ผู้ใช้:Nix Sunyata/โอล์มสตัดฟอลส์, โอไฮโอ
Olmsted Falls, Ohio | |
|---|---|
 Grand Pacific Hotel downtown | |
 Location in Cuyahoga County and the state of Ohio. | |
.svg) Location of Ohio in the United States | |
| พิกัด: 41°22′3″N 81°54′17″W / 41.36750°N 81.90472°W | |
| Country | United States |
| State | Ohio |
| County | Cuyahoga |
| การปกครอง | |
| • Mayor | James Patrick Graven |
| พื้นที่[1] | |
| • ทั้งหมด | 4.09 ตร.ไมล์ (10.59 ตร.กม.) |
| • พื้นดิน | 4.09 ตร.ไมล์ (10.59 ตร.กม.) |
| • พื้นน้ำ | 0.00 ตร.ไมล์ (0.00 ตร.กม.) |
| ความสูง[2] | 768 ฟุต (234 เมตร) |
| ประชากร | |
| • ทั้งหมด | 9,024 คน |
| • ประมาณ (2019)[4] | 8,828 คน |
| • ความหนาแน่น | 2,159.49 คน/ตร.ไมล์ (833.75 คน/ตร.กม.) |
| เขตเวลา | UTC-5 (Eastern (EST)) |
| • ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC-4 (EDT) |
| ZIP codes | 44138 |
| รหัสพื้นที่ | 440 |
| FIPS code | 39-58422[5] |
| GNIS feature ID | 1072238[6] |
| เว็บไซต์ | เว็บไซต์ทางการ |
โอล์มสเต็ดฟอลส์ (Olmsted Falls) เป็นเมืองใน Cuyahoga County รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา และตี้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของชานเมือง คลีฟแลนด์ มีประชากร 9,024 คนในการ สำรวจสำมะโนประชากรปี 2010 ย่านธุรกิจหลักของเมืองตั้งอยู่ที่หัวมุมถนน Bagley และ ถนน Columbia และมี Grand Pacific Junction ซึ่งเป็นย่านประวัติศาสตร์
ภูมิศาสตร์[แก้]
เมืองโอล์มสเต็ดฟอลส์ตั้งอยู่ที่ 41°22′3″N 81°54′17″W / 41.36750°N 81.90472°W (41.367626, -81.904818) จากข้อมูลของ สำนักสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกา เมืองนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 4.12 ตารางไมล์ (10.67 ตารางกิโลเมตร) เป็นผืนดินทั้งหมด
ประวัติ[แก้]
หลังจากการอพยพถิ่นฐานของชาวยุโรปสู่ทวีปอเมริกา ดินแดนที่เป็นเมืองโอล์มสเต็ดฟอลส์ เดิมเป็นส่วนหนึ่งของ แคนาดา (ฝรั่งเศสใหม่) ในอาณานิคมของฝรั่งเศส ซึ่งต่อมาฝรั่งเศสยอมยกให้แก่ บริเตนใหญ่ ในปีค.ศ. 1763 และเปลี่ยนชื่อเป็น มณฑลควิเบก ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ที่ดินดังกล่าวได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ เขตอนุรักษ์ตะวันตก ของรัฐคอนเนคทิคัต ใน เขตดินแดนตะวันตกเฉียงเหนือ จากนั้นก็ถูกซื้อโดยบริษัท คอนเนตทิคัตแลนด์ ในปี พ.ศ. 2338
ในปี 1806 ผืนดินกว้างใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วยเมืองในปัจจุบันโอล์มสเต็ดฟอลส์ , North Olmsted และ Olmsted Township ถูกซื้อโดย Aaron Olmsted ซึ่งเป็นกัปตันเรือผู้มั่งคั่งในราคา 30,000 เหรียญ ในขณะที่เขาขายที่ดินบางส่วนซึ่งในที่สุดก็เป็นที่รู้จักในชื่อคิงสตันแอรอนโอล์มสเต็ดตั้งชื่อเมืองใหม่ว่าโอล์มสเต็ดเพื่อเป็นเกียรติแก่ชาร์ลส์พี่ชายของเขาซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ซื้อที่ดินดั้งเดิม ดินแดนนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งใหญ่ที่ยกให้รัฐคอนเนตทิคัตหลังสงครามปฏิวัติเพื่อจ่ายเงินให้กับผู้อยู่อาศัยที่ทรัพย์สินถูกเผาในช่วงสงครามปฏิวัติ ดินแดนเหล่านั้นบางแห่งกลายเป็นที่รู้จักในนาม Firelands ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนสงวนทางตะวันตกของคอนเนตทิคัต
