วินัย ละอองสุวรรณ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก พระยันตระ)
วินัย ละอองสุวรรณ
ไฟล์:ยันตระ 2009.jpg
วินัย ละอองสุวรรณ เมื่อปี พ.ศ. 2552
เกิดวินัย ละอองสุวรรณ
14 ตุลาคม พ.ศ. 2494 (72 ปี)
ประเทศไทย ไทย
สัญชาติไทย ไทย
อาชีพนักปฎิบัติธรรม
มีชื่อเสียงจากพระยันตระ อมโรภิกขุ

วินัย ละอองสุวรรณ หรือที่รู้จักดีในชื่อ พระยันตระ อมโรภิกขุ (พระวินัย อมโร) อดีตภิกษุชื่อดังที่มีผู้เคารพศรัทธามากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในช่วงหนึ่ง ก่อนจะถูกฟ้องคดีกล่าวหาว่าต้องปาราชิกาธิกรณ์และถูกมติมหาเถรสมาคมลงให้พ้นจากภาวะพระภิกษุ และหลบหนีออกนอกประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2537 ไปอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาในสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองจนถึงปัจจุบัน

ประวัติ[แก้]

นายวินัย ละอองสุวรรณ เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เขาได้ปฏิบัติตนเป็นนักพรตฤๅษีอยู่หลายปีจนเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ต่อมาได้อุปสมบทเป็นภิกษุในธรรมยุติกนิกายเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 ณ พัทธสีมาวัดรัตนาราม อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

พระวินัย เมื่ออุปสมบทมักใช้คำแทนตัวว่า พระยันตระ ซึ่งแปลว่าผู้ไกลจากกิเลส ที่เคยใช้มาตั้งแต่ยังเป็นฤๅษียันตระ เมื่อบวชแล้วเป็นที่รู้จักดีทำให้มีผู้ศรัทธาบวชเพื่อเข้าเป็นลูกศิษย์มากมาย ทำให้เขามักแวดล้อมไปด้วยพระสงฆ์คอยอุปัฏฐากอยู่เสมอ ๆ นอกจากนี้ยังมีผู้ศรัทธาสร้างสำนักวัดถวายเขาหลายแห่ง โดยทุกวัดที่สร้างในสำนักเขาจะใช้คำว่า "สุญญตาราม" ประกอบด้วยเสมอ สำนักที่เป็นที่รู้จักดีคือ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี และยังมีสำนักวัดป่าสุญญตารามของเขาในต่างประเทศอีกหลายแห่ง เช่นที่ วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น


ด้วยวัตรปฏิบัติรวมถึงคำสอนของเขา ทำให้พระวินัยถือเป็นพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในยุคนั้น มีการตีพิมพ์เผยแพร่คำสอนรวมถึงได้รับนิมนต์ไปเทศนายังที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ คำสอนของเขาเน้นแนวทางปฏิบัติกรรมฐานซึ่งได้รับการยอมรับจากนักวิชาการศาสนาว่าถูกต้องกับพระไตรปิฎก

อย่างไรก็ดี ในปี พ.ศ. 2537 เขาได้ถูกฟ้องร้องหลายข้อหาและถูกตั้งอธิกรณ์ว่าล่วงละเมิดเมถุนธรรมปาราชิกาบัติ อันเป็นหนึ่งในจตุตถปาราชิกาบัติที่ทำให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุตามพระวินัยบัญญัติ โดยมีการต่อสู้ด้วยพยานหลักฐานมากมายตามสื่อต่าง ๆ เป็นข่าวโด่งดังในสมัยนั้น

สีกากลุ่มหนึ่งยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อสมเด็จพระสังฆราชฯ และอธิบดีกรมการศาสนาว่า นายวินัย ละอองสุวรรณ เดินทางไปเทศนาที่ทวีปยุโรป ระหว่างลงเรือเดินสมุทรไม่สำรวมและมีความไม่เหมาะสมกับสมณเพศต่อสุภาพสตรี

