ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ช้างแมมมอธ"
ล r2.7.2+) (โรบอต แก้ไข: bg:Мамути |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{Taxobox |
{{Taxobox |
||
| color = pink |
| color = pink |
||
| name = |
| name = |
||
| status = สูญพันธุ์ |
| status = สูญพันธุ์ |
||
| image = |
| image = Woolly Mammoth-RBC.jpg |
||
| image_width = 240px |
| image_width = 240px |
||
| image_caption = [[ |
| image_caption = รูปวาด[[แมมมอธขนดก]] |
||
| fossil_range = ยุคต้น[[ไพลโอซีน]] - ยุึคกลาง[[Holocene|โฮโลซีน]], {{fossilrange|5|0.0045}} |
|||
| regnum = [[Animal]]ia |
| regnum = [[Animal]]ia |
||
| phylum = [[Chordate|Chordata]] |
| phylum = [[Chordate|Chordata]] |
||
บรรทัด 11: | บรรทัด 12: | ||
| ordo = [[Proboscidea]] |
| ordo = [[Proboscidea]] |
||
| familia = [[Elephantidae]] |
| familia = [[Elephantidae]] |
||
| genus = '''''Mammuthus''''' |
| genus = '''''Mammuthus'''''<ref name="Mam"/> |
||
| genus_authority = [[Joshua Brookes|Brookes]], 1828 |
| genus_authority = [[Joshua Brookes|Brookes]], 1828 |
||
| type_species = [[สูญพันธุ์|†]] ''[[Mammuthus primigenius]]'' |
|||
⚫ | |||
| type_species_authority = ([[Johann Friedrich Blumenbach|Blumenbach]], 1799 [ดั้งเดิม ''Elephas'']) |
|||
⚫ | |||
| subdivision = |
| subdivision = |
||
* ''[[Mammuthus africanavus]]'' |
* ''[[Mammuthus africanavus]]'' (แมมมอธแอฟริกา) [[สูญพันธุ์|†]] |
||
* ''[[Mammuthus columbi]]'' |
* ''[[Mammuthus columbi]]'' (แมมมอธโคลัมเบีย) [[สูญพันธุ์|†]] |
||
* ''[[Mammuthus exilis]]'' |
* ''[[Mammuthus exilis]]'' (แมมมอธแคระ) [[สูญพันธุ์|†]] |
||
* ''[[Mammuthus jeffersonii]]'' |
* ''[[Mammuthus jeffersonii]]'' (แมมมอธเจฟเฟอร์โซเนีย) [[สูญพันธุ์|†]] |
||
* ''[[Mammuthus trogontherii]]'' |
* ''[[Mammuthus trogontherii]]'' (แมมมอธทุ่งหญ้าสเตปป์) [[สูญพันธุ์|†]] |
||
* ''[[Mammuthus meridionalis]]'' |
* ''[[Mammuthus meridionalis]]'' [[สูญพันธุ์|†]] |
||
* ''[[Mammuthus subplanifrons]]'' [[ |
* ''[[Mammuthus subplanifrons]]'' (แมมมอธแอฟริกาใต้) [[สูญพันธุ์|†]] |
||
* ''[[Mammuthus primigenius]]'' |
* ''[[Mammuthus primigenius]]'' (แมมมอธขนดก) [[สูญพันธุ์|†]] |
||
* ''[[Mammuthus lamarmorae]]'' |
* ''[[Mammuthus lamarmorae]]'' (แมมมอธแคระซาร์ดิเนียน) [[สูญพันธุ์|†]] |
||
}} |
}} |
||
'''ช้างแมมมอธ''' หรือ '''แมมมอธ''' ({{lang-en|Mammoth}}) เป็น[[สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม]][[อันดับช้าง|ตระกูลช้าง]]ที่อาศัยอยู่ใน[[ยุคน้ำแข็ง]]เมื่อกว่า 20,000 ปีก่อน จัดอยู่ในวงศ์ [[Elephantidae]] เช่นเดียวกับช้างที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน โดยอยู่ในสกุล ''Mammuthus'' จำแนกออกได้ทั้งหมด 9 ชนิด (ดูในตาราง) |
|||
