ปลาไน
ปลาไน | |
---|---|
ปลาไนสายพันธุ์ดั้งเดิม (ไวลด์ไทป์) | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Actinopterygii |
อันดับ: | Cypriniformes |
วงศ์: | Cyprinidae |
สกุล: | Cyprinus |
สปีชีส์: | C. carpio |
ชื่อทวินาม | |
Cyprinus carpio (Linnaeus, 1758) | |
ชนิดย่อย | |
|
ปลาไน หรือ ปลาคาร์ปธรรมดา (อังกฤษ: carp, common carp) ปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cyprinus carpio อยู่ในวงศ์ปลาตะเพียน (Cyprinidae) เป็นปลาน้ำจืดที่เชื่อว่าเป็นปลาที่มนุษย์เลี้ยงเป็นชนิดแรกของโลกเพื่อเป็นอาหาร โดยเลี้ยงในประเทศจีนเมื่อประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว โดยเริ่มพร้อมกับปลาทอง [6]
รูปร่าง[แก้]
เป็นปลาที่มีรูปร่างป้อม แบนข้างเล็กน้อย ส่วนหัวลาด ปากมีขนาดเล็ก มีหนวดสั้น 2 คู่ ครีบหลังค่อนข้างยาว ครีบหางเป็นเว้าแฉกลึก สีลำตัวมีสีน้ำตาลคล้ำอมทองหรือน้ำตาลอ่อน ท้องสีจาง บางตัวอาจมีสีสัน ปลาตัวผู้ในฤดูผสมพันธุ์จะมีตุ่มสิวขึ้นบริเวณใบหน้า และครีบอก ผสมพันธุ์และวางไข่ได้ทุกฤดูโดยวางติดกับพืชน้ำ
ปลาไนมีขนาดโตเต็มที่ได้มากกว่า 1.5 เมตร (สถิติที่เคยพบว่าใหญ่ที่สุด คือ หนักเกือบ 31 กิโลกรัม อายุประมาณ 25 ปี ที่บ่อตกปลาแห่งหนึ่งใกล้เมืองเรดิง แคว้นบาร์กเชอร์ ประเทศอังกฤษ เป็นปลาชื่อ "พาร์ร็อต" (Parrot)[7]) สามารถวางไข่ได้ถึง 1 แสนฟอง ชอบอาศัยรวมเป็นฝูงในแหล่งน้ำไหลเชี่ยว และสามารถปรับตัวได้ทุกสภาพแหล่งน้ำ แต่จะไม่วางไข่ในแหล่งน้ำนิ่ง เป็นปลาพื้นเมืองของประเทศจีนตะวันตกและภูมิภาคยุโรปตะวันออก แต่ในบางภูมิภาค เช่น ออสเตรเลีย ปลาไนได้ถูกนำเข้าและถูกปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาต้ จนแพร่ขยายพันธุ์กระทบต่อสัตว์น้ำพื้นเมืองเป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ มีฉายาเรียกว่า "กระต่ายแม่น้ำ" (River Rabbit)[6] รวมถึงในประเทศไทยด้วย[8]
การรับประทาน[แก้]
ปลาไนมีชื่อเรียกในภาษาแต้จิ๋วว่า หลีฮื้อ (จีนตัวเต็ม: 鯉魚) (ในภาษาไทยเรียกรวมกับปลาชนิดอื่นที่มีความใกล้เคียงกันว่า ปลาจีน) นิยมบริโภคด้วยการปรุงสด จัดเป็นปลาที่มีรสชาติดี เนื้อนุ่ม อร่อย และมีราคาแพง
ในประเทศไทยถูกนำเข้าโดยชาวจีนที่เดินทางมาทางเรือ ในปี ค.ศ. 1922 เพื่อเป็นอาหาร และได้ถูกเลี้ยงครั้งแรกในพื้นที่แถบกรุงเทพมหานครและปริมณฑล[6]
ปลาไน เป็นปลาที่มีความเชื่อของชาวจีนและชาวญี่ปุ่นว่า เมื่อได้รับประทานแล้วจะพบกับความเป็นสิริมงคล เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าและแข็งแกร่ง ที่ประเทศญี่ปุ่นมีฟาร์มเลี้ยงปลาไนที่ขึ้นชื่อที่สุด อยู่ที่เมืองอุกิฮะ จังหวัดฟุกุโอกะ รวมถึงเมืองโคริยะมะ จังหวัดฟุกุชิมะ[9] เนื่องจากมีแหล่งน้ำที่ใสสะอาด เหมาะแก่การอยู่อาศัยของปลาไน โดยเปิดให้น้ำจากแม่น้ำไหลเข้าบ่อเลี้ยง น้ำที่ใช้เลี้ยงจะวนตลอดเพื่อให้ปลาว่ายทวนน้ำเหมือนในธรรมชาติ เนื้อของปลาไนเหมาะกับมารดาที่มีลูกอ่อน เมื่อได้รับประทานแล้วจะช่วยในการบำรุงน้ำนม เมื่อปรุงจะแล่ปลาขณะที่ยังเป็น ๆ อยู่ และหากจะรับประทานเป็นปลาดิบ จะแล่เป็นชิ้นบาง ๆ เนื้อของปลาไนจะมีสีแดงสด[10]
ปลาสวยงาม[แก้]
ดูบทความหลักที่ ปลาแฟนซีคาร์ป