Olmsted Falls ได้รับการทำฟาร์มในปี 1814 โดย James Geer ซึ่งในที่สุดก็สร้างบ้านในปีถัดไปเกี่ยวกับสถานที่ที่ CSX Railroad ข้าม State Route 252 (Columbia Road) ส่วนนั้นเป็นที่รู้จักในชื่อ Westview หลังจาก Calvin และ Lmul Hoadley ได้สร้างโรงสีบนแม่น้ำ Rocky ใน West View
ทางเดินทั้งหมดที่ซื้อโดย Aaron Olmsted และอื่น ๆ รวมถึงบางส่วนของสิ่งที่ตอนนี้คือ North Olmsted, North Ridgeville และ Middleburg Heights
ในปี 1970 กลุ่มผู้อยู่อาศัยพยายามที่จะรวมโอล์มสเต็ดฟอลส์ และ หมู่บ้าน Westview สัญญาที่แนะนำได้รับการอนุมัติโดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 90% ในแต่ละชุมชน ชื่อ Westview แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในแผนที่ประวัติศาสตร์ใด ๆ แต่มีอยู่ในการ์ตูนเรื่อง Funky Winkerbean ซึ่ง วาดโดย Tom Batiuk ชาวเวสต์วิว
Olmsted Falls ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองในปี 1970 โดยมีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 5,000 คนที่มีคุณสมบัติตามกฎของรัฐ รัฐบาลไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและอยู่ภายใต้กฎบัตรที่เขียนขึ้นอีกครั้งโดยประชาชนกลุ่มหนึ่งและนำเสนอต่อเขตเลือกตั้งเพื่อลงคะแนนเสียงซึ่งได้รับการอนุมัติ
เมือง จำกัด การสร้างริมฝั่งแม่น้ำร็อกกีและพลัมครีก นอกจากนี้ยังมีทางเดินข้ามทางรถไฟหลักสองสาย CSX a, NE / SW road และ Norfolk Southern ซึ่งเป็นแนวตะวันออก - ตะวันตก โรงเรียนของเมืองนี้บริหารงานโดย Olmsted Falls City School District
Vitamix World Headquarters ตั้งอยู่ใน Olmsted Falls
ข้อมูลประชากร[แก้]
| ประชากร | |||
|---|---|---|---|
| สำมะโนประชากร | Pop. | %± | |
| 1870 | 383 | ||
| 1880 | 404 | 5.5% | |
| 1890 | 342 | −15.3% | |
| 1900 | 330 | −3.5% | |
| 1910 | 394 | 19.4% | |
| 1920 | 374 | −5.1% | |
| 1930 | 673 | 79.9% | |
| 1940 | 754 | 12.0% | |
| 1950 | 1,137 | 50.8% | |
| 1960 | 2,144 | 88.6% | |
| 1970 | 2,504 | 16.8% | |
| 1980 | 5,868 | 134.3% | |
| 1990 | 6,741 | 14.9% | |
| 2000 | 7,962 | 18.1% | |
| 2010 | 9,024 | 13.3% | |
| Est. 2019 | 8,828 | [4] | −2.2% |
| Sources:[7][8][9][10][11][12][5] | |||
การสำรวจสำมะโนประชากร พ.ศ. 2553[แก้]
จากการ สำรวจสำมะโนประชากร ของปี 2000 มีประชากร 7,962 คน 3,121 ครัวเรือนและ 2,228 ครอบครัวอาศัยอยู่ในเมือง ความหนาแน่นของประชากร เท่ากับ 1,927.2 คนต่อตารางไมล์ (744.3 / กม. 2 ) มียูนิตที่อยู่อาศัย 3,267 ยูนิตที่ความหนาแน่นเฉลี่ย 790.8 ต่อตารางไมล์ (305.4 / กม. 2 ) เชื้อชาติของเมืองนี้มี สีขาว 96.71%, แอฟริกันอเมริกัน 1.31%, ชาวอเมริกันพื้นเมือง 0.99%, ชาว เอเชีย 0.73%, ชาวเกาะแปซิฟิก 0.06%, 0.28% จาก เชื้อชาติอื่น ๆ และ 0.88% จาก 2 เผ่าพันธุ์ขึ้นไป ฮิสแปนิก หรือ ลาติน ของเชื้อชาติใด ๆ คิดเป็น 1.51% ของประชากร ในปี 2549 ประชากรประมาณ 10,000+ คน