'''ช้างแมมมอธ''' เป็น[[ช้าง]]ที่อาศัยอยู่ใน[[ยุคน้ำแข็ง]]เมื่อ 20,000 ปีก่อน แต่สูญพันธุ์ไปเพราะถูก[[มนุษย์]][[ยุคหิน]]ล่า มี[[ขน]]ยาวปกคลุมเพื่อป้องกันความหนาวเย็น มี[[งา]]ยาวและโค้ง การค้นพบซากแมมมอธ สามารถนำมาศึกษาวิจัยเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก เพราะแมมมอธเคยผ่านช่วงเวลานั้นมา พ.ศ. 2550 ได้มีการพบซากลูกช้างสูง 130 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ใกล้กับ[[แม่น้ำยูริเบ]] ในเขตปกครองตนเอง ยามาล - เนเน็ต ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ[[ไซบีเรีย]] โดย ยูริ คูดี<ref>http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=269070&lang=T</ref> |
|||
โดยคำว่า "แมมมอธ" นั้นมาจากคำว่า "[[Mammal]]" หรือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม |
|||
แมมมอธ กระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะ[[ทวีปยุโรป]]และ[[เอเชียเหนือ]] เช่น [[ไซบีเรีย]] ยกเว้น[[ออสเตรเลีย]]และ[[อเมริกาใต้]] เป็นช้างที่มีลำตัวและงาใหญ่กว่าช้างในยุคปัจจุบันมาก ปัจจุบันจะค้นพบ[[ซากดึกดำบรรพ์]]ของแมมมอธได้ใน[[Pleistocene |ยุคไพลสโตซีน]] <ref name="แมมมอธ"/> |
|||
แมมมอธ กำเนิดขึ้นมาเมื่อราว 2.6 ล้านปีก่อน ในยุค[[ไพลโอซีน]]ตอนต้น และ[[สูญพันธุ์]]อย่างสิ้นเชิง เมื่อ 11,700 ปีที่ผ่านมา (แมมมอธตัวสุดท้ายที่สูญพันธุ์ คือ แมมมอธแคระ ที่อาศัยบนเกาะแรงเกล ใน[[ทะเลอาร์กติก]] เมื่อราว 3,700 ปีก่อน<ref name="ช้าง"/>) แมมมอธมีขนาดโดยเฉลี่ย 4 เมตร (14 ฟุต) ตั้งแต่เท้าจนถึงหัวไหล่ มีสีขนที่หลากหลายตั้งแต่น้ำตาล หรือออกเหลือง ความยาวตั้งแต่ 2.5 เซนติเมตร (1 นิ้ว) จนถึง 50 เซนติเมตร (20 นิ้ว) ภายใต้ผิวหนังหนาและมีชั้นไขมันเป็นฉนวนกันความหนาว 8 เซนติเมตร (3 นิ้ว) มีส่วนหัวที่กลม ใบหูเล็กกว่าช้างในยุคปัจจุบันมาก มีโหนกไขมันอยู่บริเวณส่วนหลัง มีงายาวโค้งได้ถึง 13 ฟุต (4 เมตร)<ref name="Mam"/> ทั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเหมาะแก่การอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่ความหนาวในยุคน้ำแข็ง เพื่อรักษาความอบอุ่นในร่างกาย <ref name="แมมมอธ"/> |
|||
แมมมอธ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ด้วยการล่าเอาเนื้อเป็นอาหาร หนังและไขมันเป็นเครื่องสร้างความอบอุ่น จนมีภาพเขียนสีบนผนังถ้ำหลายแห่งที่ปรากฏภาพ การล่าแมมมอธด้วยอาวุธที่ทำจาก[[หิน]]ในยุคนั้น <ref name="แมมมอธ"/> |
|||
แมมมอธ จำแนกออกได้เป็นทั้งหมด 9 ชนิด แต่ละชนิดมีลักษณะ รูปร่าง แตกต่างกันออกไป โดยชนิดที่เป็นที่รู้จักดีที่สุด คือ [[แมมมอธขนดก]] (''Mammuthus primigenius'') ที่มีขนปกคลุมอยู่ทั้งตัว <ref name="แมมมอธ">[http://www.britannica.com/EBchecked/topic/360965/mammoth mammoth]</ref> <ref name="Mam">[http://www.elephant.se/mammoths.php Mammoths]</ref> |
|||
