ข้ามไปเนื้อหา

ธีรศักดิ์ บุญเรือง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ธีรศักดิ์ บุญเรือง หรือ ต้อย (พ.ศ. 2523 - 27 เมษายน พ.ศ. 2567) เป็นฆาตกรหมู่ชาวไทยผู้ก่อเหตุฆาตกรรมเด็กนักเรียนม.6 จำนวน 3 คน ที่อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ เนื่องจากหลอนยาเสพติด และยังได้ทำร้ายเพื่อนผู้ต้องขังขณะถูกคุมขังในสถานีตำรวจ[1] เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์เครือข่ายค้ายาเสพติดในจังหวัดกระบี่[2][3]

ธีรศักดิ์ บุญเรือง
เกิดพ.ศ. 2523
อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่
เสียชีวิต27 เมษายน พ.ศ. 2567 (44 ปี)
โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
สาเหตุเสียชีวิตภาวะพิษเหตุติดเชื้อ
ชื่ออื่นเสี่ยต้อย
ไอ้ต้อย
อาชีพเจ้าของร้านจำหน่ายและเปลี่ยนยางรถยนต์
สถานะทางคดีเสียชีวิต
เหตุจูงใจหลอนประสาทจากยาบ้า
พิพากษาลงโทษฐาน
  • ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
  • มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
  • ยิงปืนในที่สาธารณะ
  • เสพยาเสพติดประเภท 1
บทลงโทษประหารชีวิตลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตเปลี่ยนเป็นยกฟ้อง (2562)
ประหารชีวิต (2565)
รายละเอียด
วันที่6 กันยายน พ.ศ. 2565
7 กันยายน พ.ศ. 2565
ประเทศประเทศไทย
รัฐจังหวัดกระบี่
ตำแหน่งริมทางหลวงหมายเลข 4156 ตำบลพรุเตียว อำเภอเขาพนม
สถานีตำรวจภูธรเขาพนม ตำบลเขาพนม อำเภอเขาพนม
ตาย3
บาดเจ็บ1
อาวุธปืนลูกซอง
รถบีเอ็มดับเบิลยูรุ่น525I
วันที่ถูกจับ
6 กันยายน พ.ศ. 2565
จำคุกที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช

ประวัติ[แก้]

ธีรศักดิ์เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2523 เป็นชาวจังหวัดกระบี่ เขาเสพและติดยาบ้ามาเป็นเวลานานแล้ว แม่ของธีรศักดิ์เคยส่งเขาไปบำบัดยาเสพติดแต่หลังจากบำบัดเขาก็กลับมาเสพยาบ้าอีก ต่อมาเขามีภรรยาและลูกที่ตำบลเขาดิน ในช่วงประมาณปีพ.ศ. 2562 เขาเคยถูกจับกุมในจ้างวานฆ่าผู้หญิงคนหนึ่งในพื้นที่อำเภอเหนือคลองเนื่องจากมือปืนรับจ้างซัดทอดว่าเขาเป็นผู้จ้างวาน ศาลจังหวัดกระบี่ได้ตัดสินประหารชีวิต ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต แต่ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง[4] ในระหว่างเมายาเสพติดเขาเคยใช้ปืนพกขนาด.38 กับปืนลูกซองยาวยิงประตูบ้านตนเองจนเป็นรูพรุนทั้งบาน และเคยใช้สีสเปร์ยพ่นที่ประตูหน้าบ้านว่า "ขาย มีปัญหาภายในครอบครัว" ทั้งๆที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร[5][6] เขามีพฤติกรรมชอบขับรถไปชนผู้อื่น เขาเคยขับรถไปชนพ่อตาของญาติหนึ่งในผู้เสียชีวิต ตอนแรกเขาตกลงจ่ายค่าเยียวยา 60,000 บาท แต่เขาจ่ายจริงน้อยกว่า[7][8]

การก่อคดี[แก้]

