ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดาวดึงส์"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 3: | บรรทัด 3: | ||
'''ดาวดึงส์''' ([[ภาษาบาลี|บาลี]] : ตาวติงฺส) หรือ '''ไตรตรึงษ์''' ([[ภาษาสันสกฤต|สันสกฤต]] : ตฺรยสติงฺษ) เป็นชื่อของสวรรค์ (ภูมิของเทวดาทั้งหลาย) อันสำคัญยิ่งใน[[จักรวาลวิทยาในศาสนาพุทธ|จักรวาลวิทยา]]ของ[[ศาสนาพุทธ]] คำว่า "ตฺรยสติงฺษ" เป็นรูป[[คำคุณศัพท์]]ของคำว่า "ตฺรยสติงฺษต" (จำนวน 33) อาจแปลความหมายได้ว่า "ที่อยู่ของเทพ 33 องค์" |
'''ดาวดึงส์''' ([[ภาษาบาลี|บาลี]] : ตาวติงฺส) หรือ '''ไตรตรึงษ์''' ([[ภาษาสันสกฤต|สันสกฤต]] : ตฺรยสติงฺษ) เป็นชื่อของสวรรค์ (ภูมิของเทวดาทั้งหลาย) อันสำคัญยิ่งใน[[จักรวาลวิทยาในศาสนาพุทธ|จักรวาลวิทยา]]ของ[[ศาสนาพุทธ]] คำว่า "ตฺรยสติงฺษ" เป็นรูป[[คำคุณศัพท์]]ของคำว่า "ตฺรยสติงฺษต" (จำนวน 33) อาจแปลความหมายได้ว่า "ที่อยู่ของเทพ 33 องค์" |
||
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นสวรรค์ชั้นที่ 2 จากสวรรค์[[ฉกามาพจร]]ทั้ง 6 ชั้น โดยอยู่ |
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นสวรรค์ชั้นที่ 2 จากสวรรค์[[ฉกามาพจร]]ทั้ง 6 ชั้น(จัดอยู่ใน[[กามภูมิ]]) โดยอยู่สูงขึ้นไปถัดจากสวรรค์ชั้น[[จาตุมหาราชิกา]]ขึ้นไป 336,000,000 วา หรือ 168,000 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนยอด[[เขาพระสุเมรุ]]อันสูง 80,000 โยชน์ ซึ่งเป็นจุดสูงที่สุดที่ยังเชื่อมอยู่กัยมนุสสภูมิหรือโลกมนุษย์ (อาจเทียบได้กับ[[ยอดเขาโอลิมปัส]]ใน[[ตำนานเทพปกรณัมกรีก]]) อาณาบริเวณโดยรอบ 80,000 ตารางโยชน์ มี[[ท้าวสักกะ]]หรือ[[พระอินทร์]]เป็นผู้ปกครอง |
||
เมืองบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นเมืองใหญ่ที่สร้างอย่างงดงามด้วย[[ทอง]]และ[[แก้ว]] 7 ประการ มีเสียง[[ดนตรี]]บรรเลงอยู่อย่างไพเราะ กลางเมืองดาวดึงส์มีปราสาทใหญ่ที่งดงามเป็นที่ประดับของพระอินทร์ |
เมืองบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นเมืองใหญ่ที่สร้างอย่างงดงามด้วย[[ทอง]]และ[[แก้ว]] 7 ประการ มีเสียง[[ดนตรี]]บรรเลงอยู่อย่างไพเราะ กลางเมืองดาวดึงส์มีปราสาทใหญ่ที่งดงามเป็นที่ประดับของพระอินทร์ |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:54, 25 มีนาคม 2554
ดาวดึงส์ (บาลี : ตาวติงฺส) หรือ ไตรตรึงษ์ (สันสกฤต : ตฺรยสติงฺษ) เป็นชื่อของสวรรค์ (ภูมิของเทวดาทั้งหลาย) อันสำคัญยิ่งในจักรวาลวิทยาของศาสนาพุทธ คำว่า "ตฺรยสติงฺษ" เป็นรูปคำคุณศัพท์ของคำว่า "ตฺรยสติงฺษต" (จำนวน 33) อาจแปลความหมายได้ว่า "ที่อยู่ของเทพ 33 องค์"
