พระอำนวยเนติพจน์ (เลื่อง โรจนกุล)
อำมาตย์ตรี พระอำนวยเนติพจน์ (เลื่อง โรจนกุล) | |
---|---|
พระอำนวยเนติพจน์ (เลื่อง) ขณะรับราชการ เมื่อ พ.ศ. 2459 | |
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2456 – พ.ศ. 2460 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2398 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงรัตนโกสินทร์ |
เสียชีวิต | 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2471 (73 ปี)[1]: 7 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงรัตนโกสินทร์ |
บุพการี |
|
อาชีพ | ข้าราชการฝ่ายตุลาการ, ขุนนาง |
อำมาตย์ตรี พระอำนวยเนติพจน์[2]: 22 (3 กรกฎาคม พ.ศ. 2398 – 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2471) เดิมชื่อ เลื่อง หรือ เนื่อง[3] เป็นอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด อดีตข้าราชการฝ่ายตุลาการ กระทรวงยุติธรรม สมัยปลายรัชกาล ที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6[4]
ประวัติ[แก้]
พระอำนวยเนติพจน์ (เลื่อง) เกิดวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2398[1]: 6 [5] มีนิวาสสถานเดิมอยู่ที่วังหลัง แขวงบ้านช่างหล่อ (จังหวัดธนบุรี) บิดาชื่ออู่ โรจนกุล[5] บุตรชื่อ รองอำมาตย์ตรี ลือ โรจนกุล เมื่อมีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์เมื่อ พ.ศ. 2415 ได้บวชเป็นสามเณรศึกษาเล่าเรียนภาษาบาลีกับเจ้าอาวาสที่วัดอมรินทรารามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย จังหวัดพระนคร แล้วจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดแห่งนี้ มีสมณศักดิ์เป็น พระใบฎีกา (เลื่อง) ในคราวนั้นจึงได้เข้าแปลพระปริยัติธรรมที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระราชวังบวรสถานมงคล จนกระทั้งสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยคเมื่อปีมะเมีย พ.ศ. 2425[6]: 18 ต่อมาจึงสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค[7] เมื่อบวชได้ 6 พรรษา[5] จึงลาอุปสมบทแล้วเข้ารับราชการ
ด้านราชการ[แก้]
เมื่อ พ.ศ. 2434 เริ่มรับราชการเป็นเสมียนฝึกหัดที่กรมลูกขุนศาลฎีกา ต่อมาได้เลื่อนขึ้นเป็นเสมียนกระทรวงยุติธรรมเมื่อ พ.ศ.2435[5] ครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์อดีตพระใบฎีกา (เลื่อง) เป็น ขุนกิจวิจารณ (เลื่อง)[5]
เมื่อ พ.ศ. 2440 ได้เป็นเสมียนรัฐมนตรี ต่อมาพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงมีดำริให้จัดตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้น ขุนกิจวิจารณ (เลื่อง) ได้เข้าเรียนวิชากฏหมายโดยมีกรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ทรงเป็นผู้สอนวิชากฏหมายอยู่ในขณะนั้น ครั้นมีการสอบไล่ปรากฏว่าขุนกิจวิจารณ (เลื่อง) สอบไล่วิชากฏหมายได้ในการสอบไล่ครั้งที่สอง นับว่ามีน้อยคนนักที่สอบไล่ผ่านได้
เมื่อ พ.ศ. 2440 มีการจัดตั้งมณฑลเทศาภิบาลมีกองข้าหลวงพิเศษขึ้น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ โปรดให้ขุนกิจวิจารณ (เลื่อง) เป็นผู้พิพากษาศาลเมืองลพบุรี[1]: 7 ตั้งแต่ พ.ศ. 2441 ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น ขุนชำนาญนิติศาสตร์ (เลื่อง) ตำแหน่งผู้พิพากษารองที่ศาลเมืองหล่มสัก มณฑลเพชรบูรณ์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2442 เป็นต้นไป และปีเดียวกันนี้ได้รับพระราชทานยศและเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น หลวงอำนวยเนติพจน์ (เลื่อง) ปรากฏในบัญชี ตำแหน่งข้าราชการ กระทรวงยุติธรรม ปี ร.ศ. 125[8]: 932 [5]
เมื่อ พ.ศ. 2445 ได้เลื่อนขึ้นเป็นผู้พิพากษาและย้ายราชการเป็นเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดไชยา เมืองไชยา มณฑลชุมพร (ปัจจุบันคือ จ.สุราษฎร์ธานี)[1]: 7 [5]
