จักรพรรดินีเหวย์
จักรพรรดินีเหวย์ | |
---|---|
สวรรคต | 21 กรกฎาคม ค.ศ. 710 |
พระสวามี | จักรพรรดิถังจงจง (唐中宗) |
พระราชบุตร |
|
พระราชบิดา | เหวย์ เสฺวียนเจิน (韋玄貞) |
พระราชมารดา | นางชุย (崔氏) |
จักรพรรดินีเหวย์ (จีนตัวย่อ: 韦皇后; จีนตัวเต็ม: 韋皇后; พินอิน: Wéi Huánghòu) ชื่อตัวไม่ทราบ เป็นฮองเฮา (皇后) แห่งราชวงศ์ถังของประเทศจีน เป็นมเหสีองค์ที่สองของจักรพรรดิถังจงจง (唐中宗) ซึ่งครองราชย์สองครั้ง เมื่อถังจงจงสิ้นพระชนม์โดยร่ำลือกันว่า เป็นผลมาจากการวางยาขอพระนางเหวย์ และองค์หญิงอันเล่อ (安樂公主) ผู้เป็นธิดา พระนางเหวย์ก็ยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินและพยายามขึ้นเป็นกษัตริย์หญิงทำนองเดียวกับพระนางอู่ เจ๋อเทียน (武則天) ผู้เป็นแม่ผัว แต่ไม่สำเร็จ ในไม่ช้า องค์หญิงไท่ผิง (太平公主) น้องสาวของถังจงจง และหลี่ หลงจี (李隆基) หลานชายของถังจงจง รวมกำลังกันมาปราบปราม พระนางเหวย์ถูกทหารตัดศีรษะสิ้นพระชนม์
ชายารัชทายาท
[แก้]พระนางเหวย์เกิดเมื่อไรไม่แน่ชัด แต่ปรากฏว่า เหวย์ หงเปี่ยว (韋弘表) ซึ่งเป็นปู่หรือตาของพระนาง รับราชการเป็นที่ปรึกษากลาโหมของหลี่ หมิง (李明) โอรสจักรพรรดิถังไท่จง และรัชทายาทหลี่ เจ๋อ (李哲) ซึ่งต่อมาคือ จักรพรรดิถังจงจง รับพระนางเหวย์เป็นมเหสีองค์ที่สอง หลังจากมเหสีองค์แรก คือ องค์หญิงจ้าว (趙公主) ถูกประหารด้วยการบังคับอดอาหารจนตาย เพราะมารดาขององค์หญิงจ้าวหลบหลู่พระนางอู่ เจ๋อเทียน ผู้เป็นมารดาของหลี่ เจ๋อ
ในคราวที่หลี่ เจ๋อ สมรสกับพระนางเหวย์นั้น บิดาของหลี่ เจ๋อ คือ จักรพรรดิถังเกาจง จึงเลื่อนตำแหน่งให้เหวย์ เสฺวียนเจิน (韋玄貞) บิดาของพระนางเหวย์ จากที่ปรึกษากลาโหมประจำเมืองผู่ (普州) ปัจจุบันอยู่แถบเมืองจือหยาง (資陽) มณฑลซื่อชวน (四川省) ขึ้นเป็นเจ้าเมืองอฺวี้ (豫州) ซึ่งปัจจุบันอยู่แถบเมืองจู้หม่าเตี้ยน (駐馬店) มณฑลเหอหนาน (河南省)[1]
ครั้น ค.ศ. 682 พระนางเหวย์ให้กำเนิดโอรส คือ หลี่ ฉงจ้าว (李重照) ซึ่งภายเปลี่ยนชื่อเป็น หลี่ ฉงรุ่น (李重潤) ทั้งให้กำเนิดธิดาซึ่งภายหลังได้เป็นองค์หญิงฉางหนิง (長寧公主) และธิดาอีกองค์นามว่า หลี่ เซียนฮุ่ย (李仙蕙)
ขึ้นเป็นจักรพรรดินี
[แก้]ปลาย ค.ศ. 683 จักรพรรดิถังเกาจงสิ้นพระชนม์ รัชทายาทหลี่ เจ๋อ สวามีของพระนางเหวย์ จึงสืบบัลลังก์และเป็นที่รู้จักในประวัติศาสตร์ด้วยพระนาม ถังจงจง อย่างไรก็ดี ผู้กุมอำนาจการเมืองแท้จริงกลับเป็นพระนางอู่ เจ๋อเทียน มารดาของหลี่ เจ๋อ ซึ่งดำรงยศพระพันปี (皇太后)
ครั้นฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 684 หลี่ เจ๋อ สถาปนาพระนางเหวย์ผู้ชายาขึ้นเป็นจักรพรรดินี และต้องการจะเลื่อนเหวย์ เสฺวียนเจิน บิดาของพระนาง ขึ้นเป็นชื่อจง (侍中) เจ้ากรมตรวจการแผ่นดิน (門下省) พร้อมกับตั้งบุตรของนางนมขึ้นเป็นข้าราชการขั้นห้า แต่อัครมหาเสนาบดีเผย์ หยัน (裴炎) คัดค้านเสียงแข็ง หลี่ เจ๋อ พิโรธนัก ตรัสว่า
จะผิดอะไรนักหนา ข้าจะยกบ้านเมืองให้เหวย์ เสฺวียนเจิน ก็ยังได้ เรื่องชื่อจงนั้นเจ้าจะสนใจไปไย
(What would be wrong even if I gave the empire to Wei Xuanzhen? Why do you care about Shizhong so much?)