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นสวรรค์ชั้นที่ 2 จากสวรรค์ฉกามาพจรทั้ง 6 ชั้น(จัดอยู่ในกามภูมิ) โดยอยู่สูงขึ้นไปถัดจากสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาขึ้นไป 336,000,000 วา หรือ 168,000 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนยอดเขาพระสุเมรุอันสูง 80,000 โยชน์ ซึ่งเป็นจุดสูงที่สุดที่ยังเชื่อมอยู่กัยมนุสสภูมิหรือโลกมนุษย์ (อาจเทียบได้กับยอดเขาโอลิมปัสในตำนานเทพปกรณัมกรีก) อาณาบริเวณโดยรอบ 80,000 ตารางโยชน์ มีท้าวสักกะหรือพระอินทร์เป็นผู้ปกครอง
เมืองบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นเมืองใหญ่ที่สร้างอย่างงดงามด้วยทองและแก้ว 7 ประการ มีเสียงดนตรีบรรเลงอยู่อย่างไพเราะ กลางเมืองดาวดึงส์มีปราสาทใหญ่ที่งดงามเป็นที่ประดับของพระอินทร์
บนสวรรค์ชั้นนี้มีอุทยานที่งดงามมากอยู่ 4 แห่ง คือ
- นันทวนุทยาน หรือ สวนนันทวัน (สวนที่รื่นรมย์) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ในสวนด้านที่ใกล้กับตัวเมืองมีสระใหญ่ 2 สระ สระหนึ่งมีชื่อว่า สระนันทาโบกขรณี อีกสระหนึ่งมีชื่อว่า จุลนันทาโบกขรณี มีแผ่นศิลา 2 แผ่น แผ่นหนึ่งมีชื่อว่า นันทาปริถิปาสาณ อีกแผ่นหนึ่งมีชื่อว่า จุลนันทาปริถิปาสาณ เป็นศิลาที่มีรัศมีเรืองรอง เมื่อจับดูจะรู้สึกว่านิ่มเหมือนขนสัตว์
- ผรุสกวัน หรือ ปารุสกวัน (ป่าลิ้นจี่) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันใต้ของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ในอุทยานนี้ด้านใกล้ตัวเมือง มีสระใหญ่ 2 สระ สระหนึ่งมีชื่อว่า ภัทราโบกขรณี อีกสระหนึ่งมีชื่อว่า สุภัทราโบกขรณี มีก้อนแก้วใส 2 ก้อน ก้อนหนึ่งมีชื่อว่า ภัทราปริถิปาสาณ อีกก้อนหนึ่งมีชื่อว่า สุภัทราปริถิปาสาณ เป็นแก้วเกลี้ยงและอ่อนนุ่ม
- จิตรลดาวัน (ป่ามีเถาวัลย์หลากสีสวยงาม) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกกของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ สระในอุทยานนี้มีชื่อว่า จิตรโบกขรณี และจุลจิตรโบกขรณี ส่วนแผ่นศิลาแก้วในอุทยานนี้แผ่นหนึ่งมีชื่อว่า จิตรปาสาณ อีกแผ่นหนึ่งมีชื่อว่า จุลจิตรปาสาณ
- สักกวัน หรือ มิสกวัน (ป่าไม้ระคน) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันเหนือของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ สระใหญ่ในอุทยานนี้มีชื่อว่า ธรรมาโบกขรณี และสุธรรมาโบกขรณี ส่วนแผ่นศิลาแก้วมีชื่อว่า ธรรมาปริถิปาสาณ และสุธรรมาปิริถิปาสาณ