ในช่วงกลางคืนของวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2565 ธีรศักดิ์ได้ชวนลูกและภรรยาให้ไปนอนที่ร้านจำหน่ายและเปลี่ยนยางรถยนต์ในตำบลพรุเตียว แต่เขาออกรถมาก่อนทำให้ลูกและภรรยาไม่เดินทางมาด้วย เขาขับรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยูสีดำ รุ่น525I ไปตามทางหลวงหมายเลข 4156 ต่อมาในเวลา 01.00 น. ของวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2565 นายนนทภัทร อุดมศรี อายุ 18 ปี, นางสาวภัณธิรา ชูทอง อายุ 18 ปี และนางสาวณัชนิชา พันเซ่ง อายุ 18 ปี ทั้งสามเป็นโรงเรียนพนมเบญจา ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านของภัณธิชาที่ตำบลพรุเตียวเพื่อเดินทางไปนอนที่บ้านของณัชนิชาที่ตำบลเขาพนม[9] เมื่อเข้าใกล้โค้ง เขาได้ขับรถเบี่ยงเข้าเลนที่ทั้งสามขับรถจักรยานยนต์แล้วพุ่งชนประสานงากับรถจักรยายนต์ทำให้รถจักรยานยนต์ตกลงข้างทาง ธีรศักดิ์ได้ลงจากรถมาพร้อมกับปืนลูกซองยาวแล้วยิงทั้งสามคนจนเสียชีวิต ก่อนจะขับรถไปตามอำเภอลำทับ[10][11]

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่และสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และชาวบ้าน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบชื่อคนร้ายคือธีรศักดิ์ บุญเรือง[12]

การจับกุม[แก้]

ในเวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยสวาทของสถานีตำรวจภูธรเขาพนมนำกำลังจำนวน 20 นาย ล้อมร้านเปลี่ยนยางของธีรศักดิ์ที่ริมทางหลวงหมายเลข 4156 ตำบลพรุเตียว หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเจ้าของร้านคือธีรศักดิ์ เมื่อเดินทางไปถึงตำรวจได้พบรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยูสีดำ รุ่น525I อยู่ในโรงรถข้างร้าน รถเก๋งมีสภาพกระจกด้านข้างคนขับแตกจากการกระแทกและด้านหน้าพังเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกธีรศักดิ์ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน แต่เขาไม่ยอมเปิดประตู เมื่อพ่อแม่ของเขามาร่วมเจรจา หลังจากผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง เขาได้เปิดประตูแง้มออกมาดู 1 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งเข้าไปจับกุม เขาได้วิ่งหนีไปทางประตูด้านข้างพร้อมกับถือปืนพกขนาด.357 เมื่อเขาเห็นพ่อยืนอยู่ข้างตำรวจ เขาจึงโยนปืนทิ้งและยอมให้จับกุม[13] ถัดจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นห้องนอนในบ้านของเขา โดยพบปืนลูกซองยาว 1 กระบอก และปลอกกระสุนปืนขนาด .357 กระจายอยู่ตามพื้นห้อง ตามลานในร้าน และยังพบรูกระสุนจำนวนมากบนผนังของร้าน[14] เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามธีรศักดิ์ เขาได้ให้การวกวน และยอมรับว่าเมื่อคืนเขาเสพยาบ้ามาจำนวน 2 เม็ด จากนั้นได้ขับรถคันดังกล่าวจากบ้านของภรรยาที่ตำบลเขาดิน เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านมาเพียงคนเดียว เมื่อถึงที่เกิดเหตุ เขาได้ขับรถพุ่งชนรถจักรยานยนต์เนื่องจากคิดว่ากลุ่มคนที่ขับรถมาจะฆ่าเขา หลังจากนั้นเขาจอดรถแล้วใช้ปืนลูกซองยิงใส่กลุ่มของผู้เสียชีวิต จำนวน 3 นัด ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ไฟไหม้นั้นเกิดไฟลุกไหม้ขณะชนกัน เขาได้ปฎิเสธว่าไม่ได้เผา[15]

