ญิงมา
นิกายญิงมา (ทิเบต: རྙིང་མ་ [ɲiŋma]) นิกายหมวกแดง เป็นนิกายสำคัญนิกายหนึ่งของศาสนาพุทธแบบทิเบต ถือกำเนิดจากปัทมสัมภวะ อาจารย์ชาวอินเดียคือที่เดินทางมาทิเบตเมื่อ พ.ศ. 1350 ซึ่งได้รับการนับถือจากชาวทิเบตอย่างกว้างขวาง และเป็นผู้สร้างวัดสัมเยซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในทิเบต ปัทมสัมภวะได้เผยแพร่คำสอนของนิกายตันตระจนมีสานุศิษย์ที่สำคัญหลายคน
เนื้อหา
คำสอน[แก้]
นิกายญิงมาแบ่งคำสอนในพุทธศาสนาออกเป็น 9 ยานคือ
- สามยานนี้เป็นคำสอนในพระสูตร
- สาวกยาน
- ปัจเจกพุทธยาน
- โพธิสัตวยาน
- ตันตระสาม คือ
- กริยาตันตระ
- อุปตันตระ
- โยคะตันตระ
- ตันตระขั้นสูงอีกสามยาน คือ
- มหาโยคะ
- อนุตรโยคะ
- อธิโยคะ
ทุกระดับยกเว้น อธิโยคะ คุหยสมาช กาลจักร จักรสังวร ล้วนจัดอยู่ในอนุตรโยคะทั้งสิ้น ส่วนอธิโยคะหรือซกเชน ถือเป็นตันตระพิเศษสูงสุดกว่าตันตระใดๆ ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ เป็นวิธีการเจาะเข้าสู่พุทธภาวะโดยตรง
จุดมุ่งหมายของการปฏิบัติยานทั้งเก้าคือ เพื่อก้าวพ้นโลกียะตามคำสอนของพระสมันตภัทรพุทธะ ในคำสอนของตันตระที่เป็นเอกลักษณ์ของนิกายนี้คือ ซอกเซ็น หรือมหาบารมี เป็นการปฏิบัติโดยสวดพระนามของปัทมสัมภวะ หรือคุรุรินโปเช และการเข้าเงียบ จะเน้นในการสวดมนต์ต์ตราธารณี การใช้สัญลักษณ์มุทรา สัญลักษณ์มณฑล ในการประกอบพิธีเพื่อเข้าสู่การบรรลุพระโพธิญาณ นิกายนี้มีความเชื่อว่า หลังจากสมัยคุรุปัทมสมภพแล้วก็ได้มีการค้นพบคำสอนซึ่งถูกซ่อนไว้โดยคุรุปัทมสมภพ ในทิเบตเรียกว่า "เทอร์มา" ซึ่งแปลว่าขุมทรัพย์อันล้ำค่า และได้ทำนายไว้ว่าในอนาคต ศิษย์ของท่านจะเป็นผู้ค้นพบและเปิดขุมทรัพย์
คำสอน 6 ยานแรกเป็นพื้นฐานของพุทธตันตระทั่วไป ส่วนสามยานสุดท้ายเป็นลักษณะพิเศษของนิกายญิงมา เชอเกียมตรุงปะ อาจารย์นิกายญิงมา ผู้มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 20 ได้กล่าวว่า
|
คณาจารย์สำคัญ[แก้]
อาจารย์คนสำคัญของนิกายนี้ได้แก่ ยอนชัล บีมาร์โอเซอร์ คุรุโชวัง คอร์เจ ลิงปา ปัทมะ ลิงปา และจัมยัง เคนเซ เป็นผู้นำคำสอนที่ปัทมสัมภวะซ่อนไว้มาเปิดเผย
สถาบัน[แก้]
สถาบันแห่งแรกของนิกายนี้คือวัดสัมเย ตั้งโดยพระศานตรักษิต สถาบันในยุคหลังได้แก่ วัดมันโดรลิง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2219 จอร์เจดรัก สร้างเมื่อ พ.ศ. 2202 เมื่อชาวทิเบตลี้ภัยเข้าสู่อินเดีย มีการสร้างวัดในนิกายนี้หลายแห่ง เช่นที่รัฐการณาตกะ และ[[ธรรม ศาลา]]
อ้างอิง[แก้]
- ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ ษัฏเสน. พระพุทธศาสนาแบบทิเบต. กทม. : ศูนย์ไทยทิเบต, 2538.