เมื่อ พ.ศ. 2449 หลวงอำนวยเนติพจน์ (เลื่อง) และได้ย้ายราชการไปที่ศาลมณฑลพิษณุโลก[1]: 7 (ปัจจุบันคือศาลจังหวัดพิษณุโลก) จนกระทั่ง พ.ศ. 2454 ได้รับพระราชทานยศข้าราชการฝ่ายพลเรือนเป็น อำมาตย์ตรี หลวงอำนวยเนติพจน์ (เลื่อง)[1]: 7 เมื่อ พ.ศ. 2455[5]
เมื่อ พ.ศ. 2455 หลวงอำนวยเนติพจน์ (เลื่อง) ย้ายไปเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดระนอง ครั้นรับราชการเป็นผู้พิพากษาได้ 10 ปีเศษ จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็น ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลมลฑลนครสวรรค์ และต่อมาย้ายไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่ พ.ศ. 2455 เป็นต้นไป[9] (ปัจจุบันคือศาลจังหวัดธัญบุรี สำนักงานศาลยุติธรรมภาค 1) มีบรรดาศักดิ์สุดท้ายเป็น พระอำนวยเนติพจน์ (เลื่อง)[6]: 18 รับราชการจนกระทั่งอายุ 62 ปี[5][1]: 7 จึงกราบถวายบังคมลาออกจากราชการรับพระราชทานเบี้ยบำนาญเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2460[10] และถึงแก่อนิจกรรมเมื่อเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2471 ด้วยโรคฝีในลำไส้หรือโรคชรา[5] สิริอายุรวมได้ 73 ปี[11][1]: 7
ด้านการสนับสนุนการศึกษา[แก้]
เมื่อ พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิรูปการศึกษาตามนโยบายการจัดการศึกษาของชาติ พระอำนวยเนติพจน์ (เลื่อง) มีบทบาทในการสนับสนุนการจัดตั้งโรงเรียนสอนหนังสือตามหัวเมืองต่างๆ เช่น การสมทบทุนทรัพย์เพื่อตั้งโรงเรียนสอนหนังสือ วัดฤทธิ์ศิริราษฎร์เจริญธรรม (วัดบ้านสวน)[12]: 1, 352 จ.สุโขทัย เป็นต้น
ยศและบรรดาศักดิ์[แก้]
- พระใบฎีกา (เลื่อง) วัดอมรินทรารามวรวิหาร (พ.ศ.2419 – พ.ศ. 2433)[5]
- ขุนกิจวิจารณ (เลื่อง)
- ขุนชำนาญนิติศาสตร์ (เลื่อง)
- อำมาตย์ตรี หลวงอำนวยเนติพจน์ (เลื่อง)[14]: 926
- อำมาตย์ตรี พระอำนวยเนติพจน์ (เลื่อง)[6]: 18 ศักดินา 3000[15]: 15
ตำแหน่งราชการ[แก้]
- พ.ศ. 2434 – 2435 เสมียนฝึกหัด กรมลูกขุนศาลฎีกา
- พ.ศ. 2435 – 2440 เสมียนกระทรวงยุติธรรม
- พ.ศ. 2440 – 2441 เสมียนรัฐมนตรี
- พ.ศ. 2441 – 2442 ผู้พิพากษารอง ศาลเมืองหล่มสัก
- พ.ศ. 2442 – 2445 ผู้พิพากษาศาลเมืองลพบุรี
- พ.ศ. 2445 – 2449 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดไชยา
- พ.ศ. 2449 – 2454 ผู้พิพากษาศาลมณฑลพิษณุโลก
- พ.ศ. 2454 – 2456 ผู้พิพากษาศาลเมืองระนอง
- พ.ศ. 2456 – 2456 ผู้พิพากษาศาลศาลมณฑลนครสวรรค์[16]
- พ.ศ. 2456 – 2460 ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดปทุมธานี (ปัจจุบันคือศาลจังหวัดธัญบุรี)[17]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
- พ.ศ. 2455 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.)
- พ.ศ. 2455 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.)[5]
- พ.ศ. 2454 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 5 เบญจมาภรณ์ช้างเผือก (บ.ช.)[1]: 7 [18]: 2, 438
- พ.ศ. 2443 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 5 เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.)[1]: 7
อ้างอิง[แก้]
เชิงอรรถ
- ↑ 1.00 1.01 1.02 1.03 1.04 1.05 1.06 1.07 1.08 1.09 ราชบัณฑิตยสภา. (2472). "ประวัติอำมาตย์ตรี หลวงอำนวยเนติพจน์ (เนื่อง โรจนกุล)," ใน ประชุมคำพากย์รามเกียรติ์ ภาค 4 ตอนหนุมานถวายแหวน. พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ อำมาตย์ตรี หลวงอำนวยเนติพจน์ (เนื่อง โรจนกุล) ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๔๗๒. พระนคร: โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร. 70 หน้า.
