูต โดยมีแนวความคิดจะย้ายไปเช่าอาคารสำนักงานแทน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการเปิดประมูลของตัวแทนอยู่
ความสัมพันธ์ทางการทูตและสนธิสัญญา
ประเทศไทยและสหราชอาณาจักรมีความสัมพันธ์ทางการค้ามากว่า 400 ปี ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ประเทศไทยและสหราชอาณาจักรได้ขาดช่วงความสัมพันธ์ลงหลังสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์การติดต่อต้องดำเนินการผ่านเมืองขึ้นหรืออาณานิคมของของสหราชอาณาจักรในขณะนั้น คือ ประเทศอินเดีย โดยมีการลงนามสนธิสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน ลงนามสนธิสัญญาระหว่างฉบับแรกเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2369 ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สหราชอาณาจักรได้ส่ง เซอร์จอห์น บาวริ่ง มาเป็นราชทูตเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูนและการค้าซึ่งก็ประสบผลสำเร็จ ไทยและสหราชอาณาจักรได้มีการลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพและการค้าระหว่างกัน ซึ่งเรียกสนธิสัญญาระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรฉบับนี้ว่า สนธิสัญญาบาวริ่ง โดยลงนามทำสนธิสัญญากันเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2398 ซึ่งนับว่าเป็นการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรระหว่างกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกในสมัยรัตนโกสินทร์
ในปี พ.ศ.2400 ประเทศไทยได้ส่งคณะราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับสหราชอาณาจักรเป็นการตอบแทน โดยมี เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี เป็นหัวหน้าคณะเพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร
กระทั่งปี พ.ศ.2425 ประเทศไทยได้แต่งตั้ง หม่อมเจ้าปฤษฎางค์ ชุมสาย เป็นราชทูตไทยประจำสหราชอาณาจักรและประเทศต่างๆ ในยุโรปและอเมริการวม 12 ประเทศอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือได้ว่า หม่อมเจ้าปฤษฎางค์ ชุมสาย เป็นราชทูตคนแรกของไทยที่ส่งไปประจำที่สหราชอาณาจักร
แหล่งข้อมูลอื่น
- ประวัติสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ, กรุงเทพ
- เว็บไซต์ สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย
- การขอวีซ่าเข้าสหราชอาณาจักร
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์