เช่นเดียวกับปลาทอง ประเทศญี่ปุ่นได้พัฒนาสายพันธุ์ดั้งเดิมของปลาไน ให้เป็นปลาสวยงาม มีสีสันและรูปร่างที่สวยงามขึ้นมาเป็นระยะเวลานาน เรียกว่า ปลาแฟนซีคาร์ป (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 錦鯉 nishikigoi) เป็นสายพันธุ์ต่าง ๆ เช่น ซังโกกุ, โคฮากุ, ตันโจ เป็นต้น โดยมีการประกวดและทำฟาร์มเพาะเลี้ยงจนกลายเป็นวัฒนธรรมหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เช่น เทศกาลเด็กผู้ชายที่เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปีที่บ้านที่มีเด็กผู้ชายจะประดับด้วยธงรูปปลาคาร์ปที่หน้าบ้าน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแรง เป็นต้น และเป็นที่รับรู้ในระดับสากลว่า ปลาคาร์ปเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้ที่เลี้ยงปลาคาร์ป มักนิยมเลี้ยงรวมเป็นฝูงขนาดใหญ่ในบ่อเลี้ยงขนาดใหญ่ที่มีระบบน้ำวน มีการจัดการน้ำที่ดี ในสวนแบบญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นปลาที่ได้รับการบันทึกกว่ามีอายุยืนที่สุดในโลกอีกด้วย ได้แก่ ปลาที่ชื่อ "Hanako" (花子) โดยมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ยุคเอโดะ ก่อนที่จะตายลงในยุคโชวะ รวมอายุได้ 226 ปี[11]
รูปภาพ[แก้]
-
ปลาคาร์ปในบ่อเลี้ยง
-
บ่อปลาคาร์ปในสวนญี่ปุ่น
-
ปลา 6 ตัวในบ่อเลี้ยง
-
ฝูงปลาในสวนชาแบบญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว
อ้างอิง[แก้]
- ↑ Freyhof, J. & Kottelat, M. (2011). "Cyprinus carpio". IUCN Red List of Threatened Species. Version 2011.1. สืบค้นเมื่อ June 23, 2011.
{{cite web}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ Fishbase: Cyprinus carpio carpio Linnaeus, 1758
- ↑ 3.0 3.1 3.2 Jian Feng Zhou, Qing Jiang Wu, Yu Zhen Ye & Jin Gou Tong (2003). Genetic divergence between Cyprinus carpio carpio and Cyprinus carpio haematopterus as assessed by mitochondrial DNA analysis, with emphasis on origin of European domestic carp Genetica 119: 93–97[ลิงก์เสีย]
- ↑ Fishbase: Cyprinus carpio haematopterus Martens, 1876
- ↑ Fishbase: Cyprinus rubrofuscus Lacepède, 1803
- ↑ 6.0 6.1 6.2 ดร. ชวลิต วิทยานนท์. ปลาน้ำจืดไทย. กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์, 2544. 115 หน้า. หน้า 56-57. ISBN 9789744726551
- ↑ หน้า 7 โลกาภิวัฒน์ GLOBALIZATION, ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดเมืองผู้ดีลาโลกด้วยวัย 25 ปี. "โลกโศภิณ". ไทยรัฐปีที่ 68 ฉบับที่ 21755: วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2560 แรม 7 ค่ำ เดือน 9 ปีระกา
- ↑ "10 ปลาเอเลี่ยนในเมืองไทย ที่กำลังยึดแหล่งน้ำโดยคุณไม่รู้ตัว". spokedark. August 13, 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-30. สืบค้นเมื่อ July 6, 2016.
- ↑ หน้า 13, หนาวนี้ที่'โคริยามะ' ปลาคาร์พซากุระ ละอองหิมะ กับไร่สตรอเบอรี่หวานฉ่ำ. "ประชาชื่น" โดย พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร. มติชนปีที่ 39 ฉบับที่ 14169: วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2559
- ↑ ""กอล์ฟ-เฟิร์น" พาชิม "ปลาคาร์ฟ" วัตถุดิบแห่งความเชื่อ ของชาวญี่ปุ่น". เชพกระทะเหล็กประเทศไทย. 22 January 2014. สืบค้นเมื่อ 4 April 2014.[ลิงก์เสีย]
- ↑ ["THE STORY OF HANAKO (อังกฤษ)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-20. สืบค้นเมื่อ 2012-10-27. THE STORY OF HANAKO (อังกฤษ)]
ดูเพิ่ม[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Cyprinus carpio ที่วิกิสปีชีส์