ข้ามไปเนื้อหา

ซีเกิร์ด งูในดวงตา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ซีเกิร์ด งูในดวงตา
ภาพสลักใน ค.ศ. 1670
กษัตริย์ในตำนานของเดนมาร์ก
ครองราชย์ป. ค.ศ. 873?
ก่อนหน้าHalfdan Ragnarsson
ถัดไปHelge หรือ
Olaf the Brash
ประสูติศตวรรษที่ 9
ราชวงศ์Sigfredian
พระราชบิดารักนาร์ ล็อดบร็อค
พระราชมารดาÁslaug
ศาสนานอร์ส

ซีเกิร์ดงูในดวงตา (อังกฤษ: Sigurd Snake-in-the-eye; นอร์สเก่า: Sigurðr ormr í auga) เป็นนักรบไวกิงในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 9 สันนิษฐานกันว่าเป็นหนึ่งในบุตรชายของตำนานไวกิง รักนาร์ ล็อดบร็อค

ชีวิตช่วงแรก

[แก้]

"งูในดวงตา" ที่เป็นส่วนหนึ่งของชื่อของซิเกิร์ดได้มาจากการที่เขาเกิดมามีตำหนิในดวงตา ที่ถูกบรรยายไว้ว่าเป็นภาพของโอโรโบโรส (งูที่กำลังกัดหางของตัวเอง) ตำหนิรูปงูนั้นมาจากการทำนายของแม่ของเขา อาสเลาก์ บุตรสาวของแวลคีรี บรุนฮิลด์รา[1]

ในวัยเด็ก ซิเกิร์ดสนิทกับบิกาและติดตามรักนาร์ไปในการเดินทางสุดอันตรายผ่านรุสไปเฮลเลสปอนต์[2] ต่อมาว่ากันว่าเขาได้พักอาศัยอยู่ชั่วคราวเป็นเวลาหนึ่งในสกอตแลนด์กับเกาะของสกอตแลนด์

การตายของรักนาร์และกองทัพคนเถื่อนครั้งใหญ่

[แก้]

ตามแหล่งข้อมูลส่วนใหญ่ พระเจ้าเอลลาแห่งนอร์ธัมเบรียฆ่ารักนาร์ ลอดบรอก ในราวปี ค.ศ. 865 โดยโยนเขาลงไปในบ่องู ซิเกิร์ดกับพี่น้องได้รับแจ้งข่าวของบิดาจากทูตที่เอลลาส่งมา เมื่อทราบข่าว ซิเกิร์ดกรีดเนื้อตัวเองจนถึงกระดูกด้วยมีดที่ถืออยู่ในมือ พี่น้องชายของเขา บยอร์นผู้ทนทานกำหอกแน่นจนไม้เป็นรอยนิ้ว ซิเกิร์ดกับพี่น้องชายของเขาสาบานว่าจะแก้แค้นให้กับการตายของรักนาร์

ในปี ค.ศ. 866 เหล่าพี่น้องชายข้ามทะเลเหนือไปพร้อมกับ สตัวร์ แฮร์ (store hær) หรือกองทัพใหญ่ บันทึกโบราณอ้างว่าการโจมตีเอลลาครั้งแรกล้มเหลว พี่น้องชายของซิเกิร์ด อิวาร์ผู้ไร้กระดูก คิดค้นยุทธวิธีใหม่ขึ้นมาให้กองทัพคนเถื่อนครั้งใหญ่บุกยึดยอร์ก เพื่อยั่วยุเอลลาให้มาสู้รบตามแบบชาวไวกิง ภายใต้แผนการของอิวาร์ ชาวไวกิงแสร้งทำเป็นถอย ทำให้เอลลาประเมินสถานการณ์ต่ำไปจนถูกล้อม ตาม ตำนานเรื่องเล่าของบุตรชายแห่งรักนาร์ (ส่วนหนึ่งของตำนานวีรชนของรักนาร์ ลอดบรอก) เอลลาถูกจับเป็นและถูกประหารหลังจากนั้นด้วยวิธีอินทรีเลือด

