ปืน ร.ศ. 121
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ปืนเล็กยาวแบบ 66 จัดแสดงที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ | |
ปืน ร.ศ. 121 | |
---|---|
ชนิด | ปืนเล็กยาว |
สัญชาติ | ไทย |
สมัย | ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 |
การใช้งาน | เหนี่ยวไกปืน |
เป้าหมาย | ทหารราบ |
เริ่มใช้ | พ.ศ. 2447 |
ช่วงผลิต | พ.ศ. 2447-พ.ศ. 2488 |
ช่วงการใช้งาน | พ.ศ. 2447-พ.ศ. 2503 |
ผู้ใช้งาน | กองทัพสยาม |
สงคราม | สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง กบฏบวรเดช สงครามโลกครั้งที่สอง |
ขนาดลำกล้อง | 8 มิลลิเมตร |
ระยะครบรอบเกลียว | |
ความยาวลำกล้อง | |
กระสุน | 8×50 มิลลิเมตร แบบ 45 |
ซองกระสุน | 5 นัด |
ระบบปฏิบัติการ | ลูกเลื่อนบริหารกลไกด้วยมือ |
อัตราการยิง | |
ความเร็วปากลำกล้อง | 680 เมตร/วิ (ปลย. 46/66) ~ 620 เมตร/วิ (ปลย. 46) |
ระยะยิงหวังผล | |
ระยะยิงไกลสุด | |
น้ำหนัก | |
ความยาว | |
แบบอื่น | ปืนเล็กยาวแบบ 46 (ปลย. 46), ปืนเล็กสั้นแบบ 47 (ปลส. 47), ปืนเล็กยาวแบบ 46/66 (ปลย. 46/66), ปืนเล็กสั้นแบบ 47/66 (ปลส. 47/66), ปืนเล็กยาวแบบ 66 (ปลย. 66) |
ปืนเล็กยาว ร.ศ. 121 หรือ ปืนเล็กยาว แบบ 45 (ปลย. 45) เป็นปืนเล็กยาวแบบลูกเลื่อนบริหารกลไกด้วยมือ ใช้กระสุนขนาด 8x50 มม. แบบหัวป้าน (8x50 mm. R Siamese Mauser Type 45) เข้าประจำการเมื่อปี พ.ศ. 2445-2446 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องจากเดิมกองทัพสยามเคยสั่งซื้อปืนเล็กยาว Steyr-Mannlicher M1888 หรือ ปืนเล็กยาว แบบ 33 (ปลย. 33) จากประเทศออสเตรียมาใช้งานเมื่อปี พ.ศ. 2433 ซึ่งปืนรุ่นดังกล่าวใช้ระบบลูกเลื่อนดึงตรงแบบสองจังหวะและใช้กระสุนขนาด 8x50 mm. R Mannlicher ซึ่งปืนดังกล่าวไม่เป็นที่พึงพอใจในประสิทธิภาพมากนัก จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการออกแบบโดยยึดรูปแบบปืนเล็กยาว Swedish Mauser M1894 ขนาด 6.5×55 มม. ของประเทศสวีเดนเป็นหลัก และด้วยการที่ปืนเล็กยาวรุ่นนี้ใช้ระบบลูกเลื่อนแบบเมาเซอร์ (Mauser) จึงมีชื่อเรียกภาษาอังกฤษด้วยว่า "Siamese Mauser M1902/M1903"
ประวัติ
[แก้]"บ้านเมืองเราทุกวันนี้เหมือนตั้งอยู่ในหมู่หัวไม้ ถ้าเราไม่เตรียมพลองไว้สู้กับพวกหัวไม้บ้าง พวกหัวไม้ก็ย่อมจะมีใจกำเริบมารังแกอยู่ร่ำไป ถึงโดยจะสู้ให้ชนะจริงไม่ได้ ก็ให้เป็นแต่พอให้พวกหัวไม้รู้ว่าพลองของเรามีอยู่ ถ้าจะเข้ามารังแกก็คงจะเจ็บบ้าง" พระราชดำรัส รัชกาลที่ 5เมื่อ ร.ศ.121 จากการจัดหาอาวุธปืนที่ทันสมัยให้เหมาะสมกับการพัฒนาการทหารของสยามในขณะนั้น โดยทรงมีพระราชประสงค์ไว้ คือ มิได้เอาอาวุธไปรุกรานใคร แต่เอาไว้ใช้ป้องกันชาติ[1]
