พระยาชัยสุนทร (เจียม)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระยาชัยสุนทร
(เจียม)
เจ้าเมืองกาฬสินธุ์
ดำรงตำแหน่ง
พ.ศ. 2369 – พ.ศ. 2381
ก่อนหน้าพระยาชัยสุนทร(หมาแพง)
ถัดไปพระยาชัยสุนทร(หล้า)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดไม่ทราบปีเกิด
เมืองกาฬสินธุ์
เสียชีวิตพ.ศ. 2381
เมืองกาฬสินธุ์
ศาสนาศาสนาพุทธ

พระยาชัยสุนทร (เจียม) หรืออีกนามเรียกว่า “ท้าวเจียมหรือเยี่ยม” เป็นเจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 3 (พ.ศ. 2369–2381)[1] เป็นต้นเชื้อสายตระกูลเช่น วงศ์กาฬสินธุ์ ศรีกาฬสินธุ์ พลเยี่ยม ทองเยี่ยม เป็นต้นซึ่งผู้ใช้นามสกุลส่วนใหญ่ตั้งรกรากและอาศัยอยู่ในจังหวัดสกลนครกาฬสินธุ์และร้อยเอ็ดในปัจจุบัน[ต้องการอ้างอิง]

ชาติกำเนิด[แก้]

เกิดเมื่อราวปี พ.ศ.ใดไม่ปรากฏ บิดาคือพระธานี(หมาป้อง)อุปฮาดเมืองสกลนคร ส่วนมารดาไม่ปรากฏนาม ซึ่งเป็นบุตรของพระยาไชยสุนทร(เจ้าโสมพะมิตร) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 1 ส่วนมารดาไม่ปรากฏนาม มีพี่น้องร่วมสายโลหิต เป็นชายได้แก่ ท้าวเจียม ท้าวลาว ท้าวละ ท้าวหล้า ส่วนบุตรหญิงไม่ปรากฏนาม

การรับราชการ[แก้]

•เมื่อเติบโตขึ้นได้เข้ารับราชการในกรมการเมืองกาฬสินธุ์และได้รับการแต่งตั้งเป็นท้าววรบุตรที่ราชบุตรเมืองกาฬสินธุ์ ในปีพ.ศ. 2366 ในสมัยพระยาไชยสุนทร (หมาแพง) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลําดับที่ 2 ได้รับโปรดเกล้าฯพระราชทานเครื่องยศแก่กรมการเมืองประกอบบรรดาศักดิ์ดังนี้ ราชบุตร “เสื้ออัตลัตดอกถี่ตัวหนึ่ง ผ้าโพกขลิบผืนหนึ่ง ผ้าดําปักทองผืนหนึ่ง แพรขาวผืนหนึ่ง ผ้าปูมผืนหนึ่ง” ครั้นต่อมาเจ้าพระยาบดินทรเดชาเมื่อครั้งยังเป็นที่พระยาสุภาวดีได้มีใบบอกกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ท้าววรบุตร(เจียม) บ้านขามเปค้ย หลานพระยาไชยสุนทร(หมาแพง) ซึ่งมีความชอบในราชการสงคราม 2 ครั้ง คือ ครั้งตัดไม้ปากแพรกครั้งหนึ่งและครั้งที่สองเสบียงเมื่อตีหัวเมืองเวียงจันทน์ในราชการสงคราม ขึ้นเป็นท่ีพระยาไชยสุนทร เจ้รเมืองกาฬสินธุ์ ให้ท้าวหล้าเป็นที่อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์และให้ท้าวลาวเป็นที่ราชวงศ์เมืองกาฬสินธุ์และท้าวด่างเป็นที่ราชบุตรเมืองกาฬสินธุ์ เมื่อปี พ.ศ. 2371

•โปรดเกล้าฯพระราชทานเครื่องยศแก่กรมการเมืองประกอบบรรดาศักดิ์ดังนี้

เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ “พานเงินเครื่องในถมสำรับหนึ่ง คนโทเงินถมยาดำหนึ่ง ลูกประคำทองหนึ่ง กระบี่บั้งเงินหนึ่ง สัปทนปัศตูหนึ่ง เสื้อเข้มขาบริ้วดีตัวหนึ่ง แพรทับทิมติดขลิบผืนหนึ่ง ชวานปักทองผืนหนึ่ง แพรขาวผืนหนึ่ง ผ้าปูมผืนหนึ่ง” - พร้อมตราประทับประจำตำแหน่งเจ้าเมืองกาฬสินธุ์คือ “เทวดานั่งแท่นถือพระขรรค์และดอกบัว”

อุปฮาด “ถาดหมากเงินคนโทเงินสำรับหนึ่ง สัปทนแพรคันหนึ่ง เสื้อเข้มขาบริ้วดีตัวหนึ่ง ผ้าโพกขลิบผืนหนึ่ง ผ้าดำปักทองผืนหนึ่ง แพรขาวผืนหนึ่ง ผ้าปูมผืนหนึ่ง”

