ผู้ใช้:Phet9999/ทดลองเขียน
หลวงพ่อหวล หรือ พระครูนวการโกศล อดีตเจ้าอาวาสวัดพิกุล ผู้สืบทอดวิชายันต์เกราะเพชร จาก หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
ประวัติ
[แก้]พระครูนวการโกศล (หลวงพ่อหวล หาริโต) นามเดิมชื่อ นายหวล เป็นบุตรของ นายโบ้ และ นางเจิม บัวเล็ก เกิดเมื่อวันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2451 เดือน 5 ปีวอก ที่ตำบลหลักสอง อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี (ที่อยู่ในสมัยนั้น) ท่านมีพี่น้องเกิดร่วมท้องเดียวกันทั้งหมด 6 คน คือ
1. นายผ่อง ทรัพย์สำรวย
2. นายทรัพย์ บัวเล็ก
3. พระครูนวการโกศล (นายหวล บัวเล็ก)
4. นายช้อย บัวเล็ก
5. นางจวน เขม้นงาน
6. นางสำเภา บัวแดง
เมื่อเยาว์วัยไม่เคยศึกษาจากโรงเรียนใดเลย แต่มีความสามารถมานะพยายามศึกษาเล่าเรียนเองอยู่กับบ้าน จนสามารถอ่านหนังสือออกเขียนหนังสือได้ เมื่อเติบใหญ่ได้ช่วยบิดามารดาทำสวนมาโดยตลอด จนกระทั่งอายุได้ 25 ปี ได้ขออุปสมบท ณ วัดรางบัว อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี มีพระพุทธพยากรณ์ เป็นอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพึ่ง วัดรางบัว เป็นกรรมวาจาจารย์ พระอธิการหนู วัดนิมมานรดี เป็นอนุสาวนาจารย์ อยู่ศึกษาวิชาอาคมกับหลวงพ่อพึ่ง นั้น 3 พรรษา เพื่อแทนคุณของบุพพการรี และด้วยศรัทธาอันแน่วแน่ของท่านเพื่อเรียนวิชาแพทย์โบราณมารักษามารดาที่ป่วยอยู่
ด้วยแรงกตัญญูกตเวที ที่มีต่อมารดาท่านจึงได้เดินทางมาเรียนวิชาแพทย์แผนโบราณที่ วัดโพธิ์ล้ม (วัดโพธิ์บางระมาด) ตำบลบ้านไทร (บางระมาด) อำเภอตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรี ทั้งที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดรางบัว ด้วยความวิริยะอุตสาหะท่านก็ประสบความสำเร็จในการศึกษาและได้กลับมารักษาโรคของมารดาจนทุเลาจากอาการป่วย และมีชีวิตต่อมาได้อีกหลายปี หลวงพ่อหวลท่านเป็นหนึ่งที่ทรงวิทยาคุณทางด้านแพทย์แผนโบราณ ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดรางบัว เป็นเวลา 3 พรรษา ต่อจากนั้นท่านได้ย้ายไปจำพรรษาที่ วัดโพธิ์ล้ม เป็นเวลา 9 พรรษา และในขณะที่ท่านอยู่ที่วัดโพธิ์ล้ม ท่านได้ช่วยเจ้าอาวาสหลวงพ่อนวล บูรณปฏิสังขรณ์
