ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วัจนภาษา"
ล ย้อนการแก้ไขที่อาจเป็นการทดลอง หรือก่อกวนด้วยบอต ไม่ควรย้อน? แจ้งที่นี่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{โปร}} |
{{โปร}} |
||
[[ไฟล์:Spelling.png|thumb|การสะกดคำเป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นในวัจนภาษา]] |
[[ไฟล์:Spelling.png|thumb|การสะกดคำเป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นในวัจนภาษา]] |
||
'''วัจนภาษา''' หมายถึงการสื่อสารในระบบคำและประโยค โดยผ่านการฟัง พูด อ่าน เขียน โดยจะมี[[คำ]]เป็นตัวสื่อความหมาย ซึ่งใน[[ประโยค]]ใดๆ คำแต่ละคำจะ[[การเขียน|เขียน]]และ[[การอ่าน|อ่าน]]ได้เพียงวิธีเดียวเท่านั้น กล่าวคือ ถึงแม้ว่าคำบางคำอาจมีตัวสะกดเหมือนกัน(คำพ้องรูป) หรือ คำบางคำอ่านอ่านออกเสียงเหมือนกัน(คำพ้องเสียง) แต่คำใดๆก็ตามเมื่ออยู่ในประโยคแล้ว ย่อมเขียนและอ่านได้เพียงรูปแบบเดียว เช่น ช่วงนี้ทำงานให้มัน''เพลาๆ''ลงบ้าง คำว่า'''เพลา'''เป็นคำพ้องรูป อาจอ่านว่า ''เพลา''ซึ่งหมายถึง แกนหมุนของล้อหรือการทำงานไม่หักโหม หรืออ่านว่า ''เพ-ลา'' ซึ่งแปลว่า เวลา แต่ในประโยค ช่วงนี้ทำงานให้มัน''เพลาๆ''ลงบ้าง คำว่า''' เพลา'''ต้องอ่านว่า ''เพลา'' เท่านั้น |
'''วัจนภาษา''' หมายถึงการสื่อสารในระบบคำและประโยค โดยผ่านการฟัง พูด อ่าน เขียน โดยจะมี[[คำ]]เป็นตัวสื่อความหมาย ซึ่งใน[[ประโยค]]ใดๆ คำแต่ละคำจะ[[การเขียน|เขียน]]และ[[การอ่าน|อ่าน]]ได้เพียงวิธีเดียวเท่านั้น กล่าวคือ ถึงแม้ว่าคำบางคำอาจมีตัวสะกดเหมือนกัน(คำพ้องรูป) หรือ คำบางคำอ่านอ่านออกเสียงเหมือนกัน(คำพ้องเสียง) แต่คำใดๆก็ตามเมื่ออยู่ในประโยคแล้ว ย่อมเขียนและอ่านได้เพียงรูปแบบเดียว เช่น ช่วงนี้ทำงานให้มัน''เพลาๆ''ลงบ้าง คำว่า'''เพลา'''เป็นคำพ้องรูป อาจอ่านว่า ''เพลา''ซึ่งหมายถึง แกนหมุนของล้อหรือการทำงานไม่หักโหม หรืออ่านว่า ''เพ-ลา'' ซึ่งแปลว่า เวลา แต่ในประโยค ช่วงนี้ทำงานให้มัน''เพลาๆ''ลงบ้าง คำว่า''' เพลา'''ต้องอ่านว่า ''เพลา'' เท่านั้น และแม่ธารารัตน์เข้ามาในคืนนั้นมาเมาๆเหมือนอยากเอากับผม อิอิ |
||
== ระบบพยางค์ == |
== ระบบพยางค์ == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:27, 15 พฤษภาคม 2562
บทความนี้ต้องการตรวจสอบความถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ โปรดเพิ่มพารามิเตอร์ reason หรือ talk ลงในแม่แบบนี้เพื่ออธิบายปัญหาของบทความ |