มีผู้ประกอบการที่มี 3,684 เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 แห่งชีวิตด้วย 32.6% พวกเขา 52.5% กำลัง คู่แต่งงาน อยู่ด้วยกัน 11.0% มีหญิงคฤหัสถ์ไม่มีสามีปัจจุบัน 2.6% เป็นคฤหัสถ์ชายไม่มีภรรยาปัจจุบัน และ 34.0% ไม่ใช่ครอบครัว 28.8% ของครัวเรือนทั้งหมดเป็นรายบุคคลและ 9.4% มีใครอยู่คนเดียวที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ขนาดครัวเรือนเฉลี่ย 2.42 และขนาดครอบครัวเฉลี่ย 3.01
อายุเฉลี่ยในเมืองคือ 41.6 ปี 24.5% ของผู้อยู่อาศัยอายุต่ำกว่า 18 ปี; 6.7% มีอายุระหว่าง 18 ถึง 24 ปี 24.1% จาก 25 เป็น 44; 31% จาก 45 เป็น 64; และ 13.7% อายุ 65 ปีขึ้นไป การแต่งหน้าทางเพศของเมืองนี้เป็นผู้ชาย 46.7% และผู้หญิง 53.3%
สำมะโนประชากร พ.ศ. 2543[แก้]
จากการ สำรวจสำมะโนประชากร ของปี 2000 มีประชากร 7,962 คน 3,121 ครัวเรือนและ 2,228 ครอบครัวอาศัยอยู่ในเมือง ความหนาแน่นของประชากร เท่ากับ 1,927.2 คนต่อตารางไมล์ (744.3 / กม. 2 ) มียูนิตที่อยู่อาศัย 3,267 ยูนิตที่ความหนาแน่นเฉลี่ย 790.8 ต่อตารางไมล์ (305.4 / กม. 2 ) เชื้อชาติของเมืองนี้มี สีขาว 96.71%, แอฟริกันอเมริกัน 1.31%, ชาวอเมริกันพื้นเมือง 0.99%, ชาว เอเชีย 0.73%, ชาวเกาะแปซิฟิก 0.06%, 0.28% จาก เชื้อชาติอื่น ๆ และ 0.88% จาก 2 เผ่าพันธุ์ขึ้นไป ฮิสแปนิก หรือ ลาติน ของเชื้อชาติใด ๆ คิดเป็น 1.51% ของประชากร ในปี 2549 ประชากรประมาณ 10,000+ คน
มีผู้ประกอบการที่มี 3,121 เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 แห่งชีวิตด้วย 34.4% พวกเขา 60.2% กำลัง คู่แต่งงาน อยู่ด้วยกัน 8.7% มีหญิงเจ้าบ้านไม่มีสามีปัจจุบันแล้วก็ไม่ใช่ครอบครัวทุกครัวเรือน 28.6% 28.6% 24.8% ของครัวเรือนทั้งหมดเป็นปัจเจกบุคคลและ 6.9% มีใครอยู่คนเดียวซึ่งมีอายุ 65 ปีขึ้นไป ขนาดครัวเรือนเฉลี่ย 2.54 และขนาดครอบครัวเฉลี่ย 3.06
ในเมืองมีประชากรกระจายออกไปโดย 26.6% อายุต่ำกว่า 18 ปี 6.2% จาก 18 ถึง 24 ปี 32.4% จาก 25 ถึง 44 24.9% จาก 45 เป็น 64 และ 9.9% ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป . อายุเฉลี่ย 37 ปี สำหรับผู้หญิงทุก 100 คนมีผู้ชาย 92.8 คน สำหรับผู้หญิงทุก 100 คนที่อายุ 18 ปีขึ้นไปมีผู้ชาย 89.2 คน
รายได้เฉลี่ยของครัวเรือนในเมืองอยู่ที่ 57,826 ดอลลาร์และรายได้เฉลี่ยของครอบครัวอยู่ที่ 66,196 ดอลลาร์ เพศชายมีรายได้เฉลี่ย 41,996 ดอลลาร์เทียบกับ 35,110 ดอลลาร์สำหรับเพศหญิง รายได้ต่อหัว ของเมืองอยู่ที่ 25,716 ดอลลาร์ ประมาณ 1.2% ของครอบครัวและ 2.1% ของประชากรอยู่ต่ำกว่า เส้นความยากจน รวมถึง 1.2% ของผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีและ 4.5% ของผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
การศึกษา[แก้]
ระบบโรงเรียน Olmsted Falls ให้การศึกษาแก่นักเรียนจาก Olmsted Falls บางส่วนของ Columbia Station ส่วนหนึ่งของ Berea และจาก Olmsted Township ที่อยู่ใกล้เคียง มีโรงเรียนห้าแห่งในระบบโรงเรียน, ศูนย์เด็กปฐมวัย, โรงเรียนประถม Falls-Lenox, โรงเรียนระดับกลางของ Olmsted Falls, โรงเรียนมัธยม Olmsted Falls และโรงเรียนมัธยม Olmsted Falls สีประจำโรงเรียนคือสีน้ำเงินและสีทองและมาสคอตของพวกเขาคือบูลด็อกภาษาอังกฤษ Olmsted Falls School District เพิ่งได้รับการยอมรับในระดับประเทศในด้านการสอน
กรีฑา[แก้]
