จาตุรันต์ ศิริพงษ์
จาตุรันต์ ศิริพงษ์ | |
---|---|
รูปถ่ายหน้าตรงของจาตุรันต์ในปี พ.ศ. 2524 โดยตำรวจการ์เดนโกรฟ | |
เกิด | 19 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ประเทศไทย |
เสียชีวิต | 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 (47 ปี) เรือนจำรัฐซานเควนติน ซานเควนติน แคลิฟอร์เนีย สหรัฐ |
สาเหตุเสียชีวิต | ประหารชีวิตด้วยการฉีดสารพิษ |
ชื่ออื่น | เจ ศิริพงษ์ |
พิพากษาลงโทษฐาน | ฆาตกรรมระดับแรกด้วยพฤติการณ์พิเศษ (2 กระทง) ลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ |
บทลงโทษ | ประหารชีวิต (22 เมษายน พ.ศ. 2526) |
รายละเอียด | |
ผู้เสียหาย | แพทโคเวน “แพท” วัฒนาพร อายุ 36 ปี ควอช เหงียน อายุ 52 ปี |
วันที่ | 15 ธันวาคม พ.ศ. 2524 |
ประเทศ | สหรัฐ |
รัฐ | แคลิฟอร์เนีย |
อาวุธ | มีดและเชือก |
วันที่ถูกจับ | 17 ธันวาคม พ.ศ. 2524 |
จำคุกที่ | เรือนจำซานเควนติน |
จาตุรันต์ ศิริพงษ์ (19 ตุลาคม พ.ศ. 2494 – 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542)[1] เป็นชาวไทยที่ถูกรัฐแคลิฟอร์เนียลงโทษประหารชีวิต เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2524 ในคดีฆาตกรรมสองศพ ระหว่างการโจรกรรมในเมืองการ์เดนโกรฟ รัฐแคลิฟอร์เนีย จาตุรันต์ยืนยันว่าเขาเกี่ยวข้องกับการโจรกรรม แต่ไม่ใช่ผู้ลงมือฆ่า ในที่สุด เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกตัดสินประหารชีวิตในปี พ.ศ. 2526 และต่อมาถูกประหารชีวิตในปี พ.ศ. 2542 ที่ เรือนจำซานเควนติน ด้วยการฉีดยาพิษ นับเป็นอาชญากรชาวไทยคนแรกที่ถูกประหารชีวิตในสหรัฐอเมริกา[2][3]
ชีวิตในวัยเด็ก[แก้]
จาตุรันต์เกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ที่ประเทศไทย[4] ในครอบครัวที่ยากจน โดยอาศัยอยู่ในซ่องหลังจากที่พ่อแม่หย่าร้างกัน เขาเติบโตโดยถูกทารุณกรรมทางร่างกายและเติบโตสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหนู รวมถึงไม่มีไฟฟ้าหรือน้ำประปาให้ใช้ เมื่ออายุได้ 20 ปี เขาถูกยิงที่ศีรษะขณะปล้นห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในประเทศไทย เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานมีส่วนร่วมในการโจรกรรมและถูกคุมขังในเรือนจำในประเทศไทย[5] หลังจากที่เขาถูกปล่อยตัวจากเรือนจำเนื่องจากมีความประพฤติดี เขาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา ต่อมาเขาได้งานเป็นพ่อครัวบนเรือบรรทุกสินค้า หลังจากนั้นเขาได้ช่วยเหลือหน่วยงานด้านยาเสพติดของสหรัฐในปฏิบัติการล่อซื้อ ทำให้ได้รับเงินสำหรับใช้ตั้งตัวในสหรัฐ[6]
คดีฆาตกรรม[แก้]
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2524 พบศพของ แพทโคเวน วัฒนาพร ผู้จัดการร้าน อายุ 36 ปี และ ควอช เหงียน พนักงานร้าน อายุ 52 ปี ในห้องเก็บของของร้านค้าปลีกในเมืองการ์เดนโกรฟ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยสภาพศพของผู้จัดการร้านถูกรัดคอจนเสียชีวิต ขณะที่พนักงานร้านถูกแทงหลายครั้งที่ศีรษะและคอ[2]
การจับกุม และการพิจารณาคดี[แก้]
สองวันต่อมา วันที่ 17 ธันวาคม จาตุรันต์พยายามซื้อสินค้าโดยใช้บัตรเครดิตของผู้จัดการร้านที่เสียชีวิต ตำรวจจึงจับกุมตัวเขาและนำตัวเขาไปสอบปากคำ นอกจากนี้คราบเลือดที่พบในที่เกิดเหตุก็ตรงกับกรุ๊ปเลือดของจาตุรันต์ และเขามีบาดแผลที่นิ้วหลายจุด ต่อมาพบว่า ในบางครั้งเขาก็ทำงานที่ร้านค้าเดียวกันนั้น[7] การค้นหาที่รถ และบ้านของเขาเผยให้เห็นว่าเขาเป็นเจ้าของมีดที่คล้ายกับอาวุธที่ใช้ฆ่าพนักงานร้าน นอกจากนี้ยังมีการค้นพบเครื่องประดับของผู้จัดการร้านที่เสียชีวิตหลายชิ้น รวมถึงพบหยดเลือดแห้งเปื้อนอยู่ในรถของเขา[2]