ราชวงศ์ “ถาดหมากเงินคนโทเงินสำรับหนึ่ง สัปทนแพรคันหนึ่ง เสื้อเข้มขาบลายก้านแย่งตัวหนึ่ง ผ้าโพกขลิบผืนหนึ่ง ผ้าดำปักทองผืนหนึ่ง แพรขาวผืนหนึ่ง ผ้าปูมผืนหนึ่ง”

ราชบุตร “เสื้ออัตลัตดอกถี่ตัวหนึ่ง ผ้าโพกขลิบผืนหนึ่ง ผ้าดำปักทองผืนหนึ่ง แพรขาวผืนหนึ่ง ผ้าปูมผืนหนึ่ง”

เหตุการณ์สำคัญ[แก้]

•ปี พ.ศ. 2370 ตรงกับปีกุนนพศก จุลศักราช ๑๑๘๙ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ โปรดให้กองทัพหลวงขึ้นมาปราบปามเมืองเวียงจันทน์ พระยาสุภาวดีแมรทัพได้ตรวจราชการทัพเมืองสกลนคร เจ้าเมืองกรมการเมืองไม่ได้เตรียมกําลังทหารลูกกระสุนดินดํา เสบียงอาหาร ไว้ตามคําสั่งแม่ทัพ แมรทัพเห็นว่าเจ้าเมืองสกลนครกระทําการขัดขืนอํานาจอาญาศึก จึงเอาตัวพระธานีเจ้าเมืองสกลนครไปประหารชีวิตที่หนองทรายขาว ส่วนอุปฮาดหมาป้องไดีถึงแกรกรรมไปก่อนหน้านั้นแล้ว กรมการเมืองกาฬสินธุ์บางส่วนหลบหนีคือ ท้าววรบุตรเจียมหลบหนีไปยังบ้านขามเปี้ย(บริเวณตำบลบ้านแวง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด)และท้าวหล้าได้หลบหนีไปยังบ้านผ้าขาวพันนาเมืองเก่าเขตเมืองสกลนคร พอทัพพระยาสุภาวดีเคลื่อนผ่านเมืองสกลนครท้าวรบุตรเจียมและท้าวหล้าได้นําไพร่พลและพี่น้องเข้าหาทัพพระยาสุภาวดีเพื่อช่วยในราชการสงครามและได้เข้าฟ้องโทษราชวงศ์(หมาฟอง) ว่าด้วยเดิมเป็นใจเข้าด้วยกับเจ้าอนุวงศ์ เมื่อพิจารณาได้ความจริงแล้ว แม่ทัพปรึกษาจะเอาตัวราชวงศ์(หมาฟอง) ขอทําราชการแก้ตัวจึงงดโทษไว้ แล้วบังคับให้กวาดคุมครอบครัวตัวฉกรรณ์ที่อพยพหนีจากเมืองกาฬสินธุ์ไปอยู่ที่เมืองสกลนครนั้นจํานวน 2,500 คน ลงไปอยู่ที่ด่านหนุมานภายหลังยกขึ้นเป็นเมืองกบินทร์บุรีเป็นอันมาก ยังคงเหลืออยู่ให้รักษาพระธาตุเชิงชุม แต่พวกเพี้ยศรีครชุม บ้านหนองเหียน บ้านจารเพ็ญ บ้านอ้อมแก้ว บ้านนาเวง บ้านพาน บ้านนาดี บ้านวังยัง บ้านผ้าขาว บีานพันนา เท่านั้น เมืองสกลนครจึงเป็นเมืองร้าง ไม่มีเจ้าเมืองปกครองประกอบกับเมืองกาฬสินธุ์เป็นเมืองร้างด้วยเช่นกัน

•ปี พ.ศ. 2371 เจ้าพระยาบดินทรเดชาเมื่อครั้งยังเป็นที่พระยาสุภาวดีได้มีใบบอกกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯแต่งตั้งท้าววรบุตร(เจียม)บ้านขามเปี้ยย หลานพระยาไชยสุนทร(หมาแพง) ซึ่งมีความชอบในราชการสงคราม 2 ครั้ง คือ ครั้งตัดไม้ปากแพรกครั้งหนึ่งและครั้งที่สองเสบียงเมื่อตีหัวเมืองเวียงจันทน์ในราชการสงคราม ขึ้นเป็นที่พระยาไชยสุนทร เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ให้ท้าวหล้าาเป็นที่อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์และให้ท้าวลาวเป็นที่ราชวงศ์เมืองกาฬสินธุ์และท้าวด่างเป็นที่ราชบุตรเมืองกาฬสินธุและให้ครอบครัวไพร่พลเมืองกาฬสินธุ์ที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์กลับมาอาศัยที่แขวงเมืองกาฬสินธุ์ตามเดิม