เผย์ หยัน เป็นกังวลนัก กราบทูลพระนางอู่ เจ๋อเทียน อู่ เจ๋อเทียน เรียกประชุมข้าราชการทหารพลเรือน แล้วให้ถอดหลี่ เจ๋อ ผู้เป็นโอรสของตัว ออกจากราชสมบัติ ลดยศเป็น หลูหลิงหวัง (廬陵王) หรือ องค์ชายแห่งหลูหลิง ให้ถอดหลี่ ฉงจ้าว บุตรของหลี่ เจ๋อ ซึ่งถังเกาจงตั้งเป็นรองรัชทายาทนั้น เป็นสามัญชน ให้ถอดเหวย์ เสฺวียนเจิน บิดาของพระนางเหวย์ เป็นสามัญชน และให้ตั้งโอรสองค์รองของตัว คือ หลี่ ต้าน (李旦) ขึ้นเป็นจักรพรรดิ เป็นที่รู้จักด้วยพระนาม ถังรุ่ยจง (唐睿宗) แล้วให้ขับเหวย์ เสฺวียนเจิน พร้อมครอบครัว ไปอยู่เมืองชิน (欽州) ปัจจุบันอยู่แถบเมืองชินโจว (钦州市) เขตกวั่งซีจวั้ง (广西壮) กับให้ขับหลี่ เจ๋อ พร้อมครอบครัว ไปยังเมืองฝาง (房州) ปัจจุบันอยู่ในเมืองฉือยั่น (十堰) มณฑลหูเป่ย์ (湖北省) ภายหลังให้ส่งไปไว้เมืองจฺวิน (均州) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเมืองฉือยั่นเช่นกัน
ชีวิตระหว่างเนรเทศ
[แก้]การถูกขับจากพระนครลั่วหยาง (洛阳市) ไปยังเมืองฝางนั้น ทำให้หลี่ เจ๋อ มีชีวิตอยู่ในความหวาดกลัวตลอดมา เพราะปรากฏว่า พระนางอู่ เจ่อเทียน ผู้เป็นมารดา กระทำได้แม้กระทั่งสังหารโอรสธิดาของตัว โดยวางยาฆ่าหลี่ หง (李弘) พี่ชายของหลี่ เจ่อ ใน ค.ศ. 675 และบีบให้หลี่ เสียน (李賢) พี่ชายอีกคนของหลี่ เจ๋อ ปลิดชีวิตตนเองใน ค.ศ. 684 ด้วยเหตุนี้ ยามใดที่มีราชสารจากพระนครมาถึง หลี่ เจ๋อ มักหวาดวิตกว่า จะเป็นพระเสาวนีย์สั่งประหารตน จนอยากจะฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอดอยู่เนือง ๆ แต่พระนางเหวย์ผู้เป็นชายาห้ามปรามว่า
สุขทุกข์เพราะกรรม กังวลไปไย วันหนึ่งก็ตาย ด่วนคิดสั้นทำไม
(祸福倚伏,何常之有?岂失一死,何遽如是也!)
