ผู้ใช้:Slentee/ทดลองเขียน/รายชื่อชนิดของเมฆ
แปลจาก : https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_cloud_types
รายชื่อชนิดของเมฆเป็นการจัดกลุ่มของเมฆในชั้นโทรโพสเฟียร์ ออกเป็น ระดับสูง (ซีร์รัส, ซีร์โรคิวมูลัส, ซีร์โรสเตรตัส), ระดับกลาง (อัลโตคิวมูลัส, อัลโตสเตรตัส), หลายระดับ (นิมโบสเตรตัส, คิวมูลัส, คิวมูโลนิมบัส) และ ระดับต่ำ (สเตรโตคิวมูลัส, สเตรตัส) ตามระดับความสูงหรือระดับที่สามารถพบเมฆได้โดยทั่วไป โดยเมฆคิวมูลัสขนาดเล็กมักถูกจัดอยู่ในกลุ่มเมฆระดับต่ำ เนื่องจากเมฆชนิดนี้ไม่ค่อยแสดงลักษณะในการเจริญแนวทางแนวตั้งที่สำคัญ ในสกุลเมฆหลายระดับ มักเป็นกลุ่มของเมฆที่มีกิจกรรมการพาความร้อนอย่างดีที่สุด และบ่อยครั้งจะถูกแยกออกไปเป็นกลุ่ม เมฆหอคอย (towering vertical) ซึ่งสกุลของเมฆทั้งหมดจะมีชื่อในภาษาละติน
สกุล (genera) ยังถูกแบ่งออกตามลักษณะการก่อตัวทางกายภาพ 5 ลักษณะด้วย
การระบุตัวตนและการแบ่งประเภทเมฆ: การจัดรายการของชนิด[แก้]
การระบุตัวตนและการแบ่งประเภทเมฆทั่วโฮโมสเฟียร์[แก้]
ระดับ/จุดก่อตัว | (1) ก่อตัวเป็นสเตรตัส (Stratiform) ไม่มีการพาความร้อน |
(2) ก่อตัวเป็นซีร์รัส (Cirriform) ส่วนมากไม่มีการพาความร้อน |
(3) ก่อตัวเป็นสเตรโตคิวมูลัส (Stratocumuliform) มีการพาความร้อนแบบจำกัด |
(4) ก่อตัวเป็นคิวมูลัส (Cumuliform) มีการพาความร้อนอย่างอิสระ |
(5) ก่อตัวเป็นคิวมูลโลนิมบัส (Cumulonimbiform) มีการพาความร้อนอย่างรุนแรง | |
ระดับสูงสุดขีด | นอคติลูเซนต์ (โพลาร์เมโซสเฟียร์) | |||||
ระดับสูงมาก | โพลาร์สตราโทสเฟียร์ | |||||
ระดับสูง | เมฆซีร์โรสเตรตัส | เมฆซีร์รัส | เมฆซีร์โรคิวมูลัส | |||
ระดับกลาง | เมฆอัลโตสเตรตัส | เมฆอัลโตคิวมูลัส | ||||
หอคอยแนวตั้ง | เมฆคอนเจสตัสคิวมูลัส | เมฆคิวมูโลนิมบัส | ||||
หลายระดับ/แนวตั้ง | เมฆนิมโบสเตรตัส | เมฆมีดิโอคริสคิวมูลัส | ||||
ระดับต่ำ | เมฆสเตรตัส | เมฆสเตรโตคิวมูลัส | เมฆฮิวมิลิสคิวมูลัส | |||
ระดับพื้นผิว | หมอก |
การระบุตัวตนและการแบ่งประเภทเมฆเมโซสเฟียร์ขั้วโลก[แก้]
เมฆที่ก่อตัวในชั้นเมโซสเฟียร์ โดยทั่วไปแล้วมีโครงสร้างแบบก่อตัวเป็นซีร์รัส (cirriform) แต่ไม่มีการตั้งชื่อโดยใช้ภาษาละตินตามลักษณะ เมฆเมโซสเฟียร์ขั้วโลกนั้นเป็นเมฆที่สูงที่สุดในชั้นบรรยากาศ ได้รับการตั้งชื่อโดยใช้ภาษาละตินว่า นอคติลูเซนต์ (noctilucent) ซึ่งอ้างอิงถึงลักษณะของเมฆนี้ ที่จะส่องสว่างขึ้นในช่วงสนธยา
เมฆก่อตัวเป็นซีร์รัสระดับสูงสุดขีด[แก้]
