ลูกัส เปเรซ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ลูกัส เปเรซ
ลูกัสกับคาร์ปาตีลวิวใน ค.ศ. 2011
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ลูกัส เปเรซ มาร์ติเนซ
วันเกิด (1988-09-10) 10 กันยายน ค.ศ. 1988 (35 ปี)
สถานที่เกิด อาโกรุญญา สเปน
ส่วนสูง 1.81 m (5 ft 11 12 in)
ตำแหน่ง กองหน้า
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
อาลาเบส
หมายเลข 7
สโมสรเยาวชน
อาลาเบส
มอนเตเนรอส
ออร์เดเนส
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2007–2009 อัตเลติโกเดมาดริด เซ 55 (18)
2009–2011 ราโยบาเยกาโน เบ 44 (25)
2010–2011 ราโยบาเยกาโน 7 (1)
2011–2013 คาร์ปาตีลวิว 51 (14)
2013ดีนาโมคียิว (ยืมตัว) 0 (0)
2013–2015 ปาโอก 32 (9)
2014–2015เดปอร์ติโบลาโกรุญญา (ยืมตัว) 21 (6)
2015–2016 เดปอร์ติโบลาโกรุญญา 37 (18)
2016–2018 อาร์เซนอล 11 (1)
2017เดปอร์ติโบลาโกรุญญา (ยืมตัว) 35 (8)
2018–2019 เวสต์แฮมยูไนเต็ด 15 (3)
2019– อาลาเบส 62 (15)
2021– เอลเช 12 (2)
ทีมชาติ
2016– กาลิเซีย 1 (0)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2019
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2016

ลูกัส เปเรซ มาร์ติเนซ (สเปน: Lucas Pérez Martínez; เกิด 10 กันยายน ค.ศ. 1988) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า ลูกัส (Lucas) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้าให้กับเอลเช สโมสรในลาลิกา

เปเรซเคยเล่นให้กับหลายสโมสรมาก่อน ทั้งอาลาเบส, อัตเลติโกเดมาดริด และราโยบาเยกาโน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งอายุ 23 ปี ได้ย้ายไปคาร์ปาตีลวิว ในยูเครน รวมถึงดีนาโมคียิว แต่ก็ยังคงไม่ประสบความสำเร็จ จนได้ย้ายไปยังปาโอกซาโลนิกาในกรีซ ซึ่งที่นี่เปเรซมีการเล่นที่ดีในระดับหนึ่ง จึงได้ย้ายกลับมายังสเปนกับเดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา ในค.ศ. 2014 แบบยืมตัว ซึ่งเปเรซเล่นได้อย่างดี ในฤดูกาลถัดมา จึงได้ย้ายมาสู่เดปอร์ติโบเดลาโกรุญญาอย่างเต็มตัว และมีส่วนร่วมกับสโมสรอย่างมาก โดยยิงไปถึง 17 ประตูในทุกรายการ และยังทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ยิง ประตู 7 นัดติดต่อกันในลาลิกาได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรอีกด้วย โดยสโมสรที่ยิงได้ล้วนแต่เป็นสโมสรระดับใหญ่ เช่น บาร์เซโลนา, เซบิยา, อัตเลติโกเดมาดริด[1] จนได้รับฉายาว่า "วาร์ดีแห่งสเปน" แต่ทว่าในระดับทีมชาติ เปเรซยังมิเคยติดทีมชาติแต่อย่างใด[2]

ในต้นฤดูกาล 2016–17 เปเรซได้ย้ายมาอาร์เซนอล ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยค่าตัวประมาณ 17.1 ล้านปอนด์ (ราว 855 ล้านบาท) พร้อมกับชโคดรัน มุสทาฟี กองหลังชาวเยอรมัน จากบาเลนเซีย และถือเป็นผู้เล่นรายที่ 5 ที่อาร์เซนอลซื้อตัวมาในฤดูกาลนี้ ก่อนการซื้อตัวผู้เล่นจะปิดลงเพียงวันเดียว[3]

เปเรซ ลงเล่นให้อาร์เซนอลทันที ในนัดที่ 4 ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ในการพบกับเซาแทมป์ตัน ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม ด้วยการเป็นตัวจริง พร้อมกับมุสทาฟี ที่ย้ายมาพร้อมกันทันที โดยตรงกับวันคล้ายวันเกิดครบรอบปีที่ 28 ของเปเรซพอดี เช่นเดียวกับโลร็อง โกเซียลนี[4] แต่เปเรซถูกเปลี่ยนตัวออกมาในนาทีที่ 62 และเป็นออลีวีเย ฌีรู ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงไปแทน และได้รับการวิจารณ์ว่ายังไม่สามารถปรับตัวให้กับการเล่นของสโมสรได้ ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง[5]

