ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สรรเสริญพระบารมี"
บรรทัด 80: | บรรทัด 80: | ||
|ดุจถวายชัย |
|ดุจถวายชัย |
||
| |
| |
||
|ชโยยยยยยยยยยยยยยยยยย |
|||
|ชโย |
|||
|} |
|} |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:33, 3 มิถุนายน 2562
เพลงสรรเสริญพระบารมี | |
โปสการ์ดโน้ตเพลงสรรเสริญพระบารมี สมัยรัชกาลที่ 5 | |
ชื่ออื่น | เพลงชาติสยาม เพลงสรรเสริญพระบารมี |
---|---|
เนื้อร้อง | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจิตรเจริญ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์, พ.ศ. 2456 |
ทำนอง | พระประดิษฐไพเราะ (มี) |
รับไปใช้ | พ.ศ. 2456 (เนื้อร้องปัจจุบัน) |
ตัวอย่างเสียง | |
เพลงสรรเสริญพระบารมี บรรเลงโดยวงดุริยางค์กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา |
บทเพลงซึ่งบรรเลงเพื่อสรรเสริญพระบารมีแห่งพระมหากษัตริย์ไทย เคยใช้เป็นเพลงชาติของประเทศไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2431 - 2475 นับเป็นเพลงชาติไทยฉบับที่ 3 ทำนองทางไทยโดยพระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร) เมื่อ พ.ศ. 2416[1] ทำนองดนตรีตะวันตกโดย ปโยตร์ ชูรอฟสกี้ (Pyotr Schurovsky) นักแต่งเพลงชาวรัสเซีย[2] (บ้างก็ว่าเป็นครูเพลงชาวฮอลันดาชื่อ เฮวุดเซน[3]) ประพันธ์เมื่อ พ.ศ. 2431 คำร้องเป็นพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจิตรเจริญ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ซึ่งนิพนธ์ขึ้นเพื่อใช้ในพระราชพิธีลงสรงของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
เป็นในตอนแรกคำร้องดังกล่าวในท่อนสุดท้าย ใช้คำว่า ฉะนี้ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเปลี่ยนคำว่า ฉะนี้ ให้เป็น ชโย ดังที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากคำว่า ฉะนี้ เมื่อร้องตามทำนองของเพลงแล้ว คนมักจะออกเสียงเพี้ยนเป็นคำว่า ชะนี ทำให้พระองค์ทรงรำคาญพระราชหฤทัย จึงทรงเปลี่ยนจากคำว่า ฉะนี้ เป็น ชโย ซึ่งแผลงมาจากคำว่า ไชโย และ ชย[4]
ประวัติ
เพลงสรรเสริญพระบารมี มีเค้าโครงว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้มีเพลงที่มีลักษณะคล้ายเพลงสรรเสริญพระบารมีอยู่ก่อนแล้ว ใช้บรรเลงในเวลาพระมหากษัตริย์เสด็จลงท้องพระโรงและเสด็จขึ้น มีชื่อเรียกว่า "สายสมร" ต่อมาพระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร) ใช้เพลงสายสมรมาเป็นเพลงดำเนินทำนองหลัก และเรียกชื่อเพลงนี้ใหม่ว่า "ศรีอยุธยา", "สรรเสริญนารายณ์" [5] แต่ในบ้างแหล่งระบุชื่อเพลงว่า "เสด็จออกขุนนาง"[6]
แต่เพลงสรรเสริญพระบารมีในฐานะเพลงชาตินั้น เริ่มปรากฏในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีการใช้เพลง ก็อดเซฟเดอะคิง ซึ่งเป็นเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงชาติของสหราชอาณาจักร บรรเลงเป็นเพลงถวายความเคารพแด่องค์พระมหากษัตริย์ ตามแบบอย่างการฝึกทหารของอังกฤษ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ได้ใช้ทำนองเพลงนี้แต่งคำร้องสรรเสริญพระบารมีถวายโดยให้ชื่อว่า "จอมราชจงเจริญ" [7]
จนกระทั่งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้เสด็จประพาสเมืองสิงคโปร์และเกาะชวาในปี พ.ศ. 2414 ขณะที่ทรงประทับอยู่ที่สิงคโปร์นั้น ทหารอังกฤษได้ใช้เพลง "ก็อดเซฟเดอะคิง" บรรเลงเป็นเพลงเกียรติยศรับเสด็จ ปัญหาจึงเกิดขึ้นว่าทั้งอังกฤษและไทยต่างใช้เพลงสรรเสริญพระบารมีเพลงเดียวกัน ต่อมาเมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปยังเมืองปัตตาเวีย ชาวดัตช์ (ฮอลันดา) ที่ตั้งอาณานิคมที่นั้น ได้ถามถึงเพลงประจำชาติของไทย เพื่อจะได้นำไปบรรเลงรับเสด็จ พระองค์จึงมีพระราชดำริแก่ครูดนตรีไทย ให้แต่งเพลงแตรวงรับเสด็จเพื่อใช้แทนเพลง "ก็อดเซฟเดอะคิง"[8]