เมฆนอคติลูเซนต์เป็นเมฆที่มีลักษณะบาง ส่วนมากจะดูคล้ายกับเมฆซีร์รัส ก่อตัวอยู่ในระดับความสูง 80 ถึง 85 กิโลเมตร (262,000–279,000 ฟุต) และปรากฎให้เห็นเป็นบางครั้งในช่วงสนทยาก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นหรือหลังดวงอาทิตย์ตก[1][2]
- ชนิดที่ 1
- บางมาก; คล้ายกับเมฆซีร์รัส
- ชนิดที่ 2
- เป็นแถบ เป็นลายเส้นยาว มักเรียงขนานกันเป็นกลุ่ม หรือเชื่อมกันที่มุมเล็ก ๆ
- ชนิดย่อย
-
- 2A
- ลายเส้นกระจาย, มีขอบที่เบอล
- 2B
- ลายเส้นและขอบคมชัด
- ชนิดที่ 3
- เป็นลายคลื่น เว้นระยะอย่างชัดเจน สายเส้นขนานกันเป็นช่วงสั้น ๆ
- ชนิดย่อย
-
- 3A
- ลายเส้นสั้น ตรง และ แคบ
- 3B
- โครงสร้างคล้ายเมฆและมีความเคลื่อนไหว
- ชนิดที่ 4
- วงวน บางส่วน (หรือส่วนมาก หรือทั้งหมด) เป็นรูปวงแหวนที่มีศูนย์กลางมืด
- ชนิดย่อย
-
- 4A
- Whirls possessing a small angular radius of curvature, sometimes resembling light ripples on a water surface.
- 4B
- Simple curve of medium angular radius with one or more bands.
- 4C
- Whirls with large-scale ring structures.
การระบุตัวตนและการแบ่งประเภทเมฆสตราโทสเฟียร์ขั้วโลก[แก้]
เมฆก่อตัวเป็นซีร์รัสระดับสูง[แก้]
เมฆเนครีอัส (หอยมุข) และเมฆที่ไม่ใช่เนครีอัส[แก้]
การระบุตัวตนและการแบ่งประเภทเมฆในชั้นโทรโพสเฟียร์[แก้]
เมฆก่อตัวเป็นซีร์รัส, สเตรโตคิวมูลัส และ สเตรตัสระดับสูง[แก้]
เมฆระดับสูงก่อตัวขึ้นในบริเวณที่สูงที่สุดและหนาวเย็นที่สุดของโทรโพสเฟียร์ ตั้งแต่ประมาณ 5 ถึง 12 กิโลเมตร (16,500 ถึง 40,000 ฟุต) ในเขตอบอุ่น[3][4] ที่ความสูงนี้ น้้ำมักจะแข็งตัวเป็นเมฆระดับสูง ซึ่งโดยทั่วไปจะประกอบด้วยผลึกน้ำแข็งหรือหยดน้ำเย็นยิ่งยวด (supercooled water)
สกุลซีร์รัส[แก้]
ตัวย่อ: Ci
เมฆก่อตัวเป็นซีร์รัส (Cirriform) มักจะเป็นชิ้นเล็ก ๆ และโปร่งแสงหรือโปรงใสเป็นส่วนมาก เมฆซีร์รัสโดดเดี่ยว (Isolated) จะไม่ทำให้เกิดฝน อย่างไรก็ตาม เมฆซีร์รัสจำนวนมากสามารถบ่งบอกได้ถึงการมาถึงของระบบพายุได้ แม้ว่าอากาศในขณะนั้นจะดีก็ตาม
เมฆในสกุลซีร์รัสมีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับชนิดและพันธ์ุ:
ชนิด[แก้]
- เมฆซีร์รัสไฟเบรตัส (Cirrus fibratus) (V-1)
เมฆระดับสูงมีลักษณะปรากฏคล้าย "หางของม้าตัวเมีย" เมฆเหล่านี้เป็นเมฆยาว เป็นเส้น ๆ และโค้งโดยไม่มีปอยหรือการม้วนที่ปลายเมฆ - เมฆซีร์รัสอันไซนัส (Cirrus uncinus) (V-2)
