ความเปราะบางของกลุ่มเยาวชนแอลจีบีที

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บางรัฐในสหรัฐได้บังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมการระรานภายในโรงเรียน
  กฎหมายว่าด้วยการห้ามเลือกปฏิบัติต่อนักเรียนเนื่องจากรสนิยมทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ
  กฎระเบียบของโรงเรียนหรือหลักจริยธรรมสำหรับครูที่กล่าวถึงการเลือกปฏิบัติและ/หรือการระรานนักเรียนเนื่องจากรสนิยมทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ
  กฎหมายว่าด้วยการห้ามเลือกปฏิบัติต่อนักเรียนจากรสนิยมทางเพศเท่านั้น
  กฎระเบียบของโรงเรียนหรือหลักจริยธรรมสำหรับครูที่กล่าวถึงการเลือกปฏิบัติและ/หรือการรังแกนักเรียนเนื่องจากรสนิยมทางเพศเท่านั้น
  กฎหมายว่าด้วยการห้ามระรานนักเรียนจากรสนิยมทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ
  กฎหมายว่าด้วยการห้ามไม่ให้โรงเรียนในท้องถิ่นมีนโยบายต่อต้านการระรานที่ระบุชั้นเรียนของนักเรียนที่ได้รับการคุ้มครอง
  กฎหมายว่าด้วยการห้ามการระรานกันในโรงเรียนแต่ไม่มีภาคการคุ้มครอง
  ไม่มีการบัญญัติกฎหมายทั้งรัฐว่าด้วยการห้ามการระรานกันในโรงเรียนโดยเฉพาะ

ความเปราะบางของกลุ่มเยาวชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ เป็นอัตราที่เพิ่มมากขึ้นช่องโหว่ทางสังคมในกลุ่มเยาวชนอย่างเลสเบียน, เกย์, รักร่วมสองเพศ, และกะเทย (แอลจีบีที) เมื่อเปรียบกับกลุ่มรักต่างเพศ เนื่องจากอัตราช่องโหว่ที่เพิ่มขึ้นนี้ จึงมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดในความเสี่ยงทางกายภาพและจิตใจเกี่ยวเนื่องกับปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของเยาวชนแอลจีบีทีเมื่อเทียบกับปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของเยาวชนรักต่างเพศ เยาวชนกลุ่มแอลจีบีทีต่างประสบกับปัญหาเพิ่มมากขึ้น ทั้งการใช้ความรุนแรงและการระราน เนื่องด้วยจากรสนิยมทางเพศ, การระบุอัตลักษณ์, และการขาดพลังขับเคลื่อนทางสังคมต่อกลุ่มเยาวชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ

เยาวชนผู้มีความหลากหลายทางเพศต้องเผชิญกับความเครียดหลายอย่างที่ส่งผลต่อสุขภาพจิต เนื่องจากแนวโน้มของสังคมในการเลือกปฏิบัติต่อรสนิยมและอัตลักษณ์ทางเพศที่ไม่ใช่รักต่างเพศ กลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศจึงมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความผิดปกติทางจิตมากขึ้นถึง 3 เท่า[1] อย่างอาการกลัวอย่างต่อเนื่องที่จะไม่ได้รับการยอมรับหลังจากรสนิยมทางเพศ ซึ่งสามารถนำไปสู่โรควิตกกังวล, โรคซึมเศร้า, พีทีเอสดี, ความคิดกระทำอัตวินิตบาตกรรม, หรือการใช้สารเสพติด[1] พันธมิตรเพื่อการเจ็บปวดทางจิตใจแห่งชาติ (NAMI) ระบุว่า วัยรุ่นผู้มีความหลากหลายทางเพศ "มีแนวโน้มที่จะมีอาการซึมเศร้ามากกว่าเพื่อนต่างเพศถึง 6 เท่า เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นเพิ่งเริ่มหาวิธีที่จะออกไปหาเพื่อน ครอบครัว และผู้ร่วมงานในขณะที่ยังเติบโตเป็นผู้ใหญ่[1]

จากการสำรวจพบว่าร้อยละ 10 ของนักเรียนแอลจีบีทีถูกข่มขู่ด้วยอาวุธจากทรัพย์สินของโรงเรียน ร้อยละ 34 ถูกรังแกที่โรงเรียน ร้อยละ 28 ถูกรังแกทางอิเล็กทรอนิกส์[2] และร้อยละ 18 มีประสบการณ์ความรุนแรงจากการออกหาคู่ทางร่างกาย[3] อีกร้อยละ 18 ถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ในบางจังหวะ[3] ผลสำรวจชี้ให้เห็นถึงความเปราะบางของนักเรียนแอลจีบีที อย่างไรก็ตาม นักเรียนประมาณ 514,000 คนที่รวมอยู่ในแบบสำรวจไม่แน่ใจใน "อัตลักษณ์ทางเพศ" ของตัวเอง[4] จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐ มีสองสิ่งที่โรงเรียนสามารถทำได้เพื่อช่วยให้โรงเรียนกลายเป็นสถานที่สบายใจสำหรับเด็กทุกคน และวิธีเหล่านั้นคือ: ส่งเสริมความเคารพซึ่งกันและกันต่อเด็กทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนเชื้อชาติใด หรือรสนิยมทางเพศ และห้ามการระราน การคุกคาม หรือความรุนแรง จากนั้นระบุ "สถานที่ปลอดภัย" ในโรงเรียนสำหรับนักเรียน เช่น สถานปรึกษาหรือห้องเรียนที่กำหนดเพื่อการปรึกษา ซึ่งนักเรียนในชุมชนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศสามารถรับการสนับสนุนและรู้สึกปลอดภัย และตรวจสอบให้แน่ใจว่าหลักสูตรสุขภาพและเพศศึกษาเป็นปัจจุบันเกี่ยวกับชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ ประกอบด้วยข้อมูลการป้องกันเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ที่เกี่ยวข้องต่อนักเรียน[2]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 "LGBTQ". National Alliance on Mental Health.
  2. 2.0 2.1 "LGBT Youth | Lesbian, Gay, Bisexual, and Transgender Health | CDC". www.cdc.gov (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2018-11-19. สืบค้นเมื่อ 2020-10-26.
  3. 3.0 3.1 "LGBT Youth: Lesbian, Gay, Bisexual, and Transgender Health". www.cdc.gov. Centers for Disease Control. 2018-02-06. สืบค้นเมื่อ 2018-04-06.
  4. Kann L, Olsen EO, McManus T, Harris WA, Shanklin SL, Flint KH, Queen B, Lowry R, Chyen D, Whittle L, Thornton J, Lim C, Yamakawa Y, Brener N, Zaza S (August 2016). "Sexual Identity, Sex of Sexual Contacts, and Health-Related Behaviors Among Students in Grades 9-12 - United States and Selected Sites, 2015". MMWR. Surveillance Summaries. 65 (9): 1–202. doi:10.15585/mmwr.ss6509a1. PMID 27513843.