ตอนนั้น คณะครูดนตรีไทยจึงได้เสนอเพลงบุหลันลอยเลื่อน (หรือเพลงทรงพระสุบิน) ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ใช้เป็นเพลงสรรเสริญพระบารมี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายเฮวุดเซน (Heutsen) ครูดนตรีในกรมทหารมหาดเล็กชาวฮอลันดา เรียบเรียงทำนองขึ้นใหม่ให้เป็นทางดนตรีตะวันตก และได้ใช้เป็นเพลงสรรเสริญพระบารมีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2414[9] (ดร. สุกรี เจริญสุข ได้สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเพลงเดียวกันกับเพลงสรรเสริญเสือป่า ซึ่งใช้เป็นเพลงเกียรติยศของกองเสือป่าในสมัยรัชกาลที่ 6[10]
ต่อมาจึงได้มีการเปลี่ยนมาใช้เพลงสรรเสริญพระบารมีฉบับของพระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร) (หรือครูมีแขก) ครูดนตรีคนสำคัญ ที่ได้ประดิษฐ์ทำนองขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเมื่อราว พ.ศ. 2416 ภายหลังจากพระราชพิธีบรมราชภิเษกครั้งที่ 2 ได้ไม่นาน ซึ่งได้เค้าทำนองมาจากเพลงสรรเสริญนารายณ์ของเก่า[1] และได้เรียบเรียบเสียงประสานสำหรับดนตรีตะวันตกโดยปโยตร์ ชูรอฟสกี้ (Pyotr Schurovsky) นักประพันธ์ชาวรัสเซีย เมื่อ พ.ศ. 2431 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจิตรเจริญ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงนิพนธ์เนื้อร้องประกอบและได้ออกบรรเลงครั้งแรกที่ศาลายุทธนาธิการในปีเดียวกัน[11] ต่อมาทรงนิพนธ์เนื้อร้องของเพลงนี้อีกหลายเนื้อร้องเพื่อขับร้องในกลุ่มต่าง ๆ กัน เช่น ทหาร นักเรียนชาย นักเรียนหญิง เป็นต้น แต่มีเนื้อร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีอีกสำนวนหนึ่งที่เป็นพระนิพนธ์ในพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ สำนวนนี้เป็นสำนวนสำหรับทหารเรือขับร้องโดยเฉพาะ[12]
เนื้อร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีฉบับปัจจุบันนั้น แต่เดิมเป็นเนื้อร้องที่พระองค์ได้นิพนธ์ขึ้นเพื่อใช้ในพระราชพิธีลงสรงของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ต่อมาเมื่อถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำเพลงสรรเสริญพระบารมีมาพระราชนิพนธ์คำร้องขึ้นใหม่ โดยทรงรักษาคำร้องเดิมเอาไว้เกือบทุกอย่าง ยกเว้นแต่ทรงเปลี่ยนคำร้องในท่อนสุดท้ายว่า ฉะนี้ ให้เป็น ชโย และประกาศใช้ ในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2456 และใช้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ภายหลังการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 เพลงสรรเสริญพระบารมีไม่ได้ใช้ในฐานะเพลงชาติอีกต่อไป แต่ยังคงใช้ในฐานะของเพลงถวายความเคารพแด่องค์พระมหากษัตริย์ มีอยู่ช่วงหนึ่งมีการตัดทอนเพลงนี้ให้สั้นลง แต่ได้ยกเลิกการใช้แล้ว
บทร้อง
บทร้องสำนวนปัจจุบัน
บทร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีที่ใช้ในปัจจุบัน เป็นบทพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจิตรเจริญ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์แก้ไขเมื่อ พ.ศ. 2456
ข้าวรพุทธเจ้า | เอามโนและศิระกราน | |
นบพระภูมิบาล | บุญดิเรก | |
เอกบรมจักริน | พระสยามมินทร์ | |
พระยศยิ่งยง | เย็นศิระเพราะพระบริบาล | |
ผลพระคุณ ธ รักษา | ปวงประชาเป็นสุขศานต์ | |
ขอบันดาล | ธ ประสงค์ใด | |
จงสฤษดิ์ดัง | หวังวรหฤทัย | |
ดุจถวายชัย | ชโยยยยยยยยยยยยยยยยยย |
บทร้องสำนวนสังเขป
ข้าวรพุทธเจ้า | เอามโนและศิระกราน | |
นบพระภูมิบาล | บรมกษัตริย์ไทย | |