เมฆที่มีลักษณะเป็นเส้นใยที่มีปลายโค้งเป็นตะขอหรือรูปร่างม้วนแบบหงายขึ้น - เมฆซีร์รัสสปิสเซตัส (Cirrus spissatus) (V-3)
เมฆที่มีลักษณะเป็นแผ่นหนาแน่นและทึบแสง หรือส่วนมากทึบแสง - เมฆซีร์รัสแคสเทลเลนัส (Cirrus castellanus) (V-4)
เมฆที่มีลักษณะเป็นก้อนหนาแน่นหรือเป็น "หอคอย" ที่เชื่อมต่อกันด้วยฐานบาง ๆ - เมฆซีร์รัสฟล็อกคัส (Cirrus floccus) (V-5)
เมฆที่มีลักษณะโค้งมนปรากฏขึ้นที่ยอด โดยส่วนด้านล่างของเมฆมีลักษณะขรุขระ[5]
- การแบ่งชนิดตามความทึบ
- ไม่มี; โปรงแสงเสมอแยกเว้นชนิดสปิสเซตัส ซึ่งมีลักษณะทึบโดยธรรมชาติ[6]
- การแบ่งชนิดตามความทึบ
- การแบ่งชนิดตามลักษณะแบบไฟเบรตัส
- เมฆซีร์รัสไฟเบรตัสอินทอร์ตัส (Cirrus fibratus intortus) (V-6)
เมฆที่มีลักษณะโค้งงอหรือพันกันไม่สม่ำเสมอ - เมฆซีร์รัสไฟเบรตัสเวอร์ทีเบรตัส (Cirrus fibratus vertebratus) (V-7)
เมฆที่มีการจัดเรียงตัวเป็นแบบโครงกระดูกสัตว์หรือก้างปลา
- เมฆซีร์รัสไฟเบรตัสอินทอร์ตัส (Cirrus fibratus intortus) (V-6)
- การแบ่งชนิดตามลักษณะแบบไฟเบรตัส
- การแบ่งชนิดตามลักษณะแบบเรดิเอตัส
เมฆที่มีลักษณะเป็นแถบแนวนอนที่ดูเหมือนจะบรรจบกันที่ขอบฟ้า โดยปกติจะเกี่ยวข้องกับชนิดไฟเบรตัสและอันไซนัส- เมฆซีร์รัสไฟเบรตัสเรดิเอตัส (Cirrus fibratus radiatus) (V-8)
- เมฆซีร์รัสอันไซนัสเรดิเอตัส (Cirrus uncinus radiatus) (V-9)
- การแบ่งชนิดตามลักษณะแบบเรดิเอตัส
- การแบ่งชนิดตามลักษณะแบบดูพลิเคตัส
เมฆที่มีลักษณะเป็นแผ่น ๆ อยู่ในชั้นต่าง ๆ ของโทรโพสเฟียร์ระดับบน ซึ่งอาจเชื่อมกันที่จุดหนึ่งหรือมากกว่า โดยปกติจะเกี่ยวข้องกับชนิดไฟเบรตัสและอันไซนัส- เมฆซีร์รัสไฟเบรตัสดูพลิเคตัส (Cirrus fibratus duplicatus) (V-10)
- เมฆซีร์รัสอันไซนัสดูพลิเคตัส (V-11)
- พันธ์ุโดยปกติจะไม่เกี่ยวข้องกับเมฆซีร์รัสชนิดสปิสเซตัส, แคสเทลเลนัส หรือ ฟล็อกคัส[5][6]
- การแบ่งชนิดตามลักษณะแบบดูพลิเคตัส
- เมฆลักษณะเสริมบนหยาดน้ำฟ้า
- ไม่มีความสัมพันธ์กับเมฆซีร์รัส
- เมฆลักษณะเสริมบนหยาดน้ำฟ้า
- เมฆลักษณะเสริมบนเมฆ
- แมมมา (Mamma)
ส่วนที่ยื่นออกมาคล้ายกับฟองสบู่ ส่วนมากจะพบในชนิดแคสเทลเลนัส[7]
- แมมมา (Mamma)
- เมฆลักษณะเสริมบนเมฆ
- เมฆดั้งเดิมเจนิตัส
- เมฆซีร์รัส ซีร์โรคิวมูโลเจนิตัส (Cirrus cirrocumulogenitus)
- เมฆซีร์รัส อัลโตคิวมูโลเจนิตัส (Cirrus altocumulogenitus)
- เมฆซีร์รัส คิวมูโลนิมโบเจนิตัส (Cirrus cumulonimbogenitus)
- เมฆซีร์รัส โฮโมเจนิตัส (Cirrus homogenitus)
เมฆซีร์รัสที่เกิดจากแพร่ของคอนเทรลจากอากาศยาน
- เมฆดั้งเดิมเจนิตัส