มีเทปบันทึกการสนทนากับนางจันทิมา มายะรังษี หนึ่งในสีกาที่ร้องเรียนว่า นายวินัยล่อลวงเสพเมถุน, มีเอกสารของหม่อมดุษฎี บริพัตร อดีตโยมอุปัฏฐากคนสำคัญที่กล่าวถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมต่อความเป็นพระสงฆ์ ในขณะเดินทางไปต่างประเทศ และมีหลักฐานการลอกเลียนบทกวีของ ดร. ระวี ภาวิไล [1]

มีข้อกล่าวหาที่ได้รับการเผยแพร่ออกมาว่า มีเพศสัมพันธ์กับสตรีบนดาดฟ้าเรือเดินสมุทรระหว่างทางจากประเทศสวีเดนไปยังประเทศฟินแลนด์, จับต้องกายสตรีด้วยความกำหนัด ณ กุฏิริมน้ำ วัดป่าสุญญตาราม ประเทศออสเตรเลีย, เข้าไปหาสตรีในรถตู้ของเธอบนท้องถนนกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย, ร่วมหลับนอนกับสตรี และพร่ำพูดถึงความรักทางโทรศัพท์ (มีหลักฐานเป็นเทปบันทึกเสียง) [2]

นางจันทิมาพาเด็กหญิงซึ่งอ้างว่าเป็นบุตรสาวมาแสดงตัว พร้อมกับนำภาพถ่ายการใช้ชีวิตเยี่ยงสามีภรรยามาเปิดเผย มีการท้าให้ตรวจดีเอ็นเอ มีการเปิดเผยสลิปบัตรเครดิตที่มีโยมอุปัฏฐากบริจาคให้ ซึ่งถูกนำไปใช้ในสถานบริการทางเพศในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ รวมทั้งหลักฐานการเปิดโรงแรมและเช่ารถร่วมกับสตรีเพียงสองต่อสอง [3] [4]

จนในที่สุดเขาได้ถูกมติมหาเถรสมาคมพิจารณาอธิกรณ์ปรับให้เขาพ้นจากความเป็นพระภิกษุ เพราะพิจารณาได้ความว่าเขาต้องอาบัติหนักดังที่ถูกฟ้องร้อง แต่นายวินัยไม่ยอมรับมติสงฆ์ดังกล่าว ด้วยการปฏิญาณตนว่ายังเป็นพระภิกษุและเปลี่ยนสีจีวรเป็นสีเขียว ทำให้ถูกสื่อต่าง ๆ ขนานนามว่า จิ้งเขียว, สมียันดะ, ยันดะ เป็นต้น[5] ก่อนที่นายวินัยจะลักลอบทำหนังสือเดินทางปลอมเพื่อหลบหนีออกจากประเทศไทยไปอยู่ในสหรัฐอเมริกาและได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง ทำให้นายวินัยสามารถหลบหนีคดีความอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จนถึงปัจจุบัน [6]

กลับเมืองไทย[แก้]

อดีตพระยันตระเดินทางกลับเยี่ยมบ้านเกิดตัวเองหลังคดีหมดอายุความเข้ากราบอดีตพระอุปัชฌาย์ที่เคยเป็นผู้อุปสมบทให้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 โดย นายวินัย ละอองสุวรรณ หรืออดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ ที่ต้องอธิกรณ์และหลบไปอาศัยอยู่ในประเทศอเมริกาเมื่อ 20 ปีที่แล้วได้เดินทางกลับมายังภูมิลำเนาเดิมในบ้านบางบ่อ เขตเทศบาลเมืองปากพนัง ตำบลปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากที่คดีต่างๆโดยเฉพาะคดีที่ก้าวล่วงองค์สมเด็จพระสังฆราช ได้หมดอายุความลงนายวินัย ละอองสุวรรณ ได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยอีกครั้งแบบเงียบๆโดยได้มาอาศัยอยู่ในอำเภอปากพนัง และยังคงมีการแต่งกายด้วยผ้าคล้ายจีวรที่มีทั้งสีกลักและสีเขียว ทับเสื้อแขนยาว ผมยาวสีขาวผูกรวบไว้ หนวดเคราขาวยาวเฟิ้ม รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์

