ความคลาดไซเดิล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ความคลาดไซเดิล (Seidel aberration)[1][2][3][4][5] คือความคลาดแบบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในทางทัศนศาสตร์ เช่น การเบลอและการบิดเบี้ยว ที่เกิดขึ้นเมื่อภาพถูกสร้างขึ้นด้วยเลนส์ หรือกระจกเงา โดยในที่นี้ไม่รวมถึง ความคลาดสี แต่จะว่าด้วยความคลาดที่เกิดขึ้นกับแสงที่มีความยาวคลื่นเดียว สามารถอธิบายได้ว่าเป็นความคลาดที่เกิดจากพจน์อันดับสามในการคำนวณโดยประมาณ ตั้งชื่อตามนักวิจัย ชาวเยอรมัน ฟิลลิพ ลูทวิช ฟ็อน ไซเดิล ในศตวรรษที่ 19 อาจเรียกอีกอย่างว่า ความคลาดทั้ง 5 ของไซเดิล เพราะแบ่งเป็น 5 ประเภท

ชนิด[แก้]

ความคลาดไซเดิลมี 5 ประเภท ได้แก่

ความคลาดทรงกลม
ความคลาดที่ลำแสงซึ่งมีแหล่งกำเนิดแสงเป็นจุดในระบบเชิงแสงเกิดการกระจายตวไม่มาบรรจบกันที่จุดโฟกัสจุดเดียวหลังจากผ่านระบบเชิงแสง
ความคลาดแบบโคมา
ความคลาดที่แสงที่ปล่อยออกมาจากแหล่งกำเนิดแสงนอกแกนเชิงแสงไม่บรรจบกันที่จุดเดียวบนระนาบภาพ
ความคลาดเอียง
ความคลาดที่ความยาวโฟกัสของแสงที่ปล่อยออกมาจากแหล่งกำเนิดแสงจุดหนึ่งนอกแกนเชิงแสงจะเปลี่ยนไปตามทิศทางตามแนวรัศมีและแนวเส้นรอบวงเลนส์
ความโค้งสนาม
ความคลาดที่ระนาบโฟกัสขนานกับเลนส์ไม่สอดคล้องกันจากระนาบหนึ่งไปอีกระนาบที่ด้านหน้าและด้านหลังของเลนส์
ความผิดรูป
ความคลาดที่พบเมื่อมองวัตถุที่ควรจะเป็นตารางแต่กลับปรากฏว่าเป็นตารางอย่างที่ควรจะเป็น

ความคลาดทั้งหมดนี้มักเกิดขึ้นได้พร้อมกัน นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกัน เช่น ความแตกต่างของระดับความโค้งสนามระหว่างภาพ M และภาพ S ซึ่งปรากฏเป็นความคลาดเอียง ความคลาดเหล่านี้ปรากฏขึ้นในค่าสัมประสิทธิ์ของพจน์กำลังสามที่ได้จากการกระจายเทย์เลอร์ของ sin (โดยที่ เป็นมุมตกกระทบของลำแสงบนผิวเลนส์) เมื่อหาเส้นทางเดินแสงโดยใช้กฎของสแน็ล ด้วยเหตุผลนี้ จึงอาจถูกเรียกอีกอย่างว่า ความคลาดอันดับสาม

ความคลาดของไซเดิลเป็นวิธีการจำแนกประเภทตามทัศนศาสตร์เชิงเรขาคณิต แต่ความคลาดนั้นยังอธิบายได้ว่าเป็นความคลาดของหน้าคลื่นในทัศนศาสตร์คลื่น

อ้างอิง[แก้]

  1. 応用物理学会光学懇話会;「幾何光学(POD版)」森北出版(2003)
  2. 久保田 広;「応用光学(POD版)」岩波書店(2000)
  3. 工藤 恵栄、上原 富美;「基礎光学」現代光学社(1990)
  4. 左貝 潤一;「光学の基礎」コロナ社(1997)
  5. 大坪 順次;「光入門」コロナ社(2002)