ขอบันดาล | ธ ประสงค์ใด | |
จงสฤษดิ์ดัง | หวังวรหฤทัย | |
ดุจถวายชัย | ชโย |
วาระและโอกาสในการใช้
ระเบียบส่วนราชการในพระองค์กำหนดวาระในการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีไว้ดังนี้[13]
- พระราชพิธีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีทั้งรับและส่งเสด็จ
- พระราชพิธีหรือพิธีการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนิน ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีทั้งรับและส่งเสด็จ
- พระราชพิธีหรือพิธีการที่สมเด็จพระราชินี เสด็จพระราชดำเนิน ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีทั้งรับและส่งเสด็จ
- พระราชพิธีหรือพิธีการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีทั้งรับและส่งเสด็จ
- พระราชพิธีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์หรือพระราชานุสาวรีย์ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง ทหารกองเกียรติยศสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือแถวทหารมหาดเล็กรับเสด็จ ถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี แตรเดี่ยวแถวรับเสด็จเป่าเพลงคำนับ 3 จบ กองทหารเกียรติยศสำหรับพระบรมราชานุสาวรีย์หรือพระราชานุสาวรีย์ ถวายความเคารพโดยดุริยางค์ไม่บรรเลง และเมื่อถึงพิธีการเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์หรือพระราชานุสาวรีย์ กองทหารเกียรติยศสำหรับพระบรมราชานุสาวรีย์หรือพระราชานุสาวรีย์ ถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับ ให้กองทหารเกียรติยศสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ส่วนกองทหารเกียรติยศสำหรับพระบรมราชานุสาวรีย์หรือพระราชานุสาวรีย์ ถวายความเคารพ แต่ดุริยางค์ไม่ต้องบรรเลง
- พระราชพิธีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปในงานศพที่มีกองทหารเกียรติยศสำหรับศพ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง กองทหารเกียรติยศสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือแถวทหารมหาดเล็กรับเสด็จ ถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี แตรเดี่ยวแถวรับเสด็จเป่าเพลงคำนับ 3 จบ กองทหารเกียรติยศสำหรับศพถวายความเคารพ โดยดุริยางค์ไม่บรรเลง เมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับ ให้กองทหารเกียรติยศสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถวายความเคารพด้วย โดยดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ส่วนกองทหารเกียรติยศสำหรับศพถวายความเคารพ แต่ดุริยางค์ไม่ต้องบรรเลง
- พระราชพิธีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยประมุขต่างประเทศ
- ดุริยางค์บรรเลงเพลงชาติหรือเพลง Royal Anthem ของประเทศนั้น จบแล้วบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทั้งรับและส่งเสด็จ ในกรณีที่ประมุขต่างประเทศเสด็จพระราชดำเนิน หรือไปตามลำพัง ดุริยางค์บรรเลงเพลงชาติหรือเพลง Royal Anthem ของประเทศนั้น
- ในกรณีที่จัดกองทหารเกียรติยศ 2 กอง คือกองทหารเกียรติยศสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกองทหารเกียรติยศสำหรับประมุขต่างประเทศ
- เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินถึง ให้กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพพร้อมกันทั้ง 2 กอง เฉพาะกองทหารเกียรติยศสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพียงกองเดียวบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
- เมื่อประมุขต่างประเทศเสด็จพระราชดำเนินหรือมาถึง ให้กองทหารเกียรติยศแสดงความเคารพพร้อมกันทั้ง 2 กอง เฉพาะกองทหารเกียรติยศสำหรับประมุขต่างประเทศเพียงกองเดียวบรรเลงเพลงชาติหรือเพลง Royal Anthem ของประเทศนั้น
- เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยประมุขต่างประเทศ กองทหารเกียรติยศทั้ง 2 กอง ถวายและแสดงความเคารพพร้อมกัน กองทหารเกียรติยศสำหรับประมุขต่างประเทศบรรเลงเพลงชาติหรือเพลง Royal Anthem ของประเทศนั้นก่อน แล้วกองทหารเกียรติยศสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
- ในกรณีที่จัดกองทหารเกียรติยศกองเดียว
- เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินถึง กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
- เมื่อประมุขต่างประเทศเสด็จพระราชดำเนินหรือมาถึง กองทหารเกียรติยศแสดงความเคารพดุริยางค์บรรเลงเพลงชาติหรือเพลง Royal Anthem ของประเทศนั้น
- เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยประมุขต่างประเทศ กองทหารเกียรติยศถวายและแสดงความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงชาติหรือเพลง Royal Anthem ของประเทศนั้นก่อน แล้วจึงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
- พิธีการที่ผู้แทนพระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในงานเสด็จพระราชดำเนิน
- กรณีผู้แทนพระองค์เป็นผู้ซึ่งต้องใช้เพลงสรรเสริญพระบารมีในการรับและส่งเสด็จ เมื่อผู้แทนพระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาถึง ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นการรับเสด็จ และเมื่อผู้แทนพระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นการส่งเสด็จ
- กรณีผู้แทนพระองค์เป็นผู้ซึ่งต้องใช้เพลงมหาชัยในการรับและส่งเสด็จตาม เมื่อผู้แทนพระองค์เสด็จมาถึงและลงจากรถยนต์ที่นั่ง ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นการรับเสด็จ และเมื่อผู้แทนพระองค์เสด็จกลับ ก่อนขึ้นรถยนต์ที่นั่ง ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นการส่งเสด็จ
- ถ้าผู้แทนพระองค์เป็นบุคคลธรรมดา เมื่อผู้แทนพระองค์มาถึง ดุริยางค์ไม่บรรเลงเพลงใด ๆ และเมื่อผู้แทนพระองค์ยืนหน้าเก้าอี้แล้ว ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และเมื่อผู้แทนพระองค์กลับ ก่อนขึ้นรถยนต์หลวง ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
นอกจากนี้ ในการมหรสพต่าง ๆ ในประเทศไทย เช่น การแข่งขันกีฬา การฉายภาพยนตร์หรือการแสดงดนตรี ก็นิยมมีการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนทำการแสดงเสมอ สำหรับการกระจายเสียงของสถานีวิทยุและการแพร่ภาพของสถานีโทรทัศน์ เพลงสรรเสริญพระบารมีก็ได้ถูกในเป็นเพลงสำหรับแจ้งการยุติการกระจายเสียงประจำวันของสถานีวิทยุกระจายเสียงในประเทศไทย และใช้เป็นเพลงยุติการแพร่ภาพออกอากาศประจำวัน หรือในกรณีที่มีการออกอากาศตลอดทั้งวัน จะใช้เมื่อเปลี่ยนเวลาเข้าสู่วันใหม่ ของสถานีวิทยุโทรทัศน์ในประเทศไทย
การบันทึกเสียง
เพลงสรรเสริญพระบารมีมีการบันทึกเสียงครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2443 ซึ่งเป็นการบรรเลงโดยวงดนตรีคณะละครนายบุศมหินทร์ที่ประเทศเยอรมนี บันทึกลงบนกระบอกเสียงชนิดไขผึ้งของบริษัทเอดิสัน [14] และมีการบันทึกเสียงโดยมีการขับร้องประกอบครั้งแรกโดยเป็นเสียงร้องของแม่ปุ่น (ไม่ทราบนามสกุล) และแม่แป้น (แป้น วัชโรบล) ในแผ่นเสียงปาเต๊ะร่องกลับทางของบริษัทปาเต๊ะ ประเทศฝรั่งเศส ส่งแตรวงกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์) เมื่อ พ.ศ. 2450 [15]
ดูเพิ่ม
เชิงอรรถ
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 Karl Stumpf . 1898. Beiträge zur akustik und musikwissenschaft. German: Leipzig, J. A. Barth.