ในเวลา 17.30 น. ชุดสืบสวนของสถานีตำรวจภูธรเขาพนมได้นำตัวเขาไปส่งพนักงานสอบสวนและแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ยิงปืนในที่สาธารณะ, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดประเภท 1 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวเขาเข้าห้องขังรวมที่สถานีตำรวจภูธรเขาพนม[16] เมื่อปลอดเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาได้ล็อกคอเพื่อนผู้ต้องขังคนหนึ่งแล้วจับหัวโขกพื้นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส[17] เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้ไม้ง่ามเพื่อควบคุมตัวของเขา แล้วนำตัวไปคุมขังที่ห้องขังเดี่ยว[18] โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านประกันตัวและขออนุมัติศาลจังหวัดกระบี่ฝากขังเพื่อฝากขังในวันที่ 7 กันยายน[19] ต่อมาในวันที่ 8 กันยายน เวลา 09.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวของธีรศักดิ์ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาเพื่อนำไปฝากขังที่แดนที่ 1 ของเรือนจำจังหวัดกระบี่ โดยแยกออกจากผู้ต้องขัง 8 คนซึ่งถูกจับกุมหลังจากขยายผลในคดีของเขา ตามการให้การออกเขาที่ให้การว่าเขาไปซื้อยาบ้าจากบุคคลกลุ่มดังกล่าว ระหว่างที่นำตัวของเขาออกจากห้องขัง เขามีสภาพอิดโรย เมื่อผู้สื่อข่าวได้พยามสอบถามเขาว่ามีอะไรจะพูด หรืออยากจะฝากอะไรถึงครอบครัวผู้เสียชีวิต เขาไม่ได้ตอบจนถูกนำตัวขึ้นรถ หลังจากที่ศาลปิดทำการเขาก็ถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดกระบี่[20] ในวันที่ 9 กันยายน ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดกระบี่เกี่ยวกับการควบคุมตัวของธีรศักดิ์ เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่า ธีรศักดิ์นอนสงบดี ไม่มีอาการโวยวายหรือหลอนใดๆ โดยถูกเจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงดูแลอยู่ในแดนที่ 1[21]

ปฎิกิริยาต่อคดีและการจับกุมอื่นๆหลังจากนั้น[แก้]

เหตุการณ์ดังกล่าวและคดีสะเทือนขวัญในจังหวัดกระบี่ซึ่งเกิดขึ้นภายใน 7 วันโดยยาเสพติดมีส่วนเกิดข้องกับการก่อคดี ทำให้เกิดเสียงเรียกร้องจากชาวบ้านในจังหวัดกระบี่ให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการจัดการปัญหายาเสพติดยิ่งขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันยาเสพติดมีราคาถูก และหาซื้อง่ายจนมีคนติดยาเสพติดเพิ่มขึ้น ซึ่งสร้างปัญหาให้สังคมหนักมากยิ่งขึ้นทุกวัน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้ออกปฎิบัติการณ์กวาดล้างยาเสพติด[22]

ในวันที่ 7 กันยายน พ.ศ 2565 สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมกับมอบหมายให้ทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกระบี่ประสานกับญาติผู้เสียชีวิตเพื่อแจ้งสิทธิตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ซึ่งจะเร่งพิจารณาให้ และได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้น สืบสวน ขยายผลและยึดทรัพย์เครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดกระบี่ทั้งหมดเพื่อตัดวงจรเครือข่ายค้ายาเสพติด และได้เชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันแจ้งเบาะแสยาเสพติด ที่สายด่วน ป.ป.ส.1386 โดยผู้แจ้งจะได้รับการคุมครองความปลอดภัยพร้อมกับข้อมูลทั้งหมดดจะถูกเก็บเป็นความลับและจะได้เงินรางวัลนำจับร้อยละ 5 จากทรัพย์สินที่ยึดได้[23]