ความที่พระนางเหวย์ชายาคู่ใจคอยเคียงข้างเสมอนั้น ทำให้หลี่ เจ๋อ รักและเคารพพระนางเหวย์มาก ครั้งหนึ่ง ตรัสกับพระนางว่า
ถ้าข้ามีวาสนาได้เห็นแสงเดือนแสงตะวันอีกครั้ง เจ้าปรารถนาสิ่งไร ข้าจะไม่ห้ามเลย
(異時幸復見天日,當惟卿所欲,不相禁禦)
ในระหว่างถูกเนรเทศนี้ พระนางเหวย์ให้กำเนิดธิดาอีกองค์ คือ หลี่ กั่วเอ๋อร์ (李裹兒) ชื่อ "กั่วเอ๋อร์" แปลว่า ทารกในห่อ เพราะหลี่ เจ๋อ ถอดเสื้อของตนออกออกห่อหุ้มทารกหลี่ กั่วเอ๋อร์ เมื่อแรกคลอด
ช่วงที่หลี่ เจ่อ และพระนางเหวย์ ถูกเนรเทศ เหวย์ เสฺวียนเจิน บิดาของพระนาง ซึ่งถูกขับพร้อมครอบครัวไปเมืองชินนั้น ได้ถึงแก่กรรม หนิง เฉิงจี (寧承基) หัวหน้าชนเผ่าในท้องถิ่น จึงมาจับตัวน้องสาวของพระนางเหวย์ไปเป็นเมีย แต่นางชุย (崔氏) ภริยาของเหวย์ เสฺวียนเจิน และมารดาของพระนางเหวย์ ไม่ยอมให้ไป หนิง เฉิงจี จึงฆ่านางชุย และบุตรชายทั้งสี่ คือ เหวย์ สฺวิน (韋洵), เหวย์ เฮ่า (韋浩), เหวย์ ต้ง (韋洞), และเหวย์ ฉื่อ (韋泚) เสียสิ้น
ใน ค.ศ. 690 พระนางอู่ เจ๋อเทียน บีบให้ถังรุ่ยจงหลี่ ต้าน สละราชสมบัติให้ตน แล้วขึ้นเสวยราชย์เป็นกษัตริย์หญิง ตั้งราชวงศ์ใหม่ คือ ราชวงศ์โจว (周朝) ทำให้ราชวงศ์ถัง (唐朝) ของสกุลหลี่ (李) ขาดตอน อู่ เจ๋อเทียน ตั้งหลี่ ต้าน เป็นรัชทายาทของตน แต่มักระแวงว่า หลี่ ต้าน คิดล้มล้างตน ใน ค.ศ. 693 จึงประหารองค์หญิงหลิว (劉公主) ชายาของหลี่ ต้าน แล้วให้จับหลี่ ต้าน ไปไต่สวน มาเลิกไต่สวนเอาเมื่ออัน จินฉาง (安金藏) ข้ารับใช้ของหลี่ ต้าน คว้านท้องตนเองออกสาบานว่า หลี่ ต้าน จงรักภักดี แต่แม้กระนั้น อู่ เจ่อเทียน ก็คอยหาเหตุเอาสกุลหลี่ออกจากตำแหน่งรัชทายาท เพื่อตั้งหลานของตน เช่น อู่ เฉิงซื่อ (武承嗣) และอู่ ซานซือ (武三思) ขึ้นเป็นแทนอยู่เสมอ
ครั้น ค.ศ. 698 อัครมหาเสนาบดีตี๋ เหรินเจี๋ย (狄仁傑) กราบทูลอู่ เจ๋อเทียน ให้หนุน "ลูก" ไม่ใช่ "หลาน" เสนาบดีคนอื่น ๆ เช่น หวัง ฟางชิ่ง (王方慶) และหวัง จี๋ช่าน (王及善) ตลอดจนสองจาง (張) ผู้เป็นชายชู้ของอู่ เจ๋อเทียน คือ จาง อี้จือ (張易之) และจาง ชางจง (張昌宗) ก็สนับสนุนความคิดนี้ พร้อมเสนอให้เรียกหลี่ เจ๋อ กับครอบครัว กลับคืนพระนคร ฉะนั้น ในฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 698 อู่ เจ่อเทียน จึงมีพระเสาวนีย์ให้หลี่ เจ๋อ และครอบครัว กลับพระนครลั่วหยาง
อ้างอิง
[แก้]- ↑ This is per the Old Book of Tang, vol. 51."Archived copy". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-11. สืบค้นเมื่อ 2007-03-30.
{{cite web}}
: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์) However, according to the Zizhi Tongjian, vol. 203, this promotion took place after Li Zhe took the throne as emperor in 684.