•ปี พ.ศ. 2372 แม่ทัพจึงมีใบบอกท้องตราราชสีห์โปรดเกล้าให้พระยาไชยสุนทร(เจียม) แต่งราชวงศ์ราชบุตร กรมการเมืองกาฬสินธุ์เป็นนายกองคุมท้าวเพีย ไพร่ฉกรรจ์ 606 คน และบุตรภรรยาเมืองกาฬสินธุ์ไปรักษาราชการเมืองสกลนคร เมื่อแต่งท้าวเพียผู้อยู่รักษาเมืองสกลนครแล้ว จึงมีใบบอกขอตั้ง ท้าวอินทิสารบุตรอุปฮาดเมืองจันคนเก่าเป็นที่ราชวงศ์เมืองกาฬสินธุ์ ท้าวพิมพ์บุตรจารย์เปียเป็นที่ราชบุตรเมืองกาฬสินธุ์และได้ฟื้นฟูเมืองกาฬสินธุ์หลังสงครามรวมทั้งบูรณะวัดวาอารามในเขตเมืองกาฬสินธุ์ให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองดังเดิม

ถึงแก่กรรม[แก้]

•พระยาไชยสุนทร(เจียม) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 3 ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา รับราชการเป็นเจ้าเมืองสนองพระเดชพระคุณ 10 ปี ที่โฮงเจ้าเมือง ในเมืองกาฬสินธุ์ เมื่อปี พ.ศ. 2381 สืบมาภายหลังลูกหลานเรียกขานทานว่า “อัญญาหลวงองค์ใหญ่” สิ้นประวัติพระยาไชยสุนทร (เจียม) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 3 เพียงเท่านี้

ทายาท[แก้]

พระยาไชยสุนทร(เจียม) สมรสกับอัญญานางทองคำและมีบุตร 8 คน ได้แก่

1) นางพัน สมรสกับใครสืบไม่ได้และมีบุตรกี่คนไม่ปรากฏ

2) พระยาไชยสุนทร(ทอง) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 5 สมรสกับ อัญญานางคำ มีบุตร 3 คน ได้แก่ 1)ท้าวขี่ 2)ท้าวเหม็น 3)ท้าวหนู เป็นต้น

3) พระอินทิสาร(ด่าง)ราชบุตรเมืองกาฬสินธุ์และสกลนคร สมรสกับนางขาว มีบุตร 4 คน ได้แก่ 1)นางอ่อน 2)นางน้อย 3)ท้าวเปีย 4)ท้าวอุปละ เป็นต้น

4) ท้าวสุริยะ สมรสกับใครสืบไม่ได้และมีบุตรกี่คนไม่ปรากฏ

5) ท้าวบุญมา สมรสกับใครสืบไม่ได้และมีบุตรกี่คนไม่ปรากฏ

6) นางดา สมรสกับใครสืบไม่ได้และมีบุตรกี่คนไม่ปรากฏ

7) นางหลอด สมรสกับ ท้าวสุวรรณสาร(โสน้อย)กำนันตำบลบ้านแวง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด มีบุตร 1 คน ได้แก่ 1)ท้าวมหาโคตรแก้ว ​​​​เป็นต้น

*ท้าวสุวรรณสาร(โสน้อย)มีบิดาชื่อท้าวโสใหญ่กับพี่ชายคือท้าวพรหมาใหญ่ เป็นชาวบ้านท้องถิ่นดั่งเดิมของตำบลบ้านแวง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ในปัจจุบันและมีทายาทบางส่วนของพระยาไชยสุนทร(เจียม) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 4 ได้สมรสและมีทายาทตั้งรกรากในพื้นและอาศัยอยู่ที่ตำบลบ้านแวง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด จนถึงปัจจุบัน

สายสกุลทายาทและเครือญาติ[แก้]

  • วงศ์กาฬสินธุ์ ต้นสกุลคือพระอินทิสาร(ด่าง)ราชบุตรเมืองกาฬสินธุ์และสกลนครและสมรสกับนางขาว บุตรีคนที่ 1 ของพระยาไชยสุนทร(หล้า) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 4 มีบุตรด้วยกัน 4 คน ได้แก่

1)นางงอ่อน สมรสกับพระราษฎรบิหาร(ทอง) เจ้าเมืองกมลาไสย ลำดับที่ 2 มีบุตร 5 ได้แก่ 1)นางเหลี่ยม 2)หลวงชาญวิชัยยุทธ(เหม็น) 3)นางเพชร 4)หลวงกมลาพิพัฒน์(เทศ) 5)นางทองคำ(เกิดกับนางทรัพย์) เป็นต้น

