ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง"
Aquapatinth (คุย | ส่วนร่วม) |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 22: | บรรทัด 22: | ||
}} |
}} |
||
'''ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง''' ({{Lang-en|Curse of the Golden Flower}}; {{zh-all|s=满城尽带黄金甲|t=滿城盡帶黃金甲|p=Mǎnchéng Jìndài Huángjīnjiǎ}}) เป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2549 [[บทภาพยนตร์]]และกำกับโดย[[จาง อี้โหมว]] |
'''ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง''' ({{Lang-en|Curse of the Golden Flower}}; {{zh-all|s=满城尽带黄金甲|t=滿城盡帶黃金甲|p=Mǎnchéng Jìndài Huángjīnjiǎ}}) เป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2549 [[บทภาพยนตร์]]และกำกับโดย[[จาง อี้โหมว]] |
||
== เรื่องย่อ == |
|||
ใน [[ค.ศ. 989]] ในยุค[[ราชวงศ์โฮ่วถัง]] คืนก่อนหน้าเทศกาลฉงหยาง (วันที่ 9 เดือน 9) ฮ่องเต้เสด็จกลับมาพร้อมกับองค์ชายรองเหยียนเจี๋ย พระองค์มีพระประสงค์จะร่วมเฉลิมฉลองกับพระญาติ แต่ความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานระหว่างฮ่องเต้และฮองเฮาก็ทำให้ฮองเฮากับองค์รัชทายาทเหยียนเสียง พระโอรสเลี้ยงของพระนาง แอบลักลอบมีความสัมพันธ์กันมานานหลายปี ด้วยความรู้สึกอึดอัด องค์รัชทายาทเหยียนเสียง จึงได้คิดที่จะออกจากพระราชวังไปอยู่ชายแดนพร้อมกับ เสี่ยวฉาน คนรักลับลับของพระองค์ ซึ่งเป็นลูกสาวของหมอหลวงประจำราชสำนัก |
|||
ในขณะเดียวกัน องค์ชายรองเหยียนเจี๋ย พระโอรสผู้ซื่อสัตย์ที่ห่างจากพระราชวังไปนานถึง 3 ปี รู้สึกกังวลในสุขภาพของฮองเฮา ที่มักจะเกิดอาการกระตุกอย่างไม่ทราบสาเหตุอยู่บ่อย ๆ จนฮ่องเต้ต้องบังคับให้พระนางต้องเสวยยาทุก ๆ ชั่วยาม และความหมกมุ่นในการปักดอก[[เบญจมาศ]][[สีทอง]]ของพระนาง ที่พระนางให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ฮ่องเต้เองก็ทรงมีแผนการลับในพระทัยอยู่ด้วยเช่นกัน หมอหลวง เป็นบุคคลเพียงผู้เดียวที่ได้รับรู้ถึงแผนร้ายของพระองค์ เมื่อฮ่องเต้ตระหนักถึงภัยคุกคามที่ใกล้เข้ามา พระองค์จึงรับสั่งให้หมอหลวงไปรับราชการยังสถานที่ห่างไกล ขณะที่พวกเขาเดินทางอยู่นั้นเอง มือสังหารลึกลับได้ลอบโจมตีพวกเขา เสี่ยวฉานและเจียงฉี ผู้เป็นมารดาถูกบีบบังคับให้กลับไปในพระราชวัง การกลับมาของพวกเธอเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์น่าประหลาดใจมากมาย ท่ามกลางความงดงามและเลิศหรูของเทศกาล ความลับที่ถูกปกปิดถูกเปิดเผยในขณะที่เหล่าเชื้อพระวงศ์กำลังเฉลิมฉลองงานเทศกาลนี้ นักรบเกราะทองคำนับพัน คนกำลังบุกเข้ามายังพระราชวังใครกันที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการกบฏครั้งนี้ หรือดอกเบญจมาศที่เบ่งบานจะถูกย่ำยีเมื่อเลือดหลั่งนองทั่วพระราชวัง |
|||
==นักแสดง== |
==นักแสดง== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:55, 29 ตุลาคม 2561
ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง | |
---|---|
กำกับ | จาง อี้โหมว |
เขียนบท | เชา หยู จาง อี้โหมว |
อำนวยการสร้าง | วิลเลี่ยม กง จาง เหว่ยผิง จาง อี้โหมว |
นักแสดงนำ | โจว เหวินฟะ กง ลี่ เจย์ โชว |
ดนตรีประกอบ | 菊花台 โดย เจย์ โชว |
วันฉาย | และ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2006 21 ธันวาคม ค.ศ. 2006 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2006 13 เมษายน ค.ศ. 2007 |
ความยาว | 114 นาที |
ประเทศ | จีน |
ภาษา | จีนกลาง |
ทุนสร้าง | 45,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ |
ข้อมูลจาก All Movie Guide | |
ข้อมูลจาก IMDb |
ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง (อังกฤษ: Curse of the Golden Flower; จีนตัวย่อ: 满城尽带黄金甲; จีนตัวเต็ม: 滿城盡帶黃金甲; พินอิน: Mǎnchéng Jìndài Huángjīnjiǎ) เป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2549 บทภาพยนตร์และกำกับโดยจาง อี้โหมว
นักแสดง
- โจว เหวินฟะ...ฮ่องเต้
- กง ลี่...ฮ่องเฮา
- เจย์ โชว...องค์ชายรองเหยียนเจี๋ย
- หลิว ยี่...รัชทายาท องค์ชายใหญ่เหยียนเสียง
- หลี เหมิ่น...เสี่ยวฉาน
เบื้องหลังและความสำเร็จ
Curse of the Golden Flower เป็นภาพยนตร์กำลังภายในอีกเรื่องหนึ่งจากการกำกับโดย จาง อี้โหมว ผู้กำกับฯชาวจีนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่ต้องการจะกำกับภาพยนตร์ในแนวกำลังภายในผสมผสานกับภาพยนตร์แนวหักเหลี่ยมชิงอำนาจกันในพระราชวัง เช่นเดียวกับบทละครของวิลเลี่ยม เช็คสเปียร์
โดยโครงเรื่องของภาพยนตร์ได้รับอิทธิพลมาจากบทละครเรื่อง Thunderstorm ของเกา หยู ได้รับคำวิจารณ์ว่า แม้จะเป็นส่วนผสมที่ยังไม่ค่อยลงตัว แต่ก็ยังเป็นภาพยนตร์ความยาว 2 ชั่วโมงที่ให้ความบันเทิงเป็นอย่างดี มันมีทั้งงานด้านภาพอันเหลือเชื่อและการแสดงทรงพลังโดยนักแสดงชั้นนำของเอเชียอย่าง กง ลี่ และ โจ เหวินฟะ ตัวละครที่ทั้ง 2 เล่นนั้น ถ่วงน้ำหนักของเรื่องเอาไว้มาก กง ลี่นั้นแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวด เดียวดาย และความบ้าคลั่งที่เริ่มก่อตัวขึ้นในฐานะของฮ่องเฮา ส่วนโจว เหวินฟะ แสดงถึงความเป็นคนสารเลว แม้ว่าสถานะฮ่องเต้จะทำให้เขามีพลังอำนาจและเฉลียวฉลาด ทว่าคงไม่มีใครชอบเขาได้ นอกจากนี้แล้วยังถือว่าได้ค้นพบนักแสดงที่ดีอีกคนคือ หลี่ เหมิ่น ที่รับบทเสี่ยวฉาน อีกทั้งการใช้สีเหลืองและแดงเป็นสัญลักษณ์บางอย่าง พลอยทำให้การห้ำหั่นหรือต่อสู้ที่ควรจะโหดเหี้ยมและหม่นมืดนั้นเปี่ยมไปด้วยสีสันอันสดใสและสว่างไสวของฉากที่อลังการอย่างมาก[1]
ภาพยนตร์มีชื่อเข้าชิงในหลายรางวัล ทั้งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมฮ่องกง และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 79 ใน สาขา ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม อีกด้วย[2]