ต่อจากนั้นท่านได้กลับไปเรียนวิชากับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ผู้ทรงคุณวิทยาอันเลิศ และท่านก็กลับไปจำพรรษอยู่ที่วัดโพธิ์ล้ม จนอยู่ที่วัดได้ 9 พรรษา จนถึง พ.ศ. 2487 ด้วยความสามารถทางด้านการก่อสร้างและพัฒนา พระมหาโพธิวงศาจารย์ (หลวงพ่อสาลี) วัดอนงคาราม เจ้าคณะจังหวัดธนบุรี เกรงว่าวัดพิกุล จะเป็นวัดร้าง เพราะพระน้อยและเจ้าอาวาสได้ลาสิกขาไป พระมหาโพธิวงศาจารย์ และชาวบ้านร่วมกันขอให้หลวงพ่อหวลมาเป็นเจ้าอาวาสวัดพิกุล
ในที่สุดท่านก็ตอบตกลงตอนนั้นท่านอายุ ราว 40 เห็นจะได้ เป็นเจ้าอาวาสให้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2487 เป็นต้นมา ท่านได้พัฒนาวัดพิกุลให้เจริญเป็นอันมาก เช่น สร้างโรงเรียนประชาบาล (โรงเรียนวัดพิกุล) สร้างอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิ หอระฆัง ถนน สะพาน เมรุ ฯลฯ
วัตถุมงคล
[แก้]ปี 2494 - 2495
- พระหล่อประจำวันเกิด
ปี 2496
- พระสมเด็จ รุ่นเเรก
- นางพญา รุ่นเเรก
ปี 2500
- พระสมเด็จ รุ่น 2
- นางพญา รุ่น 2
- ผ้ายันต์ รุ่นเเรก
ปี 2502
- เหรียญ รุ่นเเรก
ปี 2505
- เหรียญ รุ่น 2
- พระบูชา หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
- ล็อกเก็ต รุ่นเเรก
ปี 2506
- พระสมเด็จ รุ่น 3
ปี 2508 - 2509
- นางพญา รุ่น 3
ปี 2513 - 2514
- พระสมเด็จ รุ่น 4
- พระนางพญา รุ่น 4
- พระขุนเเผน
ปี 2515
- รูปหล่อโบาราณ
ปี 2517
- พระบูชาหลวงพ่อหวล วัดพิกุล รุ่นเเรก
- เหรียญ รุ่น 3
- เเหวน
- รูปเลี่ยมกันน้ำ
- ตะกรุด
ปี 2518
- กริ่งนวการโกศล
- พระบูชาเชียงเเสน
- ล็อกเก็ต รุ่น 2
- ผ้ายันต์ รุ่น 2
- ปั้มหลวงพ่อโต
- เเหนบหลวงพ่อโต
มรณะภาพ
[แก้]จนกระทั้งถึงปี พ.ศ. 2518 ท่านก็เริ่มล้มป่วยลงด้วยโรคปอด และโรคแทรกอื่นๆ เนื่อกจากท่านได้ปฏิบัติพระกัมมัฏฐานและรักษาสีลาจารวัตรอย่างเคร่งครัด จึงไม่ใคร่ยินยอมที่จะไปรับการรักษายังโรงบาล แต่กลับพอใจที่จะรักษาตัวเองอยู่ที่วัด และมิเคยได้หยุดพักงานต่างๆ หากยังสามารถลุกเหินเดินได้ จึงเป็นเหตุให้โรคไม่หายขาด และทรุดลงเรื่อยๆจนในที่สุดเมื่อเวลา 08.05 น. วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2522 ท่านก็ได้มรณภาพลง โดยเสมือนทราบเวลาล่วงหน้า จึงได้กำหนดเวลาให้ลูกศิษย์ที่เฝ้ารักษาพยาบาลท่านให้ทราบล่วงหน้า และได้สั่งเสียการงานที่ยังไม่สำเร็จให้ช่วยดำเนินการก่อสร้างให้สำเร็จ ได้แก่ เมรุ และศาลาบำเพ็ญการกุศล รวมทั้งกิจการดูแลในวัดด้วยสติปชัญญะอันสมบูรณ์ พอถึงเวลาที่กำหนดคือ เวลาประมาณ 08.05 น. ท่านมรณภาพด้วยอาการสงบหลับไปไม่มีวันตื่น แต่วัตถุพยานและความเป็นเลิศในทางวิทยาคุณของท่านยังคงอยู่เป็นพยานให้สาธุชนและศิษยานุศิษย์ได้น้อมรำลึกเคารพสักการบูชาชั่วกาลนาน