เชื่อว่า แมมมอธสูญพันธุ์ไปเพราะถูกล่าโดยมนุษย์จนหมด แต่จากการศึกษาด้านพันธุกรรมศาสตร์และ[[ดีเอ็นเอ]]พบว่า แมมมอธนั้นมีสายสัมพันธ์ใกล้เคียงกับ ''[[Elephas]]'' หรือช้างเอเชียที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์ฺมาจนปัจจุบัน จึงมีความพยายามจากนักวิทยาศาสตร์ที่จะ[[โคนนิ่ง]]ตัวอ่อนของแมมมอธให้เกิดขึ้นมาให้ได้ โดยให้แม่ช้างเอเชียเป็นฝ่ายอุ้มท้อง จากการสกลัด[[นิวเคลียส]]จากซากดึกดำบรรพ์ของลูกแมมมอธที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เพราะถูกแช่แข็งในน้ำแข็ง จากไขกระดูกบริเวณต้นขา<ref name="ช้าง">[http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000158124 สักวันเราคงโคลน “แมมมอธ” สำเร็จด้วยแม่อุ้มบุญ “ช้างเอเชีย” จากผู้จัดการออนไลน์]</ref> |
|||
ในปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2012 มีการค้นพบซากลูกแมมมอธอายุราว 30,000 ปี ที่สมบูรณ์มากตัวหนึ่งที่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือห่างจาก[[กรุงมอสโค]]ราว 3,500 กิโลเมตร โดยเด็กชายวัย 11 ขวบคนหนึ่ง นับเป็นการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ที่สมบูรณ์มากซากหนึ่งในรอบนับร้อยปี เชื่อว่า ลูกแมมมอธตัวดังกล่าวตายลงเมื่อมีอายุได้ 16 ปี มีความสูงได้ 2 เมตร <ref>[http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1349508791&grpid=01&catid=01 ด.ช.รัสเซีย 11 ขวบค้นพบ"ซากแมมมอธ"อายุ 30,000 ปี ในไซบีเรีย จากมติชน]</ref> |
|||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
{{รายการอ้างอิง}} |
{{รายการอ้างอิง}} |
||
{{commonscat|Mammuthus}} |
|||
[[Image:Mammuthus Tooth Side View Pleistocene Ohio.jpg|thumb|left|''Mammuthus'']] |
|||
==แหล่งข้อมูลอื่น== |
|||
[[Image:Mammuthus Tooth Surface Pleistocene Ohio.jpg|thumb|left|''Mammuthus'']] |
|||
{{wikispecies-inline|Mammuthus}} |
|||
[[หมวดหมู่:ช้าง|มแมมอธ]] |
[[หมวดหมู่:ช้าง|มแมมอธ]] |
||
[[หมวดหมู่:สิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์ไปแล้ว]] |
|||
[[หมวดหมู่:สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่สูญพันธุ์ไปแล้ว]] |
[[หมวดหมู่:สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่สูญพันธุ์ไปแล้ว]] |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 07:03, 28 ธันวาคม 2555
ช้างแมมมอธ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ยุคต้นไพลโอซีน - ยุึคกลางโฮโลซีน, 5–0.0045Ma | |
---|---|
รูปวาดแมมมอธขนดก | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
สูญพันธุ์
| |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
อันดับ: | Proboscidea |
วงศ์: | Elephantidae |
สกุล: | Mammuthus[1] Brookes, 1828 |
ชนิดต้นแบบ | |
† Mammuthus primigenius (Blumenbach, 1799 [ดั้งเดิม Elephas]) | |
ชนิด | |
|
ช้างแมมมอธ หรือ แมมมอธ (อังกฤษ: Mammoth) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูลช้างที่อาศัยอยู่ในยุคน้ำแข็งเมื่อกว่า 20,000 ปีก่อน จัดอยู่ในวงศ์ Elephantidae เช่นเดียวกับช้างที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน โดยอยู่ในสกุล Mammuthus จำแนกออกได้ทั้งหมด 9 ชนิด (ดูในตาราง)