วัจนภาษา หมายถึงการสื่อสารในระบบคำและประโยค โดยผ่านการฟัง พูด อ่าน เขียน โดยจะมีคำเป็นตัวสื่อความหมาย ซึ่งในประโยคใดๆ คำแต่ละคำจะเขียนและอ่านได้เพียงวิธีเดียวเท่านั้น กล่าวคือ ถึงแม้ว่าคำบางคำอาจมีตัวสะกดเหมือนกัน(คำพ้องรูป) หรือ คำบางคำอ่านอ่านออกเสียงเหมือนกัน(คำพ้องเสียง) แต่คำใดๆก็ตามเมื่ออยู่ในประโยคแล้ว ย่อมเขียนและอ่านได้เพียงรูปแบบเดียว เช่น ช่วงนี้ทำงานให้มันเพลาๆลงบ้าง คำว่าเพลาเป็นคำพ้องรูป อาจอ่านว่า เพลาซึ่งหมายถึง แกนหมุนของล้อหรือการทำงานไม่หักโหม หรืออ่านว่า เพ-ลา ซึ่งแปลว่า เวลา แต่ในประโยค ช่วงนี้ทำงานให้มันเพลาๆลงบ้าง คำว่า เพลาต้องอ่านว่า เพลา เท่านั้น และแม่ธารารัตน์เข้ามาในคืนนั้นมาเมาๆเหมือนอยากเอากับผม อิอิ
ระบบพยางค์
พยางค์คือ การกำหนดการเปล่งเสียงออกมาครั้งหนึ่ง ๆ จะมีความหมายหรือไม่มีความหมายก็ได้ ในระบบคำ หนึ่งพยางค์จะประกอบด้วยอย่างน้อยห้าส่วน
- เสียงสระ หรือเสียงแท้ เกิดจากการบังคับรูปของหลอดลมและลิ้น
- เสียงพยัญชนะ หรือเสียงแปร เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฐานเสียง
- เสียงวรรณยุกต์ หรือเสียงดนตรี เกิดจากการเปลี่ยนความถี่การสั่นของเส้นเสียง
และมีอีกสองส่วน จะมีหรือไม่มีก็ได้
- เสียงสะกด เป็นเสียงพยัญชนะอีกรูปหนึ่งที่ตามหลังพยางค์ อาจไม่มีก็ได้
- ตัวทัณตฆาต เป็นตัวที่ปรากฏในคำเวลาเขียน แต่ไม่ออกเสียง
พยางค์ | เสียงสระ | เสียงพยัญชนะ | เสียงวรรณยุกต์ | เสียงตัวสะกด | ตัวการันต์ |
---|---|---|---|---|---|
สังข์ (ภาษาไทย) | อะ(/a/) | ส,ซ (/s/) | จัตวา | ง(/ng/) | ข์ |
knife (ภาษาอังกฤษ) | /n/ | /i/ | ตรี | /f/ | k |
您 (nín ภาษาจีน) | /n/ | /i:/ | จัตวา(ตรงกับเสียงที่2ของพินอิน) | /n/ |
ระบบคำ
คำ คือการแทนความหมายของสิ่งต่างๆ โดยประกอบจากพยางค์ อันจะมีพยางค์เดียวหรือหลายพยางค์ก็ได้ คำอาจจะเกิดขึ้นมาโดดเลย เรียกว่า คำมูล หรือ คำโดด หรืออาจจะเกิดจากการประกอบของคำหลายๆคำ เรียกว่าคำรวม หรือ คำประสม
ระบบประโยค
ประโยคเป็นการแทนความหมายของสภาพ โดยประกอบด้วยสองส่วนเป็นอย่างน้อย คือภาคประธานและภาคแสดง การประกอบจะประกอบคำซึ่งมีสองคำหลักทำหน้าที่เป็นคำนามในภาคประธาน และคำกริยาในภาคแสดง
ประโยค | ภาคประธาน | ภาคแสดง |
---|---|---|
ฝนตก | ฝน | ตก |
She is swimming. | She | is swimming |
您可以帮助维基媒体改变这个世界。 | 您 | 可以帮助维基媒体改变这个世界 |