การแต่งตั้งคณะกรรมการออกแบบอาวุธปืนรุ่นใหม่ที่จะสั่งซื้อ ประกอบด้วยพันเอกพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดชโทพระยาชลยุทธโยธินทร์ (อังเดร ดู เปลซีส เดอ ริชลิว) พลเอกเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี และพันตรีพระยาสีหราชเดโชชัย สมุหราชองครักษ์ในัชกาลที่ 5 ต่อมาในปีพ.ศ. 2466 สมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการสั่งซื้อปืนเล็กยาวแบบ 66 หรือปืนอาริซากะ (Arisaka) ซึ่งเป็นปืน Mauser M1923 แต่ผลิตโดยญี่ปุ่นเข้ามาใหม่ และได้มีการปรับเปลี่ยนกระสุนจากขนาด 8x50 มม.เป็นขนาด 8x52 มม.หรือ 8x52 mm.R Siamese Mauser Type 66 ซึ่งเป็นกระสุนแบบหัวแหลม เพื่อไม่ให้ปืนติดขัดเวลาป้อนกระสุนเข้ารังเพลิง ปืนเล็กยาวที่ซื้อมาก่อนหน้านี้อย่างปลย. 45 และปลส. 47 จึงได้นำมาคว้านรังเพลิงเพื่อใช้กับกระสุนใหม่นี้ด้วย และเรียกชื่อใหม่ว่า ปลย. 45/66 กับปลส. 47/66 ซึ่งไทย( ขณะนั้นเรียกสยาม ) ซื้อพิมพ์เขียวจาก เยอรมัน มาจ้างผลิตที่โรงงานสรรพวุธกองทัพญี่ปุ่น โดยปกปิดการดำเนินการด้วยเหตุผลทางการมืองขณะนั้น ที่ฝรั่งเศส-อังกฤษ เข้ามาเป็นเป็นเจ้าอาณานิคมดินแดนเพื่อนบ้าน (ฝรั่งเศส ลาว เขมร: อังกฤษ พม่า มลายู) มีความหวาดระแวง สยาม และญี่ปุ่นที่เป็นมหาอำนาจใหม่ในทวีปเอเชีย ต่อมาปรับปรุงเป็นปืนเล็กยาวแบบ 66 (ปลย 66: type 66) โดยเปลี่ยนแบบกระสุนเป็น 8x52 มม.(8x52 mm.R Siamese mauser type 66 ) ชนิดหัวแหลม นอกจากนี้ยังมีรุ่นปืนเล็กสั้นที่เรียกว่า ปลส 47.(ปืนเล็กสั้น 47:type 47) คุณลักษณะเหมือน ปืนเล็กยาวแบบ 45 แต่สั้นกว่า ซึ่งต่อมาได้รับการพัฒนาพร้อมปืนเล็กยาวแบบ 66 เป็น ปืนเล็กสั้น 45/66.(ปลส 45/66:type 45/66) และ ปืนเล็กสั้น 47/66.(ปลส 47/66:type 47/66) อีกนามหนึ่งของ ปลย. 45และ ปลส. 47 คือ ปืน ร.ศ 121 และ ปืน ร.ศ 123 ตามลำดับ ซึ่งใช้ในยุครัชกาลที่ 5 และเปลี่ยนชื่อเป็น ปลย. 45 และ ปลส. 47 ในยุครัชกาลที่ 6 แต่บุคคลทั่วไปนิยมเรียก” ปืน ร.ศ (รัตนโกสินธ์ ศก)”[2][3][4][5]
ลักษณะจำเพาะ
[แก้]ลักษณะทั่วไป | ปืนเล็กยาว:ปลย 45-ปลย 66
ปืนเล็กสั้น:ปลส 47-ปลส 45/66-ปลส 47/66 |
ระบบการทำงาน | ลูกเลื่อน แบบเมาเซอร์ 3 ปีกขัดกลอน |
ศูนย์หน้า | ทรงใบมีด |
ความจุ | 5+1 นัด |
ขนาดกระสุน | ปลย 45-ปลส 47
8x50 มม. (8x50 mm.R Siamese mauser type 45) ชนิดหัวป้าน ปลย 66-ปลส 45/66-47/66 8x52 มม. (8x52 mm.R Siamese mauser type 66) ชนิดหัวแหลม |
โรงงานผลิต | โรงงานสรรพาวุธ กองทัพญี่ปุ่น ที่ โคชิกาวา |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2015-10-05.
- ↑ http://www.weekendhobby.com/gun/webboard/question.asp?page=2&id=3810
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-19. สืบค้นเมื่อ 2013-08-31.
- ↑ http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=374ab17323168ea0[ลิงก์เสีย]
- ↑ นิตยสารอาวุธปืน เดือนมิถุนายน พ.ศ 2548