- เมฆดั้งเดิมมิวเตตัส
- เมฆซีร์รัส ซีร์โรสเตรโตมิวเตตัส (Cirrus cirrostratomutatus)
- เมฆดั้งเดิมมิวเตตัส
สกุลซีร์โรคิวมูลัส[แก้]
ตัวย่อ: Cc.[3]
เมฆก่อตัวเป็นสเตรโตคิวมูลัสระดับสูงของสกุลเมฆซีร์โรคิวมูลัส ก่อตัวขึ้นเมื่อความชื้นในอากาศในชั้นบนของชั้นโทรโพสเฟียร์ถึงจุดอิ่มตัว โดยก่อตัวขึ้นเป็นผลึกน้ำแข็งหรือหยดน้ำเย็นยิ่งยวด การพาความอย่างจำกัดที่ไม่เสถียรในเมฆระดับนี้ ทำให้เมฆมีลักษณะปรากฏม้วนหรือเป็นระลอกคลื่น และถึงแม้ว่าจะไม่มีคำนำหน้าว่า สเตรโต- แต่เมฆซีร์โรคิวมูลัสที่เรียงตัวเป็นชั้น นับเป็นเมฆในสกุลที่ก่อตัวเป็นสเตรโตคิวมูลัสโดยธรรมชาติ[8]
ชนิดที่ก่อตัวเป็นสเตรโตคิวมูลัสระดับสูง[แก้]
- เมฆซีร์โรคิวมูลัสสเตรติฟอร์มิส (Cirrocumulus stratiformis)[9] (V-12)
เมฆที่มีลักษณะเป็นแผ่นหรือเป็นเมฆซีร์โรคิวมูลัสที่มีลักษณะค่อนข้างแบน - เมฆซีร์โรคิวมูลัสเลนติคิวลาริส (Cirrocumulus lenticularis)[9] (V-13)
เมฆที่มีลักษณะเป็นรูปเลนส์ หรือเมฆชั้นสูงที่มีรูปทรงคล้ายเลนส์ - เมฆซีร์โรคิวมูลัสแคสเทลเลนัส (Cirrocumulus castellanus)[9] (V-14)
ชั้นของเมฆซีร์โรคิวมูลัสที่มี "หอคอย" หรือหอคอยเล็กที่เชื่อมอยู่กับฐาน - เมฆซีร์โรคิวมูลัสฟล็อกคัส (Cirrocumulus floccus)[9] (V-15)
เมฆขนาดเล็กมากสีขาวที่มีฐานขรุขระ และมียอดกลม[5]
- การแบ่งชนิดตามความทึบ
- ไม่มี (โปรงแสงเสมอ)
- แบบของเมฆที่ก่อตัวเป็นสเตรโตคิวมูลัสตามพันธุ์อันดูเลตัส
เมฆซีร์โรคิวมูลัสที่มีฐานเป็นคลื่น โดยปกติจะเกี่ยวข้องกับชนิดสเตรติฟอร์มิสและเลนติคิวลาริส (V-16)- เมฆซีร์โรคิวมูลัสสเตรติฟอร์มิสอันดูเลตัส (Cirrocumulus stratiformis undulatus) (V-17)
- เมฆซีร์โรคิวมูลัสเลนติคิวลาริสอันดูเลตัส (Cirrocumulus lenticularis undulatus)[6] (V-18)
- การแบ่งชนิดตามความทึบ
- แบบตามพันธุ์ลาคิวโนซัส
เมฆซีร์โรคิวมูลัสที่มีช่องโปร่งใสขนาดใหญ่ โดยปกติจะเกี่ยวข้องกับชนิดสเตรติฟอร์มิสและแคสเทลเลนัส (และยังมีชนิดเมฆที่ก่อตัวเป็นคิวมูลัสฟล็อกคัสด้วย) - เมฆที่ก่อตัวเป็นสเตรโตคิวมูลัสลาคิวโนซัส (Stratocumuliform lacunosus)
- เมฆซีร์โรคิวมูลัสสเตรติฟอร์มิสลาคิวโนซัส (Cirrocumulus stratiformis lacunosus) (V-19)
- เมฆซีร์โรคิวมูลัสแคสเทลลานัสลาคิวโนซัส (Cirrocumulus castellanus lacunosus) (V-20)
- เมฆซีร์โรคิวมูลัสฟล็อกคัสลาคิวโนซัส (Cirrocumulus floccus lacunosus)[6] (V-21)
- แบบตามพันธุ์ลาคิวโนซัส
- เมฆลักษณะเสริมบนหยาดน้ำฟ้า
- เวอร์ก้า (Virga)