- ↑ ดํารงราชานุภาพ, สมเด็จฯ กรมพระยา. (2450). เปรียญรัชกาลที่ 5. พระนคร: ขวัญชัยสมัครราษฎร์. 77 หน้า. ISBN 974-419-128-7
- ↑ ศูนย์วิทยบริการศาลยุติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ห้องสมุดศาลยุติธรรม (เผยแพร่). "ทำเนียบข้าราชการตุลาการและจ่าศาล ศาลจังหวัดปทุมธานี ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๕๕ - ๒๕๒๐," นิทรรศการครบรอบ 100 ปี ศาลจังหวัดปทุมธานี (หลังเก่า) เก็บถาวร 2023-01-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
- ↑ กรมเสนาธิการทหารบก. (2450). สมุดคู่มือสำหรับช้าราชการ ประจำปี ร.ศ. 126. พระนคร: โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ. 357 หน้า.
- ↑ 5.00 5.01 5.02 5.03 5.04 5.05 5.06 5.07 5.08 5.09 5.10 5.11 ข่าวตาย. เก็บถาวร 2023-06-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. (๒๔๗๑, ๑๗ มีนาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ ๔๕. หน้า ๓,๘๗๓ – ๓,๘๗๔.
- ↑ 6.0 6.1 6.2 หอพระสมุดวชิรญาณ. (2463). เปรียญรัชกาลที่ ๕ รวบรวมพิมพ์เป็นภาคที่ ๑. พิมพ์แจกในงานศพพระธรรมทานาจารย์ (หรุ่น) ราชาคณะวัดสระเกษ เมื่อปีวอก พ.ศ. ๒๔๖๓. พระนคร: โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร.
- ↑ การประชุมราชบัณฑิต. พระนคร: โรงพิมพ์ศุภการจำรูญ, 2453. 51 หน้า.
- ↑ ตำแหน่งข้าราชการกระทรวงยุติธรรม ปี 125. ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 23. 2 ธันวาคม ร.ศ. 125 (พ.ศ. 2449).
- ↑ ทำเนียบข้าราชการตุลาการและจ่าศาล ศาลจังหวัดปทุมธานี ระหว่าง พ.ศ. 2454 - 2520.
- ↑ แจ้งความกระทรวงยุติธรรม. (๒๔๖๐, ๔ พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ ๓๔. หน้า. ๒,๑๙๗.
- ↑ ห้องสมุดวชิรญาณ. ประชุมคำพากย์รามเกียรติ์ ภาค 4 ตอนหนุมานถวายแหวน พิมพ์ครั้งแรกในงานพระราชทานเพลิงศพ อำมาตย์ตรี หลวงอำนวย เนติพจน์ (เนื่อง โรจนกุล) เมื่อปีมะเส็ง พุทธศักราช 2472.
- ↑ แพนกศึกษามณฆล. ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 24. 15 มีนาคม ร.ศ. 126 (พ.ศ. 2450).
- ↑ ประกาศศาลเมืองประทุมธานีในคดีที่ 131, 2458. หนังสือพิมพ์กรุงเทพเดลิเมล์ ปีที่ 7 ฉบับที่ 1,861 วันพุธที่ 19 เมษายน พระพุทธศักราช 2459.
- ↑ ประกาศพระราชทานยศแก่ข้าราชการกระทรวงยุติธรรม. ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 28. 13 สิงหาคม ร.ศ. 130 (พ.ศ. 2454).
- ↑ ปรีดานฤเบศร์ (ฟัก พันธุ์ฟัก), มหาเสวกตรี พระยา. (2461). วิธีพิจารณาความอาญา. พระนคร: [ม.ป.ท]. 175 หน้า.
- ↑ แจ้งความกระทรวงยุติธรรม เรื่อง ตั้งแลผลัดเปลี่ยนผู้พิพากษา. (๒๔๕๕, ๒๓ มีนาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ ๒๙. หน้า. ๒,๘๓๙.
- ↑ แจ้งความกระทรวงยุติธรรม เรื่อง ตั้งแลย้ายตำแหน่งน่าที่ราชการ. (๒๔๕๖, ๑๔ กันยายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ ๓๐. หน้า. ๑,๒๕๗.
- ↑ พระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ วันที่ ๓๐ ธันวาคม รัตนโกสินทรศก ๑๓๑ เก็บถาวร 2020-03-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 29 หน้า 2,438. 22 มกราคม ร.ศ. 131 (พ.ศ. 2455).
บรรณาณุกรม
- นิทรรศการครบรอบ 100 ปี ศาลจังหวัดปทุมธานี (หลังเก่า).
- ประกาศศาลเมืองประทุมธานี ในคดีที่ 131, 2458. กรุงเทพเดลิเมล์ ปีที่ 7 ฉบับที่ 1861. วัน พุธ ที่ 19 เมษายน พระพุทธศักราช 2459.
- กฤตภาส โรจนกุล. โรจนกุล ชีวประวัติและเชื้อสายสัมพันธ์. กรุงเทพฯ : [ม.ป.ท.], 2554.