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2543 ทีมฟุตบอลบูลด็อกได้รับชัยชนะในการแข่งขันชิงแชมป์แห่งรัฐของ สมาคมกีฬาแห่งรัฐโอไฮโอไฮสคูล ครั้งที่ 2 โดยเอาชนะ Piqua 21–0 ที่สนามกีฬา Paul Brown Tiger ใน Massillon
ทีม Girls Cross Country ชนะการแข่งขัน State Championships ในปี 1980, 1981 และ 1987
รัฐบาล[แก้]
ผู้บริหาร[แก้]
นายกเทศมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาลในพิธี เขา / เธอทำงานเต็มเวลาและเป็นประธานในการประชุมสภาเมืองมีอำนาจยับยั้งการกระทำของสภาและทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการความปลอดภัยของเมือง
James Patrick Graven ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2017 หลังจากได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 60% ในการเลือกตั้งพิเศษไหลบ่า
นิติบัญญัติ[แก้]
สภาเมือง Olmsted ประกอบด้วยสมาชิกเจ็ดคนที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นเวลาสองปี; ประธานสภาประธานสภา Pro-Tempore สภาใหญ่เสมียนสภาผู้แทนวอร์ด 1 ตัวแทนวอร์ด 2 ตัวแทนวอร์ด 3 และตัวแทนวอร์ด 4 มันเป็นรูปแบบการปกครองแบบ "สภาที่เข้มแข็ง - นายกเทศมนตรีที่อ่อนแอ" โดยที่นายกเทศมนตรีจะไม่มีสิทธิออกเสียงใด ๆ ในสภา
ปัจจุบันสภาเมือง Olmsted Falls ณ เดือนมกราคม 2020 คือ: Paul Stibich ประธานสภา ลอริโจนส์สภาโปร - Tempore; เจนนิเฟอร์แจนเซนสภาใหญ่; เจย์ McFadden สภาวอร์ด 1; คอร์เนลมันเตอานูสภาวอร์ด 2; อีวอนน์บุคโฮลซ์สภา 3; Brian Chitester, Council Ward 4
ตุลาการ[แก้]
ศาลของนายกเทศมนตรี Olmsted Falls ตั้งอยู่ในอาคารศาลากลาง
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "2019 U.S. Gazetteer Files". United States Census Bureau. สืบค้นเมื่อ July 28, 2020.
- ↑ "US Board on Geographic Names". United States Geological Survey. 2007-10-25. สืบค้นเมื่อ 2008-01-31.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อwwwcensusgov - ↑ 4.0 4.1 "Population and Housing Unit Estimates". สืบค้นเมื่อ May 21, 2020.
- ↑ 5.0 5.1 "U.S. Census website". United States Census Bureau. สืบค้นเมื่อ 2008-01-31.
- ↑ "Olmsted Falls". Geographic Names Information System, U.S. Geological Survey.
- ↑ "Population of Civil Divisions Less than Counties" (PDF). Statistics of the Population of the United States at the Ninth Census. U.S. Census Bureau. 1870. สืบค้นเมื่อ 17 May 2020.
- ↑ "Population of Civil Divisions Less than Counties" (PDF). Statistics of the Population of the United States at the Tenth Census. U.S. Census Bureau. 1880. สืบค้นเมื่อ 28 November 2013.
- ↑ "Population: Ohio" (PDF). 1910 U.S. Census. U.S. Census Bureau. สืบค้นเมื่อ 28 November 2013.
- ↑ "Population: Ohio" (PDF). 1930 US Census. U.S. Census Bureau. สืบค้นเมื่อ 28 November 2013.
- ↑ "Number of Inhabitants: Ohio" (PDF). 18th Census of the United States. U.S. Census Bureau. 1960. สืบค้นเมื่อ 17 May 2020.
- ↑ "Ohio: Population and Housing Unit Counts" (PDF). U.S. Census Bureau. สืบค้นเมื่อ 22 November 2013.
[[หมวดหมู่:เมืองในรัฐโอไฮโอ]] [[หมวดหมู่:Coordinates on Wikidata]] [[หมวดหมู่:Pages with unreviewed translations]]