จาตุรันต์ถูกตัดสินเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2526 ว่ามีความผิดฐานลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ และฆาตกรรม คณะลูกขุนเทศมณฑลออเรนจ์ ลงความเห็นให้ตัดสินประหารชีวิต[2]
จาตุรันต์ให้การยอมรับว่าเขามีส่วนร่วมในการปล้น แต่มักจะอ้างว่าการฆาตกรรมเกิดขึ้นโดยผู้สมรู้ร่วมคิดทว่าไม่ได้ซัดทอดไปยังบุคคลดังกล่าว ทนายฝ่ายจำเลยของเขากล่าวว่า ผู้สมรู้ร่วมคิดของเขาคือน้องสาววัย 17 ปีของแฟนสาว ซึ่งเป็นพยานคนสำคัญในการพิจารณาคดีของเขา แต่เธอได้กลับประเทศไทยไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2538 ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางได้ทำการไต่สวนอยู่ 8 วัน และไม่พบหลักฐานที่สนับสนุนว่าจาตุรันต์มีผู้สมรู้ร่วมคิด[8]
การประหารชีวิต[แก้]
เดิมทีจาตุรันต์มีกำหนดประหารชีวิตในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2541 แต่ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางสหรัฐ มีมติให้ระงับการประหารชีวิตไว้ ต่อมาในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ผู้พิพากษาศาลสูงเทศมณฑลออเรนจ์ได้ลงนามในคำสั่งบังคับคดีสำหรับจาตุรันต์อีกครั้ง โดยกำหนดประหารชีวิตในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542[9]
ประชาชนหลายกลุ่มพยายามอุทธรณ์การประหารชีวิตของเขา ซึ่งรวมถึงสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 สามีซึ่งนับถือศาสนาพุทธของผู้จัดการร้านที่เสียชีวิต คณะลูกขุนสองคนในการพิจารณาคดีของเขา และอดีตผู้คุมเรือนจำซานเควนติน (แม้ว่าจะสนับสนุนให้คงมีการประการชีวิต แต่ได้พยายามไว้ชีวิตในกรณีของจาตุรันต์) รัฐบาลไทย ยังขอให้ไว้ชีวิตจาตุรันต์และให้เขากลับมารับโทษจำคุกตลอดชีวิตที่ประเทศไทย เกรย์ เดวิส ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียในขณะนั้น ปฏิเสธข้อเสนอและคำร้องขอที่เกี่ยวข้องกับจาตุรันต์[10] โดยกล่าวว่า "พฤติกรรมแบบอย่างที่ดี (ของจาตุรันต์) ไม่สามารถนำชีวิตของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายสองคนกลับคืนมาได้"[11] แม้ว่าหลายภาคส่วนจะไม่เห็นด้วยกับการประหารชีวิต แต่ก็มีกลุ่มคนที่สนับสนุน รวมทั้งลูกชายของ ผู้จัดการร้านที่เสียชีวิตด้วย โดยเขากล่าวว่า “จาตุรันต์ควรชดใช้ในสิ่งที่เขาทำ”[12]
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 จาตุรันต์ถูกประหารชีวิตในเรือนจำซานเควนตินด้วยการฉีดสารพิษ[13] อาหารมื้อสุดท้ายของเขาประกอบด้วย ชาเย็น Lucky Arctic สองกระป๋อง และลูกพีชกระป๋อง Mission Pride สองถ้วย[14] เขามิได้สั่งเสียอะไรในห้องประหารชีวิต[15] และถูกประกาศว่าเสียชีวิตในเวลา 00.19 น.[16] ในคืนที่เขาถูกประหารชีวิต พื้นที่รอบนอกเรือนจำซานเควนติน มีผู้ต่อต้านโทษประหารชีวิตปะทะกับผู้สนับสนุนโทษประหารชีวิตอย่างรุนแรง จนทำให้ตำรวจเทศมณฑลมารินต้องแยกทั้งสองกลุ่มออกจากกัน[17] ระหว่างที่เขารอรับโทษประหารชีวิต จาตุรันต์ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นนักโทษต้นแบบ เขาเชื่อว่าเขาจะกลับชาติมาเกิดหลังจากการประหารชีวิต ทั้งนี้ เขาประสงค์ที่จะเผาและโปรยอัฐิของเขาลงในทะเล[6]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "Death Penalty Stats" (XLS). Death Penalty Information Center. สืบค้นเมื่อ December 19, 2021.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 "Executed Inmate Summary – Jaturun Siripongs". California Department of Corrections and Rehabilitation. สืบค้นเมื่อ December 19, 2021.
