พระคณาจารย์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

พระคณาจารย์ หมายถึง พระภิกษุผู้ทรงคุณวุฒิในฝ่ายปริยัติที่ได้รับการแต่งตั้ง ตามประกาศสังฆนายก เรื่องระเบียบการแต่งตั้งพระคณาจารย์ พ.ศ. 2488 แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ พระคณาจารย์ทางเทศนา, พระคณาจารย์ทางรจนา และพระคณาจารย์ทางคันถธุระ

การแต่งตั้งพระคณาจารย์ มีขึ้นเพื่อยกย่องพระภิกษุผู้ทรงความรู้ด้านปริยัติ และเพื่อสนับสนุนในการให้พระภิกษุผู้ได้รับการแต่งตั้ง ได้ช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ทางด้านการส่งเสริมสนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนาด้านพระปริยัติธรรมตามแต่ที่สังฆสภา (มหาเถรสมาคม) มอบหมาย

ปัจจุบันหลังจากพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2503 ได้ยกเลิกสังฆสภา ทำให้ไม่มีการแต่งตั้งพระภิกษุเพื่อให้เป็นพระคณาจารย์อีกต่อไป

พระคณาจารย์ตรี (เทียบเจ้าคณะอำเภอ)[แก้]

พระคณาจารย์ตรีทางเทศนา[แก้]

ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • เป็นนักธรรมเอกหรือเป็นเปรียญ
  • ได้เทศนาโดยปฏิภาณสอนประชาชนมาแล้ว 3 ปีในการรับรองของคณะสงฆ์ หรือได้แต่งเทศนาไม่น้อยกว่า 5 กัณฑ์ ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว

พระคณาจารย์ตรีทางรจนา[แก้]

ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • เป็นเปรียญ และ
  • ได้แต่งหนังสือว่าด้วยคำสอนในพระพุทธศาสนาไม่น้อยกว่า 50 หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ 20 บรรทัดซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้วหรือได้แปลหนังสือที่เป็นความรู้ทางศาสนาไม่ต่ำกว่า 100 หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ 20 บรรทัดซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้ว

พระคณาจารย์ตรีทางคันถธุระ[แก้]

ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • เป็นเปรียญ 4 ประโยคขึ้นไปและได้แต่งตำราอันเป็นประโยชน์แก่การศึกษาธรรมหรือบาลี ซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้ว หรือ
  • เป็นครูสอนบาลีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 หรือเป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่ต่ำกว่า 3 ปี หรือ
  • ได้จัดตั้งสำนักเรียนบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน มีนักเรียนสอบได้ไม่น้อยกว่า 3 ปีติดต่อกัน

พระคณาจารย์โท (เทียบเจ้าคณะจังหวัด)[แก้]

พระคณาจารย์โททางเทศนา[แก้]

ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • เป็นเปรียญ 4 ประโยคขึ้นไป หรือเป็นพระคณาจารย์ตรี ทางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี และ
  • ได้เทศนาโดยปฏิภาณ สอนประชาชนไม่น้อยกว่า 5 ปีในความรับรองของสงฆ์หรือได้แต่งเทศนาไม่น้อยกว่า 13 กัณฑ์ ซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้ว
  • เป็นครูสอนนักธรรมหรือบาลีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี และมีนักเรียนเข้าสอบได้
  • เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี หรือเป็นกรรมการออกข้อสอบธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี หรือ
  • ได้จัดตั้งสำนักเรียนธรรมหรือบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน มีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง

พระคณาจารย์โททางรจนา[แก้]

ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • เป็นเปรียญธรรม 5 ประโยคขึ้นไป หรือเป็นพระคณาจารย์ตรีทางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และ
  • ได้แต่งหนังสือ ว่าด้วยคำสอนในพระพุทธศาสนาไม่น้อยกว่า 100 หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ 20 บรรทัดซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้วหรือได้แปลหนังสือที่เป็นความรู้ทางศาสนาไม่น้อยกว่า 200 หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ 20 บรรทัดซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว
  • เป็นครูสอนธรรมหรือบาลีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี และมีนักเรียนเข้าสอบได้ในสนามหลวง หรือ
  • เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่น้อยกว่า 3 ปีหรือเป็นกรรมการออกข้อสอบธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือ
  • ได้จัดตั้งสำนักเรียนธรรมหรือบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน มีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง

พระคณาจารย์โททางคันถธุระ[แก้]

ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • เป็นเปรียญ 6 ประโยคขึ้นไปหรือเป็นพระคณาจารย์ทางใดทางหนึ่งไม่ต่ำกว่า 3 ปี และ
  • ได้ชำระปกรณ์ไม่น้อยกว่า 1 เรื่อง ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว
  • เป็นครูสอนบาลีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวงร้อยละ 20 หรือ
  • เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี หรือเป็นกรรมการออกข้อสอบธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่น้อยกว่า 2 ปีหรือ
  • ได้จัดตั้งสำนักเรียนบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวงแต่เปรียญธรรม 4 ประโยคขึ้นไป

พระคณาจารย์เอก (เทียบเจ้าคณะตรวจการภาค)[แก้]

พระคณาจารย์เอกทางเทศนา[แก้]

ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • เป็นเปรียญธรรม 6 ประโยคขึ้นไปหรือเป็นพระคณาจารย์ทางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี
  • ได้เทศนาโดยปฏิภาณสอนประชาชนไม่ต่ำกว่า 10 ปีในความรับรองของคณะสงฆ์หรือได้แต่งเทศนาไม่น้อยกว่า 20 กัณฑ์ซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้ว หรือ
  • เป็นครูสอนธรรม หรือบาลีแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง หรือ
  • เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่ต่ำกว่า 5 ปีหรือเป็นกรรมการออกข้อสอบประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี หรือ
  • ได้จัดตั้งสำนักเรียนธรรมหรือบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน มีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง

พระคณาจารย์เอกทางรจนา[แก้]

ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • เป็นเปรียญธรรม 6 ประโยคขึ้นไปหรือเป็นพระคณาจารย์ทางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี และ
  • ได้แต่งหนังสือ ว่าด้วยคำสอนทางพระพุทธศาสนาไม่น้อยกว่า 150 หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ 20 บรรทัด ซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว หรือได้แปลหนังสือที่เป็นความรู้ทางศาสนาไม่น้อยกว่า 300 หน้าพิมพ์ดีด หน้าละ 20 บรรทัดซึ่งคณะสงฆ์ได้รับรองแล้ว
  • เป็นครูสอนธรรมหรือบาลีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง
  • เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่น้อยกว่า 5 ปี หรือ
  • ได้จัดตั้งสำนักเรียนธรรมหรือบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวง

พระคณาจารย์เอกทางคันถธุระ[แก้]

ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • เป็นเปรียญธรรม 7 ประโยคขึ้นไป หรือเป็นพระคณาจารย์ทางใดทางหนึ่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี
  • ได้ชำระปกรณ์ไม่น้อยกว่า 2 เรื่องซึ่งคณะสงฆ์รับรองแล้ว
  • เป็นครูสอนบาลีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปีและมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20
  • เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมหรือบาลีสนามหลวงไม่ต่ำกว่า 10 ปีหรือเป็นกรรมการออกข้อสอบธรรมหรือบาลีสนามหลวงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี หรือ
  • ได้จัดตั้งสำนักเรียนบาลีขึ้นเป็นหลักฐาน และมีนักเรียนสอบได้ในสนามหลวงตั้งแต่เปรียญธรรม 6 ประโยคขึ้นไป

ที่มา[แก้]

  • ประกาศสังฆนายก เรื่องระเบียบการแต่งตั้งพระคณาจารย์ พ.ศ. 2488