ในวันที่ 8 กันยายน เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 8 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเขาพนมได้ปิดล้อม 4 เป้าหมายและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คนพร้อมกับยาบ้าจำนวนหนึ่ง[24] ในวันต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมหญิงชื่อว่าจารีย์ เนื่องจากธีรศักดิ์ได้ซัดทอดว่าก่อนก่อเหตุเขาซื้อยาบ้าจากจารีย์จึงจำนวน 10 เม็ด[25] ซึ่งการจับกุมจารีย์จะทำให้หลักฐานในคดีของธีรศักดิ์แน่นขึ้น[26] ในเวลา 10.00 น. ของวันเดียวกัน มะโน เครือแก้ว กำนันตำบลกระบี่น้อย พร้อมกับประชาชนจำนวน 200 คนได้เดินทางมารวมตัวกันหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่เพื่อยื่นหนังสือถึงพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้ดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี ผ่านทางพลเอกสมบัติ สืบท้วม รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกระบี่ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดอย่างเป็นระบบ และเห็นผลอย่างแท้จริง หลังจากเกิดคดีสะเทือนขวัญในจังหวัดกระบี่ถึง 3 คดี ในระยะเวลา 7 วัน โดยมีข้อเสนอให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ค้าและเสพติดยาเสพติดให้เด็ดขาด, ตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหายาเสพติดขึ้นมาเป็นพิเศษ และเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกกรณีโดยเด็ดขาด พลเอกสมบัติได้รับปากว่าจะเสนอไปยังพลเอกประวิตรโดยตรงและจะดำเนินการอย่างเร่งด่วน[27] วันที่ 14 กันยายน นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และพล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองอาสารักษาดินแดนเพื่อออกปฎิบัติการกวาดล้างยาเสพติด โดยขอหมายศาลเข้าตรวจค้น 60 จุด และสามารถจับกุมผู้เสพยาเสพติดและผู้ค้ายาเสพติดได้กว่า 100 คน[28] โดยผู้เสพจะถูกส่งไปบำบัด ส่วนผู้ค้าจะถูกส่งไปพิจารณาคดีต่อไป พุฒิพงศ์ยังได้กล่าวอีกว่า"การปราบปรามการก่ออาชญากรรม และยาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เนื่องจากจังหวัดกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว"[29]

การพิจารณาคดี และเสียชีวิต[แก้]

ศาลจังหวัดกระบี่ได้ตัดสินประหารชีวิตธีรศักดิ์ในปีพ.ศ. 2566 และเรือนจำจังหวัดกระบี่ได้ย้ายตัวของเขาไปยังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2566[30]

ต่อมาในปี พ.ศ. 2567 เขาติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ระหว่างการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรรมราช[31] เรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราชจึงส่งตัวของเขาไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ในช่วงเช้าของวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 เขาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชหลังจากอาการทรุดตัวลงประกอบกับอาการติดเชื้อในกระแสเลือด หลังจากนั้นญาติของเขาได้รับศพของเขากลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านของเขาใน ตำบลพรุเตียว อำเภอเขาพนม[32][33]

อ้างอิง[แก้]