ผู้ใกล้ชิดของนายวินัย ละอองสุวรรณ ระบุว่า นายวินัยได้เดินทางมายังนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์เพื่อมากราบพระครูสุธรรมาจารย์ หรือพ่อท่านเชื่อง เจ้าอาวาสวัดรัตนาราม หรือวัดบางบ่อ ที่บ้านบางบ่อ ตำบลปากพนัง อำเภอปากพนัง ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาจารย์ ของนายวินัยเมื่อครั้งอุปสมบท และได้มาพักอยู่ที่อาศรมที่ปลูกสร้างขึ้นหลังบ้านเดิมของนายวินัย โดยมีผู้ที่ยังเคารพนับถือเดินทางมาเยี่ยมเยียนและเชิญไปยังสถานที่ต่างๆหลายจังหวัดในภาคใต้ โดยจะเดินทางกลับอเมริกาในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ซึ่งทราบว่าจะปักหลักอาศัยอยู่ที่อเมริกาตลอด[7]

กลับไทยฉลองวันเกิดปี2564[8][แก้]

อดีต "พระยันตระ" ซึ่งปกติได้หนีไปใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกา และเดินทางเข้ามายังประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา โดยกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี จนถึงวันที่ 8 ตุลาคม และจากนั้นวันที่ 9-14 ตุลาคม ได้เดินทางไปอาศัยที่ สำนักป่าสุญญตารามเกริงกระเวีย วันที่ 15-18 ตุลาคม ไปอยู่ที่บ้านเกิด อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

จากนั้นวันที่ 19-22 ตุลาคม เจ้าตัวได้มาอยู่ที่เกพลิตาโพธิวิหาร จังหวัดสระแก้ว ซึ่งในวันที่ 23 ตุลาคม จะกลับมาพักที่บ้านคุณหญิงสิริกร จังหวัดปทุมธานี ก่อนที่ในวันที่ 27 ตุลาคม เจ้าตัวจะเดินทางกลับสหรัฐอเมริกา

อ้างอิง[แก้]

  1. กุลธิดา สามะพุทธิ และวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์. (2542, มีนาคม). "ย้อนรอย 15 ปี นักเดินทางอิสระ เขายันตระ อมโรภิกขุ," สารคดี. 15(181) : [1].
  2. กุลธิดา สามะพุทธิ และวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์. (2542, มีนาคม). "ย้อนรอย 15 ปี นักเดินทางอิสระ เขายันตระ อมโรภิกขุ," สารคดี. 15(181) : [2].
  3. กุลธิดา สามะพุทธิ และวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์. (2542, มีนาคม). "ย้อนรอย 15 ปี นักเดินทางอิสระ เขายันตระ อมโรภิกขุ," สารคดี. 15(181) : [3].
  4. "ย้อนอดีตคดี “ยันตระ” หนีอาญาไม่พ้น..ทั้งภพนี้และภพหน้า!"[4] เก็บถาวร 2013-07-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
  5. กุลธิดา สามะพุทธิ และวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์. (2542, มีนาคม). "ย้อนรอย 15 ปี นักเดินทางอิสระ เขายันตระ อมโรภิกขุ," สารคดี. 15(181) : [5].
  6. ความคืบหน้ากรณีนายวินัย ละอองสุวรรณ ขับรถยนต์ชนคนอเมริกันเสียชีวิต. (2543). กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ. [ออน-ไลน์]. แหล่งข้อมูล : http://www.ryt9.com/s/ryt9m/267234/
  7. อดีตพระยันตระเดินทางกลับเยี่ยมบ้านหลังคดีหมดอายุความ [6] เก็บถาวร 2014-04-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  8. ""พระยันตระ" กลับไทย ภาพแชร์ว่อนพระสงฆ์แห่กราบไหว้ ชาวเน็ตถามเหมาะสมหรือ". คมชัดลึกออนไลน์. 2021-10-21.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]