พระคณาจารย์
ส่วนหนึ่งของชุดบทความ |
ศาสนาพุทธ |
---|
พระคณาจารย์ หมายถึง พระภิกษุผู้ทรงคุณวุฒิในฝ่ายปริยัติที่ได้รับการแต่งตั้ง ตามประกาศสังฆนายก เรื่องระเบียบการแต่งตั้งพระคณาจารย์ พ.ศ. 2488 แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ พระคณาจารย์ทางเทศนา, พระคณาจารย์ทางรจนา และพระคณาจารย์ทางคันถธุระ
การแต่งตั้งพระคณาจารย์ มีขึ้นเพื่อยกย่องพระภิกษุผู้ทรงความรู้ด้านปริยัติ และเพื่อสนับสนุนในการให้พระภิกษุผู้ได้รับการแต่งตั้ง ได้ช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ทางด้านการส่งเสริมสนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนาด้านพระปริยัติธรรมตามแต่ที่สังฆสภา (มหาเถรสมาคม) มอบหมาย
ปัจจุบันหลังจากพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2503 ได้ยกเลิกสังฆสภา ทำให้ไม่มีการแต่งตั้งพระภิกษุเพื่อให้เป็นพระคณาจารย์อีกต่อไป
พระคณาจารย์ตรี (เทียบเจ้าคณะอำเภอ)[แก้]
พระคณาจารย์ตรีทางเทศนา[แก้]
ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นนักธรรมเอกหรือเป็นเปรียญ
- ได้เทศนาโดยปฏิภาณสอนประชาชนมาแล้ว 3 ปีในการรับรองของคณะสงฆ์ หรือได้แต่งเทศนาไม่น้อยกว่า 5 กัณฑ์ ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว
พระคณาจารย์ตรีทางรจนา[แก้]
ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นเปรียญ และ
- ได้แต่งหนังสือว่าด้วยคำสอนในพระพุทธศาสนาไม่น้อยกว่า 50 หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ 20 บรรทัดซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้วหรือได้แปลหนังสือที่เป็นความรู้ทางศาสนาไม่ต่ำกว่า 100 หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ 20 บรรทัดซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้ว
พระคณาจารย์ตรีทางคันถธุระ[แก้]
ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นเปรียญ 4 ประโยคขึ้นไปและได้แต่งตำราอันเป็นประโยชน์แก่การศึกษาธรรมหรือบาลี ซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้ว หรือ
- เป็นครูสอนบาลีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 หรือเป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่ต่ำกว่า 3 ปี หรือ
- ได้จัดตั้งสำนักเรียนบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน มีนักเรียนสอบได้ไม่น้อยกว่า 3 ปีติดต่อกัน
พระคณาจารย์โท (เทียบเจ้าคณะจังหวัด)[แก้]
พระคณาจารย์โททางเทศนา[แก้]
ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นเปรียญ 4 ประโยคขึ้นไป หรือเป็นพระคณาจารย์ตรี ทางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี และ
- ได้เทศนาโดยปฏิภาณ สอนประชาชนไม่น้อยกว่า 5 ปีในความรับรองของสงฆ์หรือได้แต่งเทศนาไม่น้อยกว่า 13 กัณฑ์ ซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้ว
- เป็นครูสอนนักธรรมหรือบาลีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี และมีนักเรียนเข้าสอบได้
- เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี หรือเป็นกรรมการออกข้อสอบธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี หรือ
- ได้จัดตั้งสำนักเรียนธรรมหรือบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน มีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง
พระคณาจารย์โททางรจนา[แก้]
ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นเปรียญธรรม 5 ประโยคขึ้นไป หรือเป็นพระคณาจารย์ตรีทางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และ
- ได้แต่งหนังสือ ว่าด้วยคำสอนในพระพุทธศาสนาไม่น้อยกว่า 100 หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ 20 บรรทัดซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้วหรือได้แปลหนังสือที่เป็นความรู้ทางศาสนาไม่น้อยกว่า 200 หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ 20 บรรทัดซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว
- เป็นครูสอนธรรมหรือบาลีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี และมีนักเรียนเข้าสอบได้ในสนามหลวง หรือ
- เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่น้อยกว่า 3 ปีหรือเป็นกรรมการออกข้อสอบธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือ
- ได้จัดตั้งสำนักเรียนธรรมหรือบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน มีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง
พระคณาจารย์โททางคันถธุระ[แก้]
ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นเปรียญ 6 ประโยคขึ้นไปหรือเป็นพระคณาจารย์ทางใดทางหนึ่งไม่ต่ำกว่า 3 ปี และ
- ได้ชำระปกรณ์ไม่น้อยกว่า 1 เรื่อง ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว
- เป็นครูสอนบาลีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวงร้อยละ 20 หรือ
- เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี หรือเป็นกรรมการออกข้อสอบธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่น้อยกว่า 2 ปีหรือ
- ได้จัดตั้งสำนักเรียนบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวงแต่เปรียญธรรม 4 ประโยคขึ้นไป
พระคณาจารย์เอก (เทียบเจ้าคณะตรวจการภาค)[แก้]
พระคณาจารย์เอกทางเทศนา[แก้]
ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นเปรียญธรรม 6 ประโยคขึ้นไปหรือเป็นพระคณาจารย์ทางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี
- ได้เทศนาโดยปฏิภาณสอนประชาชนไม่ต่ำกว่า 10 ปีในความรับรองของคณะสงฆ์หรือได้แต่งเทศนาไม่น้อยกว่า 20 กัณฑ์ซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้ว หรือ
- เป็นครูสอนธรรม หรือบาลีแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง หรือ
- เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่ต่ำกว่า 5 ปีหรือเป็นกรรมการออกข้อสอบประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี หรือ
- ได้จัดตั้งสำนักเรียนธรรมหรือบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน มีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง
พระคณาจารย์เอกทางรจนา[แก้]
ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นเปรียญธรรม 6 ประโยคขึ้นไปหรือเป็นพระคณาจารย์ทางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี และ
- ได้แต่งหนังสือ ว่าด้วยคำสอนทางพระพุทธศาสนาไม่น้อยกว่า 150 หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ 20 บรรทัด ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว หรือได้แปลหนังสือที่เป็นความรู้ทางศาสนาไม่น้อยกว่า 300 หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ 20 บรรทัดซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้ว
- เป็นครูสอนธรรมหรือบาลีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง
- เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่น้อยกว่า 5 ปี หรือ
- ได้จัดตั้งสำนักเรียนธรรมหรือบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง
พระคณาจารย์เอกทางคันถธุระ[แก้]
ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นเปรียญธรรม 7 ประโยคขึ้นไป หรือเป็นพระคณาจารย์ทางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี
- ได้ชำระปกรณ์ไม่น้อยกว่า 2 เรื่องซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว
- เป็นครูสอนบาลีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปีและมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20
- เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่ต่ำกว่า 10 ปีหรือเป็นกรรมการออกข้อสอบธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี หรือ
- ได้จัดตั้งสำนักเรียนบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวงตั้งแต่เปรียญธรรม 6 ประโยคขึ้นไป
ที่มา[แก้]
- ประกาศสังฆนายก เรื่องระเบียบการแต่งตั้งพระคณาจารย์ พ.ศ. 2488