นิโนะคุนิ: แรธออฟเดอะไวท์วิตช์
| นิโนะคุนิ: แรธออฟเดอะไวท์วิตช์ | |
|---|---|
 ปกเกมเวอร์ชันยุโรป | |
| ผู้พัฒนา | เลเวล 5[a] |
| ผู้จัดจำหน่าย | นัมโคบันไดเกมส์
|
| กำกับ | เคน โมโตมูระ |
| อำนวยการผลิต | ฮิโรยูกิ วาตานาเบะ |
| โปรแกรมเมอร์ |
|
| ศิลปิน | โนบุยูกิ ยาไน |
| เขียนบท | อากิฮิโระ ฮิโนะ |
| แต่งเพลง | โจ ฮิไซชิ |
| ชุด | นิโนะคุนิ |
| เครื่องเล่น | |
| วางจำหน่าย | เพลย์สเตชัน 3สวิตช์, เพลย์สเตชัน 4, วินโดวส์
|
| แนว | แอ็กชันเล่นตามบทบาท |
| รูปแบบ | ผู้เล่นเดี่ยว |
นิโนะคุนิ: แรธออฟเดอะไวท์วิตช์ (อังกฤษ: Ni no Kuni: Wrath of the White Witch ญี่ปุ่น: 二ノ国 白き聖灰の女王; โรมาจิ: Ni no Kuni: Shiroki Seihai no Joō; ทับศัพท์: lit. Second Country: The Queen of White Sacred Ash) เป็นวิดีโอเกมแนวแอ็กชันเล่นตามบทบาทที่พัฒนาโดยเลเวล 5 เกมนี้เป็นเวอร์ชันปรับปรุงเพิ่มเติมของเกม Ni no Kuni: Dominion of the Dark Djinn ซึ่งวางขายครั้งแรกสำหรับนินเท็นโด ดีเอสในญี่ปุ่นในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2010 ตัวเกมวางจำหน่ายสำหรับเพลย์สเตชัน 3 ในญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 และวางจำหน่ายในโซนตะวันตกโดยนัมโคบันไดเกมส์ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2013 และยังวางจำหน่ายสำหรับนินเท็นโด สวิตช์ ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2019[1] เวอร์ชันรีมาสเตอร์ได้วางจำหน่ายสำหรับเพลย์สเตชัน 4 และ ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2019[2] และสำหรับเอกซ์บอกซ์วันและ เอกซ์บอกซ์ซีรีส์เอกซ์และซีรีส์เอสในเดือนกันยายน ค.ศ. 2022[3]
การพัฒนาเริ่มขึ้นใน ค.ศ. 2008 ควบคู่ไปกับเกม Dominion of the Dark Djinn ซีเควนซ์แอนิเมชันของเกมผลิตโดยสตูดิโอจิบลิ ในขณะที่ดนตรีประกอบดั้งเดิมแต่งโดยโจ ฮิไซชิ รูปแบบศิลปะยังได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานอื่น ๆ ของสตูดิโอจิบลิอีกด้วย[4] การพัฒนาตัวละครของโอลิเวอร์เป็นจุดสนใจหลักของเกม โดยตั้งใจที่จะทำให้เด็ก ๆ เห็นอกเห็นใจตัวละครตัวนี้ และเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้หวนนึกถึงช่วงวัยรุ่นอีกครั้ง นักพัฒนาใช้ขุมพลังของเพลย์สเตชัน 3 อย่างเต็มศักยภาพเพื่อสร้างโลกที่มีรายละเอียดอันยอดเยี่ยมซึ่งเป็นไปไม่ได้ใน Dominion of the Dark Djinn
หลังจากการประกาศ นิโนะคุนิ ตัวเกมได้รับการคาดหวังอย่างกว้างขวาง ตัวเกมได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์หลายคน โดยได้รับคำชมเป็นพิเศษจากเนื้อเรื่อง การออกแบบกราฟิก และรูปแบบการเล่น แรธออฟเดอะไวท์วิตช์ กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ขายดีที่สุดบนเพลย์สเตชัน 3 โดยขายได้มากกว่า 170,000 ชุดภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากวางจำหน่ายในญี่ปุ่น และมากกว่าหนึ่งล้านชุดภายในสิบสี่เดือนหลังจากวางจำหน่ายในโซนตะวันตก ตัวเกมได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงและได้รับรางวัลจากสื่อเกมหลายรายการ ภาคต่อ Ni no Kuni II: Revenant Kingdom ได้วางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2018
หมายเหตุ
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Guillon, Sandra (September 18, 2019). "Test of Ni no Kuni: Wrath of the White Switch on Switch". Jeuxvideo.com. Webedia. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 19, 2019. สืบค้นเมื่อ November 4, 2023.
- ↑ Marshall, Cass (June 11, 2019). "Ni no Kuni is coming to Switch, getting remastered for PC, PS4". Polygon. Vox Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 11, 2019. สืบค้นเมื่อ June 12, 2019.
- ↑ Romano, Sal (September 15, 2022). "Ni no Kuni: Wrath of the White Witch Remastered now available for Xbox Series, Xbox One; Ni no Kuni II: Revenant Kingdom coming in 2023". Gematsu. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 15, 2022. สืบค้นเมื่อ September 16, 2022.
- ↑ Bennett, Hollie (February 15, 2013). "Ni No Kuni: Akihiro Hino answers your questions". PlayStation Blog. Sony Computer Entertainment. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 7, 2016. สืบค้นเมื่อ July 30, 2015.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้] | บทความวิดีโอเกมหรือเกมคอมพิวเตอร์นี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |
- วิดีโอเกมที่ออกวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2554
- เกมสำหรับเพลย์สเตชัน 3
- เกมสำหรับเพลย์สเตชัน 4
- เกมสำหรับเอกซ์บอกซ์วัน
- เกมสำหรับเอกซ์บอกซ์ซีรีส์เอกซ์และซีรีส์เอส
- เกมสำหรับวินโดวส์
- เกมสำหรับนินเท็นโดสวิตช์
- วิดีโอเกมเล่นตามบทบาท
- สตูดิโอจิบลิ
- วิดีโอเกมเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลา
- บทความเกี่ยวกับ เกมคอมพิวเตอร์และวิดีโอเกม ที่ยังไม่สมบูรณ์