- ↑ "People v. Siripongs (1988)". Justia Law (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-03-07.
- ↑ "Capital Punishment". California Department of Corrections and Rehabilitation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 11, 2014. สืบค้นเมื่อ December 19, 2021.
- ↑ Marosi, Richard; Hernandez, Greg (February 9, 1999). "Convicted Killer Siripongs Put to Death". Los Angeles Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-12-19. สืบค้นเมื่อ December 19, 2021.
- ↑ 6.0 6.1 Hatfield, Larry D. (February 9, 1999). "Siripongs put to death". San Francisco Chronicle. สืบค้นเมื่อ December 19, 2021.
- ↑ "National News Briefs; California Executes A Remorseful Killer". The New York Times. February 10, 1999. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-12-19. สืบค้นเมื่อ December 19, 2021.
- ↑ Salladay, Robert (February 7, 1999). "Governor refuses mercy for killer". San Francisco Examiner. pp. 1, 14. สืบค้นเมื่อ December 21, 2021 – โดยทาง Newspapers.com.
- ↑ "New execution order signed for killer who got reprieve". The Sacramento Bee. December 15, 1998. p. 2. สืบค้นเมื่อ December 21, 2021 – โดยทาง Newspapers.com.
- ↑ "Governor Rejects Clemency For Murderer From Thailand". Chicago Tribune. February 7, 1999. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-12-19. สืบค้นเมื่อ December 19, 2021.
- ↑ Gumbel, Andrew (February 8, 1999). "Buddhist monk to be executed in California". The Independent. สืบค้นเมื่อ December 19, 2021.
- ↑ Hatfield, Larry D. (February 9, 1999). "Pope's plea can't halt San Quentin execution". San Francisco Examiner. pp. 1, 12. สืบค้นเมื่อ December 21, 2021 – โดยทาง Newspapers.com.
- ↑ "California executes former monk for killing 2". Deseret News. February 9, 1999. สืบค้นเมื่อ December 19, 2021.
- ↑ Dillow, Gordon (December 11, 2005). "The killers die too easy and too full in this state". Orange County Register. สืบค้นเมื่อ December 19, 2021.
- ↑ Fimrite, Peter (February 9, 1999). "Double-Slayer Dies at San Quentin / Ex-Buddhist monk executed despite appeal by pope". SFGATE (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ January 5, 2022.
- ↑ Dougan, Michael (February 9, 1999). "Eerie echoes rattle state death chamber". San Francisco Examiner. pp. 1, 12. สืบค้นเมื่อ December 21, 2021 – โดยทาง Newspapers.com.
- ↑ Warren, Mackenzie (February 9, 1999). "Heckling, fistfights erupt at death penalty vigil". San Francisco Examiner. p. 12. สืบค้นเมื่อ December 21, 2021 – โดยทาง Newspapers.com.