  1. มือยิงนักเรียนดับ 3 ศพ เสียชีวิตในเรือนจำนาพรุ ป่วยไข้หวัดจนติดเชื้อในกระแสเลือด ญาติรับศพมาทำพิธีที่บ้าน
  2. เอาจริงเสียที
  3. ยาบ้าระบาดหนัก ไล่ไทม์ไลน์ 3 คดีฆาตกรรมสุดโหดรอบ 7 วันที่ "กระบี่"
  4. สารภาพหลอนยา! จับแล้ว เสี่ยร้านล้อแม็ก ยิงเด็ก ม.6 ดับ 3 ศพที่กระบี่
  5. คลั่งไม่เลิก! ‘ไอ้ต้อย’ อาละวาดทำร้ายผู้ต้องขัง ตร.จับแยกขังเดี่ยว ครอบครัวเด็กวอนประหารชีวิต
  6. อัปเดต! บุกจับ "เสี่ยต้อย" แล้ว ยิงดับ 3 ศพ นักเรียน ม.6 คาด ผตห. หลอนเสพยาบ้า
  7. แม่เด็ก ถูก “ไอ้ต้อย” ขับรถพุ่งชนเสียชีวิต ร่ำไห้! ลั่นแค่ขอโทษไม่ได้ ต้องชดใช้ เอาให้ตาย ประหารได้ยิ่งดี
  8. ด่วน! ตำรวจเขาพนม กระบี่ สนธิกำลังสืบสวนภาค 8 ปิดล้อมสยบ 'หนุ่มคลั่ง' มือปืนฆ่าอำมหิต กระหน่ำยิงนักเรียน 3 ศพ ที่แท้เจ้าของอู่-ลูกเศรษฐีในพื้นที่
  9. บีบใจยายบอกรัก "คิมหันต์" หน้าโลง นั่งลูบริสแบนด์แทนตัว ฉะไอ้คลั่งฆ่าดับฝันเป็นครู (คลิป)
  10. เก๋งดำโหด! ชน จยย.เด็กนักเรียน ชักปืนยิงดับ 3 ศพทิ้งข้างทางเผารถอำพรางคดี
  11. ภาพวงจรปิด คนร้ายซิ่งรถเร็วก่อนชนจยย.นักเรียน ม.6 คดีสะเทือนขวัญยิงดับ 3 ศพ
  12. จับเสี่ยต้อย เมายาบ้าฆ่า นร. 3 ศพ คลั่งยิงบ้านพรุน เมียบอกผัวเสพมาตลอด (คลิป)
  13. จับเสี่ยต้อย เมายาบ้าฆ่า นร. 3 ศพ คลั่งยิงบ้านพรุน เมียบอกผัวเสพมาตลอด (คลิป)
  14. อัปเดต! บุกจับ "เสี่ยต้อย" แล้ว ยิงดับ 3 ศพ นักเรียน ม.6 คาด ผตห. หลอนเสพยาบ้า
  15. อัปเดต สอบปากคำแม่-เมีย "ต้อย" คดียิงดับ 3 ศพ-เปิดประวัตินร.คุณภาพ เหยื่อทาสยานรก
  16. แจ้ง 5 ข้อหาหนักมือยิงนักเรียนดับ 3 ศพ
  17. เสี่ยต้อย’ พลิกลิ้น! ปัดไม่รู้ว่ายิงเด็กตาย 3 ศพ เกิดคลั่งทำร้ายผู้ต้องขังรายอื่น
  18. คลั่งไม่หยุด! แยกขัง “ไอ้ต้อย” มือสังหารนักเรียนดับ 3 ศพ หลังจับผู้ต้องหาอื่นหัวโขกพื้น
  19. คุมตัว ‘เสี่ยต้อย’ ฝากขัง ด้านป้ารุดเยี่ยม ยันตอนไม่คลั่งยาหลานชายเป็นคนดี
  20. เสี่ยต้อย 3 ศพคอตกเข้าคุก แม่น้องแพรเจอเหตุทำขนลุก เชื่อวิญญาณมาหาคู่แฝด
  21. ส่ง "ไอ้ต้อย" นอนคุกคืนแรก! "น้องน้ำฝน" นักเรียน 1 ในเหยื่อสิงร่างน้าร่ำไห้
  22. ยาบ้าระบาดหนัก ไล่ไทม์ไลน์ 3 คดีฆาตกรรมสุดโหดรอบ 7 วันที่ "กระบี่"
  23. "สมศักดิ์" สั่งเยียวยาครอบครัว 3 นักเรียน เหยื่อคมกระสุน "เสี่ยต้อย"
  24. ป.ป.ส.รับลูก ยธ.ปิดล้อมเครือข่ายค้ายาบ้าให้ "เสี่ยต้อย" 4 จุดที่กระบี่
  25. จับแล้วเอเยนต์สาวขายยาบ้าให้ "ไอ้ต้อย"
  26. จับแล้ว! เอเย่นต์ยาขายให้ "ไอ้ต้อย" มือยิงนักเรียน ม.6 เสียชีวิต 3 ศพ
  27. ชาวกระบี่ แต่งดำ ยื่น 3 ข้อเรียกร้อง จี้ "ลุงป้อม" แก้ปัญหายาเสพติดเร่งด่วน
  28. กันไว้ดีกว่าแก้
  29. ตื่นแล้ว! ผวจ.กระบี่ เปิดแผนปฏิบัติการลุยปราบยาเสพติด ค้นเป้าหมาย 60 จุด ขณะ “ไอ้ต้อย” ถูกขังเดี่ยว
  30. มือยิงโหดนักเรียนดับ 3 ศพ เสียชีวิตแล้วในเรือนจำ หลังป่วยไข้หวัดใหญ่
  31. "ไข้หวัดใหญ่" ระบาดเรือนจำนครศรีธรรมราช 3,442 คน ตาย 2 คน
  32. มือยิงนร.ดับ 3 ศพ ตายแล้วในเรือนจำนาพรุ หลังป่วยไข้หวัดจนติดเชื้อในกระแสเลือด
  33. มือยิงนักเรียนดับ 3 ศพ เสียชีวิตในเรือนจำนาพรุ ป่วยไข้หวัดจนติดเชื้อในกระแสเลือด ญาติรับศพมาทำพิธีที่บ้าน