จิมมี ดูลิตเติล
เจมส์ ดูลิตเติล | |
---|---|
ชื่อเล่น | "จิมมี่" |
เกิด | 14 ธันวาคม ค.ศ. 1896 Alameda, รัฐแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐ |
เสียชีวิต | 27 กันยายน ค.ศ. 1993 Pebble Beach, รัฐแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐ | (96 ปี)
สุสาน | |
รับใช้ | United States |
แผนก/ | Aviation Section, U.S. Signal Corps (1917–18) United States Army Air Service (1918–26) United States Army Air Corps (1926–41) กองทัพอากาศทหารบกสหรัฐ (1941–47) กองทัพอากาศสหรัฐ (1947–59) |
ประจำการ | 1917–1959 |
ชั้นยศ | นายพล |
บังคับบัญชา | กองทัพอากาศที่ 8 กองทัพอากาศที่ 15 กองทัพอากาศที่ 12 |
การยุทธ์ | ประจำการในชายแดนแม็กซิโก สงครามโลกครั้งที่สอง |
บำเหน็จ | มีเดล ออฟ ฮอนเนอร์ Army Distinguished Service Medal (2) Silver Star Distinguished Flying Cross (3) Bronze Star Medal Air Medal (4) เหรียญอิสรภาพประธานาธิบดี |
คู่สมรส | Josephine Daniels (สมรส 1917; เสียชีวิต 1988) |
งานอื่น | Shell Oil, VP, director Space Technology Laboratories, chairman |
พลอากาศเอก เจมส์ แฮโรลด์ ดูลิตเติล (14 ธันวาคม 1896 – 27 กันยายน 1993) เป็นชาวอเมริกันที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายพลและผู้บุกเบิกการบิน เขาได้ทำการบินเที่ยวครั้งแรกจากชายฝั่งสู่ชายฝั่ง ทำให้ได้รับรางวัลการแข่งขันการบินจำนวนมาก และช่วยพัฒนาเครื่องมือในการบินอีกด้วย[1]
ดูลิตเติลได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ได้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในปี ค.ศ. 1922 และได้รับปริญญาเอกในด้านการบินจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์(M.I.T) ในปี ค.ศ. 1925[1][2] เข้าได้เป็นครูฝึกสอนการบินในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและเจ้าหน้าที่นายทหารสำรองในกองบินอากาศทหารบกสหรัฐ แต่เขากลับถูกเรียกตัวกลับเข้าประจำการในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เขาได้รับเหรียญมีเดล ออฟ ฮอนเนอร์ สำหรับความกล้าหาญและความเป็นผู้นำในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการของการตีโฉบฉวยดูลิตเติล การโจมตีทางอากาศในระยะทางไกลที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญบนเกาะญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่ เมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1942 สี่เดือนให้หลังการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ การโจมตีครั้งนี้เป็นการสร้างขวัญกำลังใจที่สำคัญของสหรัฐและดูลิตเติลก็ได้มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะวีรบุรุษ
เขาได้รับเลื่อนตำแหน่งยศเป็นพลโทและบังคับบัญชากองทัพอากาศที่ 12 ในทวีปแอฟริกา กองทัพอากาศที่ 15 ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและกองทัพอากาศที่ 8 เหนือทวีปยุโรป หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เขาได้ลาออกจากกองทัพอากาศแต่ยังคงทำงานอยู่ในวิชาการช่างด้านต่างๆมากมาย และในที่สุดก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งยศเป็นนายพล(ระดับ 4 ดาว)ภายหลังจากได้รับการเกษียณอายุ[3]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "GENERAL JAMES HAROLD DOOLITTLE > U.S. Air Force > Biography Display". www.af.mil. สืบค้นเมื่อ 2019-07-06.
- ↑ "Gen. Jimmy Doolittle Dies; War Hero, Aviation Pioneer : Flight: The celebrated ace, who grew up on the L.A. streets, was 96. He led daring 1942 Tokyo bombing raid". Los Angeles Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 1993-09-28. ISSN 0458-3035. สืบค้นเมื่อ 2019-07-06.
- ↑ "Jimmy Doolittle Given Fourth Star by Reagan". Associated Press. June 14, 1985 – โดยทาง LA Times.
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2439
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2536
- ทหารบกชาวอเมริกัน
- บุคคลจากรัฐแคลิฟอร์เนีย
- ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์
- ศิษย์เก่าจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์
- นักบินตีโฉบฉวยดูลิตเติล
- นักบินทหารบก
- นักบินทหารชาวอเมริกัน
- นักบินในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
- นักบินในสงครามโลกครั้งที่สอง
- นักบินทิ้งระเบิดในสงครามโลกครั้งที่สอง
- ทหารชาวอเมริกันในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
- ทหารชาวอเมริกันในสงครามโลกครั้งที่สอง
- นายพลทหารอากาศ
- นายพลในสงครามโลกครั้งที่สอง