โดยคำว่า "แมมมอธ" นั้นมาจากคำว่า "Mammal" หรือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
แมมมอธ กระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะทวีปยุโรปและเอเชียเหนือ เช่น ไซบีเรีย ยกเว้นออสเตรเลียและอเมริกาใต้ เป็นช้างที่มีลำตัวและงาใหญ่กว่าช้างในยุคปัจจุบันมาก ปัจจุบันจะค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของแมมมอธได้ในยุคไพลสโตซีน [2]
แมมมอธ กำเนิดขึ้นมาเมื่อราว 2.6 ล้านปีก่อน ในยุคไพลโอซีนตอนต้น และสูญพันธุ์อย่างสิ้นเชิง เมื่อ 11,700 ปีที่ผ่านมา (แมมมอธตัวสุดท้ายที่สูญพันธุ์ คือ แมมมอธแคระ ที่อาศัยบนเกาะแรงเกล ในทะเลอาร์กติก เมื่อราว 3,700 ปีก่อน[3]) แมมมอธมีขนาดโดยเฉลี่ย 4 เมตร (14 ฟุต) ตั้งแต่เท้าจนถึงหัวไหล่ มีสีขนที่หลากหลายตั้งแต่น้ำตาล หรือออกเหลือง ความยาวตั้งแต่ 2.5 เซนติเมตร (1 นิ้ว) จนถึง 50 เซนติเมตร (20 นิ้ว) ภายใต้ผิวหนังหนาและมีชั้นไขมันเป็นฉนวนกันความหนาว 8 เซนติเมตร (3 นิ้ว) มีส่วนหัวที่กลม ใบหูเล็กกว่าช้างในยุคปัจจุบันมาก มีโหนกไขมันอยู่บริเวณส่วนหลัง มีงายาวโค้งได้ถึง 13 ฟุต (4 เมตร)[1] ทั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเหมาะแก่การอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่ความหนาวในยุคน้ำแข็ง เพื่อรักษาความอบอุ่นในร่างกาย [2]
แมมมอธ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ด้วยการล่าเอาเนื้อเป็นอาหาร หนังและไขมันเป็นเครื่องสร้างความอบอุ่น จนมีภาพเขียนสีบนผนังถ้ำหลายแห่งที่ปรากฏภาพ การล่าแมมมอธด้วยอาวุธที่ทำจากหินในยุคนั้น [2]
แมมมอธ จำแนกออกได้เป็นทั้งหมด 9 ชนิด แต่ละชนิดมีลักษณะ รูปร่าง แตกต่างกันออกไป โดยชนิดที่เป็นที่รู้จักดีที่สุด คือ แมมมอธขนดก (Mammuthus primigenius) ที่มีขนปกคลุมอยู่ทั้งตัว [2] [1]
เชื่อว่า แมมมอธสูญพันธุ์ไปเพราะถูกล่าโดยมนุษย์จนหมด แต่จากการศึกษาด้านพันธุกรรมศาสตร์และดีเอ็นเอพบว่า แมมมอธนั้นมีสายสัมพันธ์ใกล้เคียงกับ Elephas หรือช้างเอเชียที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์ฺมาจนปัจจุบัน จึงมีความพยายามจากนักวิทยาศาสตร์ที่จะโคนนิ่งตัวอ่อนของแมมมอธให้เกิดขึ้นมาให้ได้ โดยให้แม่ช้างเอเชียเป็นฝ่ายอุ้มท้อง จากการสกลัดนิวเคลียสจากซากดึกดำบรรพ์ของลูกแมมมอธที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เพราะถูกแช่แข็งในน้ำแข็ง จากไขกระดูกบริเวณต้นขา[3]
ในปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2012 มีการค้นพบซากลูกแมมมอธอายุราว 30,000 ปี ที่สมบูรณ์มากตัวหนึ่งที่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือห่างจากกรุงมอสโคราว 3,500 กิโลเมตร โดยเด็กชายวัย 11 ขวบคนหนึ่ง นับเป็นการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ที่สมบูรณ์มากซากหนึ่งในรอบนับร้อยปี เชื่อว่า ลูกแมมมอธตัวดังกล่าวตายลงเมื่อมีอายุได้ 16 ปี มีความสูงได้ 2 เมตร [4]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Mammuthus ที่วิกิสปีชีส์