2)นางน้อย สมรสกับท้าวสีหาราช มีบุตร 3 คน ได้แก่ 1)นางเพ็ง 2)พระครูกาฬสินธุ์ทิวาจารย์สังฆปาโมกข์(อ้ม) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ 3)ท้าวคำชมพู เป็นต้น

3)ท้าวเปีย (เฒ่ากวนบ้านธาตุเชิงชุม/ผู้ใหญ่บ้าน) สมรสกับใครสืบไม่ได้ มีบุตร 6 คน ได้แก่ 1)ท้าวพิมพ์จักร 2)ท้าวท้าวพิมพ์มะสอน 3)ท้าวพิมพ์สาร 4)นางทอง 5)นางตุ๊ด 6)ท้าวจารย์พิมพ์ เป็นต้น

4)ท้าวอุปละ(นายกองเมืองกาฬสินธุ์) สมรสกับใครสืบไม่ได้ มีบุตร 6 คน ได้แก่ 1)ท้าวป้อง 2)นางบด 3)นางไพ 4)นางพู 5)ท้าวฝ้าย 6)ท้าวไชยสิน เป็นต้น

ตัวอย่างทายาทที่ใช้นามสกุลในปัจจุบันเช่น ท้าวจารย์พิมพ์ สมรสกับนางกัณหา มีบุตร 5 คน 1)นางไต 2)ขุนไกยะ(คำ) 3)นางเหลี่ยม 4)หลวงไชยจักร(จารย์โหล) 5)ท้าวโง่น เป็นต้น

ท่านเหล่านี้คือผู้ใช้นามสกุล”วงศ์กาฬสินธุ์”รุ่นแรกโดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในตัวอำเภอเมืองของจังหวัดสกลนคร

  • ศรีกาฬสินธุ์และ พลเยี่ยม(เดิมเขียนว่า”พรมเยี่ยมกับพรหมเยี่ยม) ต้นสกุลคือท้าวสุวรรณสาร(โสน้อย) กำนันคนแรกตำบลบ้านแวง สมรสกับนางหลอด มีบุตร 1 คนคือ ท้าวมหาโคตรแก้ว สมรสกับใครสืบไม่ได้ มีบุตร 9 คนคือ

1)นางพัน

2)ท้าวจันฑกุมาร

3)ท้าวสุริยะวงศา(ฝ่าย) อดีตกำนันตำบ้านแวง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ดและเป็นผู้ตั้งนามสกุลพลเยี่ยม

4)นางทองศรี

5)นางสีดา

6)ท้าวบุญมา

7)หลวงสุนทรวุฒิรักษ์(มี) อดีตข้าราชการกระทรวงคมนาคม แขวงเมืองกาฬสินธุ์

8)นางหลอด

9)ท้าวคำตา

ยกเว้นหลวงสุนทรวุฒิรักษ์(มี)ได้ใช้นามสกุลศรีกาฬสินธุ์และสมรสกับนางเบ้า มีบุตร 10 คนได้แก่ 1)ท้าวหวาด 2)นางอ่อง 3)นางทอง 4)รองอำมาตย์ตรีผลสมัย 5)ท้าวอัมพร 6)ขุนสรรบรรพกิจ(สายทอง) 7)นางดำ 8)นางใบ 9)นางมะละ 10)นางมาลัย เป็นต้น

ท่านเหล่านี้คือผู้ใช้นามสกุล”ศรีกาฬสินธุ์และพลเยี่ยม”รุ่นแรกโดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในตัวอำเภอโพนทองของจังหวัดร้อยเอ็ดและบางส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์

  • ทองเยี่ยม ต้นสกุลคือพระไชยสุนทร(หนู) อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์ เมื่อปี พ.ศ.2426-2433 บุตรคนที่ 3 ของพระยาไชยสุนทร(ทอง) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 5 สมรสมกับนางขำ บุตรีคนที่ 4 ของพระยาไชยสุนทร(กิ่ง) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 4 มีบุตร 6 คน ได้แก่

1)นางเสริม

2)นางบู่ทอง

3)ท้าวทับ ผู้ตั้งนามสกุลทองเยี่ยม

4)ท้าวตัน

5)นางเสริม

6)นางทิพย์คลี่(ประคีย์)

ท่านเหล่านี้คือผู้ใช้นามสกุล”ทองเยี่ยม”รุ่นแรกโดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในตัวอำเภอเมืองของจังหวัดกาฬสินธุ์

สายตระกูล[แก้]

ก่อนหน้า พระยาชัยสุนทร (เจียม) ถัดไป
พระยาชัยสุนทร (หมาแพง)
เจ้าเมืองกาฬสินธุ์,
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์

(พ.ศ. 2381 - 2490)
พระยาชัยสุนทร (หล้า)
  1. http://www.kalasinpit.ac.th/elearning/kroosert/data/kalasin.htm[ลิงก์เสีย]