- ↑ https://www.matichon.co.th/news/596307
- ↑ ความเป็นมาของเพลงสรรเสริญพระบารมี
- ↑ เนื้อร้อง เพลงชาติ โดย จุลลดา ภักดีภูมินทร์
- ↑ 128 ปี เพลงสรรเสริญพระบารมี : สรรเสริญพระบารมีพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ โดยสุกรี เจริญสุข จาก มติชน
- ↑ บุญช่วย โสวัตร และบุษยา ชิตท้วม. 2549. วิเคราะห์ที่มาของเพลงสรรเสริญพระบารมี. กรุงเทพฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
- ↑ สุกรี เจริญสุข. 99 ปี เพลงสรรเสริญพระบารมี, หน้า 33.
- ↑ เพลงชาติ โดย ดร.สุกรี เจริญสุข
- ↑ เพลงชาติ โดย ดร.สุกรี เจริญสุข
- ↑ สุกรี เจริญสุข. 99 ปี เพลงสรรเสริญพระบารมี, หน้า 25-26.
- ↑ สุจิตต์ วงษ์เทศ, ประวัติเพลงสรรเสริญพระบารมี, หน้า 15
- ↑ กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ . จอมทัพไทยกับราชนาวี. กรุงเทพฯ : กองทัพเรือ, 2539
- ↑ [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/117/T_0013.PDF ระเบียบส่วนราชการในพระองค์ ว่าด้วยการบรรเลงดุริยางค์ในการพระราชพิธีหรือพิธีการ พ.ศ. 2562]
- ↑ ""กระบอกเสียงนายบุศย์ ความบังเอิญที่เกิดเป็นตำนาน"". สืบค้นเมื่อ 2009-05-15.
- ↑ ""เพลงสรรเสริญพระบารมีในสมัยรัชกาลที่ ๕ (จานเสียงปาเต๊ะ พ.ศ. ๒๔๕๐)"". สืบค้นเมื่อ 2009-05-15.
แหล่งข้อมูลอื่น
- เพลงสำคัญของแผ่นดิน จากเว็บไซต์ กรมประชาสัมพันธ์
- ฟังเพลงสำคัญของแผ่นดิน บรรเลงโดยวงดนตรีต่างๆ จาก เว็บไซต์ของสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ
- เพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงชาติไทย นำเสนอโดย สมาคมนักอนุรักษ์เครื่องเล่นกระบอกเสียงและหีบเสียงไทย
- กระทู้ เพลงชาติไทย จาก เว็บไซต์ วิชาการ.คอม
- เพลงแห่งชาติ จาก เว็บไซต์ โรงเรียนนายเรืออากาศ
- เพลงสรรเสริญพระบารมีในสมัยรัชกาลที่ ๕ (จานเสียงปาเต๊ะ พ.ศ. ๒๔๕๐) จากเว็บไซต์ พิพิธภัณฑ์เครื่องเล่นกระบอกเสียงและหีบเสียงไทย
- เพลงสรรเสริญพระบารมี (ภาษามือ)
- ประวัติเพลงสรรเสริญพระบารมี จากหนังสือ "เกร็ดโบราณคดีประเพณีไทย " โดย ส.พลายน้อย
- บทความเรื่อง เพลงชาติ โดย รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข
- ประวัติการย่อเพลงสรรเสริญพระบารมี (พ.ศ. ๒๔๗๘–๒๔๘๓) โดย กำพล จำปาพันธ์ ตีพิมพ์ใน วารสารธรรมศาสตร์ ปีที่ ๒๗ ฉบับที่ ๑ (ธันวาคม ๒๕๔๗) (ดูฉบับที่เผยแพร่ที่เว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)