เปเรซยิงลูกแรกให้อาร์เซนอลในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2016 ในรายการอีเอฟแอลคัพ หรือลีกคัพ รอบสาม ในนัดที่ไปเยือนนอตทิงแฮมฟอเรสต์ ที่สนามซิตีกราวด์ ด้วยลูกแรกเป็นจุดโทษในนาทีที่ 60 และลูกที่สองในนาทีที่ 71 ผลการแข่งขันอาร์เซนอลชนะไป 0–4[6]

เปเรซทำแฮตทริกให้อาร์เซนอลได้ในการลงเล่นเป็นนัดที่ 7 ให้กับสโมสร ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2016–17 รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย ที่บุกไปเยือนบาเซิล ที่สนามเซนต์ยาคอป-พาร์ก ในนาทีที่ 8, 16 และ 47 ผลการแข่งขันอาร์เซนอลชนะไป 1–4 และทำให้อาร์เซนอลเข้ารอบต่อไปด้วยการมีคะแนนเป็นที่หนึ่งของกลุ่ม เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี และถือเป็นแฮตริกครั้งที่สองของสโมสรติดต่อกัน หลังจากก่อนหน้านั้นในพรีเมียร์ลีกนัดที่ 14 ที่อาร์เซนอลบุกไปเยือนเวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่สนามลอนดอนสเตเดียม อาเลกซิส ซานเชซก็ทำแฮตทริกได้[7] และยิงลูกแรกได้ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ 20 ในต้นปี ค.ศ. 2017 ที่อาร์เซนอลบุกไปเยือนบอร์นมัท ที่สนามดีนคอร์ต ด้วยการยิงลูกที่ 2 ในนาทีที่ 75 ผลการแข่งขันเสมอกันไป 3–3 ชนิดที่บอร์นมัทนำไปก่อนถึง 3–0 โดยเปเรซเป็นตัวสำรองถูกส่งลงแทนที่ อเล็กซ์ อิโวบี ในนาทีที่ 63[8]

แต่หลังจากเปิดฤดูกาล 2017–18 ได้ไม่นาน ผ่านการแข่งขันไป 3 นัด เปเรซได้ย้ายกลับไปยังเดปอร์ติโบเดลาโกรุญญาอีกครั้งด้วยสัญญายืมตัว เนื่องจากไม่มีตำแหน่งตัวจริงในฤดูกาลที่ผ่านมา

อ้างอิง[แก้]

  1. ""ฮาร์ท" ยืมตัวซบ โตริโน่ 1 ฤดูกาล". พีพีทีวี. August 31, 2016. สืบค้นเมื่อ September 1, 2016.[ลิงก์เสีย]
  2. Cartlidge, David (August 27, 2016). "ลูกัส เปเรซ : (ว่าที่)อาวุธใหม่ของอาร์เซนอล เจ้าของฉายา "วาร์ดี้แห่งสเปน"". fourfourtwo. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-09-05. สืบค้นเมื่อ August 31, 2016.
  3. "ปืนจัดหนัก 52 ล้านป. รวบ "มุสตาฟี-เปเรซ" ก่อนเส้นตาย". ผู้จัดการออนไลน์. August 31, 2016. สืบค้นเมื่อ August 31, 2016.[ลิงก์เสีย]
  4. Ed Malyon (10 September 2016). "Arsenal hand full debuts to Lucas Perez and Shkodran Mustafi for visit of Southampton". Mirror. สืบค้นเมื่อ 10 September 2016.
  5. ""เวนเกอร์" รับ "มุสตาฟี-ลูคัส" ยังตื่น ขอเวลาปรับตัว". ผู้จัดการออนไลน์. 2016-09-11. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-09-13. สืบค้นเมื่อ 2016-09-11.
  6. "Arsenal and Liverpool cruise to EFL Cup wins, Norwich shock Everton: clockwatch – as it happened". The Guardian. 20 September 2016. สืบค้นเมื่อ 21 September 2016.
  7. MEWIS, JOE (2016-12-06). "Basel 1-4 Arsenal LIVE score and goal updates as Gunners target top spot in Champions League Group A". Mirror. สืบค้นเมื่อ 2016-12-07.
  8. "AFC Bournemouth 3 - 3 Arsenal". livescore. 2017-01-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-01-04. สืบค้นเมื่อ 2017-01-01.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]