มีหยาดน้ำฟ้าบาง ๆ ที่ระเหยไปเหนือพื้นดิน ส่วนมากจะพบในชนิดสเตรติฟอร์มิส, แคสเทลเลนัส และ ฟล็อกคัส[7]
- เวอร์ก้า (Virga)
- เมฆลักษณะเสริมบนหยาดน้ำฟ้า
- เมฆลักษณะเสริมบนเมฆ
- แมมมา (Mamma)
มีส่วนที่ยื่นลงมาคล้ายกับฟอง ส่วนมากจะพบในชนิดแคสเทลเลนัส
- แมมมา (Mamma)
- เมฆลักษณะเสริมบนเมฆ
- เมฆดั้งเดิมเจนิตัส
- เมฆซีร์โรคิวมูลัส โฮโมเจนิตัส (Cirrocumulus homogenitus)
เมฆซีร์โรคิวมูลัสที่เกิดจากแพร่ของคอนเทรลจากอากาศยาน
- เมฆซีร์โรคิวมูลัส โฮโมเจนิตัส (Cirrocumulus homogenitus)
- เมฆดั้งเดิมเจนิตัส
- เมฆดั้งเดิมมิวเตตัส
- เมฆซีร์โรคิวมูลัส ซีร์โรมิวเตตัส (Cirrocumulus cirromutatus)
- เมฆซีร์โรคิวมูลัส ซีร์โรสเตรโตมิวเตตัส (Cirrocumulus cirrostratomutatus)
- เมฆซีร์โรคิวมูลัส อัลโตคิวมูโลมิวเตตัส (Cirrocumulus altocumulomutatus)
- เมฆดั้งเดิมมิวเตตัส
สกุลซีร์โรสเตรตัส[แก้]
ชนิด[แก้]
เมฆก่อตัวเป็นสเตรโตคิวมูลัสและสเตรตัสระดับกลาง[แก้]
สกุลอัลโตคิวมูลัส[แก้]
ชนิดที่ก่อตัวเป็นสเตรโตคิวมูลัสระดับกลาง[แก้]
สกุลอัลโตสเตรตัส[แก้]
ชนิด[แก้]
เมฆก่อตัวเป็นคิวมูโลนิมบัส, คิวมูลัส และ สเตรตัสในแนวตั้งหลายระดับ (ฐานเมฆในระดับต่ำถึงกลาง)[แก้]
สกุลคิวมูโลนิมบัส: หอคอยแนวตั้ง[แก้]
ชนิด[แก้]
สกุลคิวมูลัส: หอคอยแนวตั้ง[แก้]
ชนิด[แก้]
สกุลนิมโบสเตรตัส: แนวตั้งระดับกลางหรือลึก[แก้]
ชนิด[แก้]
สกุลคิวมูลัส: แนวตั้งระดับกลาง[แก้]
ชนิด[แก้]
เมฆก่อตัวเป็นสเตรโตคิวมูลัส, คิวมูลัส และ สเตรตัสระดับต่ำ[แก้]
สกุลสเตรโตคิวมูลัส[แก้]
ชนิด[แก้]
สกุลคิวมูลัส (เมฆที่เจริญในแนวตั้งเล็กน้อย)[แก้]
ชนิด[แก้]
สกุลสเตรตัส[แก้]
ชนิด[แก้]
ชื่อและนิรุกติศาสตร์ของเมฆโทรโพสเฟียร์[แก้]
สกุลเมฆของ WMO[แก้]
ชนิดเมฆของ WMO[แก้]
พันธุ์เมฆของ WMO[แก้]
ลักษณะเสริมเมฆของ WMO[แก้]
เมฆดั้งเดิม (เจนิตัส)[แก้]
เมฆเจนิตัสอื่น ๆ[แก้]
เมฆดั้งเดิม (มิวเตตัส)[แก้]
ข้อกำหนดอย่างไม่เป็นทางการล่าสุดว่าด้วยแบ่งประเภทและการตั้งชื่อละตินที่ได้รับการยอมรับโดย WMO[แก้]
WMO กับข้อกำหนดอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับชนิดของเมฆที่มีการพาความร้อนอย่างอิสระและพายุ[แก้]
ดาวเคราะห์ดวงอื่น[แก้]
ดาวศุกร์[แก้]
เมฆที่ก่อตัวเป็นสเตรตัส[แก้]
เมฆที่ก่อตัวเป็นสเตรโตคิวมูลัส[แก้]
เมฆที่ก่อตัวเป็นคิวมูลัสและคิวมูโลนิมบัส[แก้]
ดาวอังคาร[แก้]
เมฆที่ก่อตัวเป็นซีร์รัสระดับสูงสุดขีด[แก้]
เมฆที่ก่อตัวเป็นซีร์รัสระดับสูง[แก้]