ลูกหลานของซีเกิร์ด

[แก้]

ตำนานเรื่องเล่าของบุตรชายแห่งรักนาร์ กล่าวว่าเมื่อบิดาตาย ซิเกิร์ดสืบทอดต่อซีแลนด์, สแกเนีย, ฮัลแลนด์, เกาะของเดนมาร์ก และวิเกน ต่อมาเขาสืบทอดต่อจากพี่น้องชายของตน ฮาล์ฟดัน รักนาร์สสัน เป็นกษัตริย์แห่งเดนมาร์กในราวปี ค.ศ. 877 ซีเกิร์ดแต่งงานกับบลายยา บุตรสาวของพระเจ้าเอลลาแห่งนอร์ธัมเบรียและทั้งคู่มีลูกด้วยกันสี่คน คือ แอลอฟ ซีเกิร์ดทาดัทเทียร์, โทรา ซีเกิร์ดทาดัทเทียร์, แอสเลาก์ ซีเกิร์ดทาดัทเทียร์ และเฮลกี ซีเกิร์ดทาสสัน

เฮลกีอาจสืบทอดต่อจากบิดาเป็นกษัตริย์แห่งเดนมาร์กในช่วงสั้นๆ ก่อนถูกล้มล้างอำนาจโดยโอลาฟจอมไร้ยางอายในราวปี ค.ศ. 900[3] โอลาฟถูกสืบทอดต่อโดยบุตรชาย เกิร์ดกับกนุปา และหลานชาย ซิกทริกก์ กนุปาสสัน

ตำนานเรื่องเล่าของบุตรชายแห่งรักนาร์ยังกล่าวด้วยว่ากษัตริย์เดนมาร์ก ฮาร์ธาคานุต เป็นบุตรชายของซิเกิร์ด ฮาร์ธาคนุตสืบทอดต่อจากซิกทริกก์ กนุปาสสัน เป็นกษัตริย์แห่งซีแลนด์, สแกเนีย และฮัลแลนด์ ในราวปี ค.ศ. 916 แต่เสียวิเกน (ออสโลฟยอด) ไป เขาเป็นบิดาของกอร์มผู้ขรา กษัตริย์แห่งเดนมาร์ก กอร์มสืบทอดต่อจากบิดาเป็นกษัตริย์และแต่งงานกับธีรา

บุตรชายของกอร์ม ฮารัลด์ฟันสีฟ้า สืบทอดต่อจากบิดาเป็นกษัตริย์และแต่งงาน อาจจะสามครั้ง กับกุลฮิลด์, โทฟ และเกียริด ฮารัลด์มีบุตรชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่าสเวนเคราส้อม สเวนสืบทอดต่อจากบิดาเป็นกษัตริย์และแต่งงานกับกุนฮิลด์ ทั้งคู่มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนมีชื่อว่าคนุตมหาราช สเวนยังปกครองอังกฤษในช่วงหนึ่งของชีวิตและสถาปนาจักรวรรดิเดนมาร์กขึ้นมา เมื่อสเวนตาย บุตรชายคนโต ฮารัลด์ สเวนด์สัน กลายเป็นกษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ขณะที่อดีตกษัตริย์อังกฤษ เอเธเรด อ้างสิทธิ์ในบัลลังก์อีกครั้ง หลังการตายของแฮโรลด พี่น้องชายของคนุตมหาราชกลายเป็นกษัตริย์ สถาปนาจักรวรรดิทะเลเหนือของชาวเดนิชขึ้นมาใหม่

อ้างอิง

[แก้]
  1. Jurich, Marilyn (1998). Scheherazade's Sisters: Trickster Heroines and their Stories in World Literature. Westport, Conn.: Greenwood Press. p. 160. ISBN 978-0-31329-724-3.
  2. The Danish History of Saxo Grammaticus, Book 9[1]
  3. Bent Østergaard (1994), "Sven Estridsens danmarkshistorie. Danmarks politiske historie ca. 890-965", Jyske samlinger [2]