เมฆที่ก่อตัวเป็นสเตรโตคิวมูลัสระดับสูง[แก้]
เมฆที่ก่อตัวเป็นสเตรโตคิวมูลัสระดับต่ำ[แก้]
เมฆบริเวณพื้นผิว[แก้]
ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์[แก้]
เมฆที่ก่อตัวเป็นซีร์รัส[แก้]
เมฆที่ก่อตัวเป็นสเตรตัสและสเตรโตคิสมูลัส[แก้]
เมฆที่ก่อตัวเป็นคิวมูลัสและคิวมูโลนิมบัส[แก้]
ดาวยูเรนัสและดาวเนปจูน[แก้]
เมฆที่ก่อตัวเป็นซีร์รัส[แก้]
เมฆที่ก่อตัวเป็นสเตรตัส[แก้]
เมฆที่ก่อตัวเป็นคิวมูลัสและคิวมูโลนิมบัส[แก้]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ World Meteorological Organization, บ.ก. (1975). Noctilucent, International Cloud Atlas (PDF). Vol. I. p. 66. ISBN 92-63-10407-7. สืบค้นเมื่อ 26 August 2014.
- ↑ Michael Gadsden; Pekka Parviainen (September 2006). Observing Noctilucent Clouds (PDF). International Association of Geomagnetism & Aeronomy. p. 9. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 31 October 2008. สืบค้นเมื่อ 31 January 2011.
{{cite book}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|lastauthoramp=
ถูกละเว้น แนะนำ (|name-list-style=
) (help) - ↑ 3.0 3.1 Clouds Online (2012). "Cloud Atlas". สืบค้นเมื่อ 1 February 2012.
- ↑ JetStream (5 January 2010). "Cloud Classifications". National Weather Service. สืบค้นเมื่อ 31 January 2011.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 Boyd, Sylke (2008). "Clouds – Species and Varieties". University of Minnesota. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 30, 2010. สืบค้นเมื่อ 4 February 2012.
- ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 Aerographer/Meteorology (2012). "Cloud Variety". meteorologytraining.tpub.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 December 2012. สืบค้นเมื่อ 2 July 2012.
- ↑ 7.0 7.1 World Meteorological Organization, บ.ก. (1975). Features, International Cloud Atlas (PDF). Vol. I. pp. 22–24. ISBN 92-63-10407-7. สืบค้นเมื่อ 26 August 2014.
- ↑ Burroughs, William James; Crowder, Bob (January 2007). Weather, p.216. Fog City Press, San Francisco. ISBN 978-1-74089-579-8.
- ↑ 9.0 9.1 9.2 9.3 World Meteorological Organization, บ.ก. (1975). Species, International Cloud Atlas (PDF). Vol. I. pp. 17–20. ISBN 92-63-10407-7. สืบค้นเมื่อ 26 August 2014.