ข้ามไปเนื้อหา

แนโบโพแลสซาร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แนโบโพแลสซาร์
แผ่นดินเหนียวทรงกระบอกของแนโบโพแลสซาร์จากบาบิโลน
กษัตริย์แห่งจักรวรรดิบาบิโลเนียใหม่
ครองราชย์22/23 พฤศจิกายน 626 ปีก่อนคริสต์ศักราช – กรกฎาคม 605 ปีก่อนคริสต์ศักราช[1][2]
ก่อนหน้าซินชาร์อิชคุน
(จักรวรรดิอัสซีเรียใหม่)
ถัดไปพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่ 2
ประสูติป. 658 ปีก่อนคริสต์ศักราช[3]
อูรุก (?)
สวรรคต605 ปีก่อนคริสต์ศักราช[3] (ป. 53 พรรษา)
บาบิโลน
พระราชบุตรพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่ 2
เนบู-ชุม-ลีชีร์
เนบู-เซร์-อูชับชี
แอกแคดNabû-apla-uṣur
ราชวงศ์ราชวงศ์แคลเดีย
พระราชบิดากูรดูร์รู (?)

แนโบโพแลสซาร์ (อังกฤษ: Nabopolassar; อักษรรูปลิ่มบาบิโลน: Nabû-apla-uṣur,[4][5][6] หมายถึง "นาบู ปกป้องพระโอรส")[6] ทรงเป็นกษัตริย์แห่งบาบิโลเนีย และเป็นบุคคลที่มีส่วนในการล่มสลายของจักรวรรดิอัสซีเรีย[7] และการสถาปนาจักรวรรดิบาบิโลเนียใหม่

การสวรรคตของพระเจ้าอาชูร์บานิพัล (Ashurbanipal) ทำให้จักรวรรดิอัสซีเรียเกิดความระส่ำระสาย ชาวบาบิโลนได้ก่อกบฏขึ้นและแนโบโพแลสซาร์ได้ตั้งต้นเป็นกษัตริย์[8] พระองค์เป็นพันธมิตรกับพระเจ้าไซอาซาเรส (Cyaxares) แห่งจักรวรรดิมีเดียน และทำสงครามกับอาชูร์-อิทิล-อิลานี (Ashur-etil-ilani) โอรสของพระเจ้าอาชูร์บานิพัล ในปีที่ 615 ก่อนคริสต์ศักราช พระเจ้าแนโบโพแลสซาร์ได้เข้ายึดเมืองนิปปูร์ (Nippur)[9] และส่งกำลังไปช่วยพระเจ้าไซอาซาเรสในการล้อมเมืองอาชูร์ แต่กองทัพของพระองค์ไปถึงหลังอาชูร์เสียเมืองแล้ว[10]

หลังยึดเมืองอาชูร์ได้ พระเจ้าแนโบโพแลสซาร์และพระเจ้าไซอาซาเรสได้ร่วมกันตีเมืองนิเนเวห์ เมืองหลวงของจักรวรรดิอัสซีเรีย จนในที่สุดในปีที่ 612 ก่อนคริสต์ศักราช พระองค์ก็ทรงยึดเมืองหลวงได้สำเร็จ[8] อาชูร์-อูบัลลิตที่ 2 (Ashur-uballit II) ผู้นำของอัสซีเรียได้ถอนทัพไปที่เมืองฮาร์รัน (Harran) ทางตอนเหนือของซีเรีย ต่อมาในปีที่ 610 ก่อนคริสต์ศักราช พระเจ้าแนโบโพแลสซาร์ได้เข้ายึดเมืองนี้[8] อาชูร์-อูบัลลิตที่ 2 และกองทัพพันธมิตรจากฟาโรห์เนโคที่ 2 (Necho II) ได้ยกทัพกลับมาที่ฮาร์รันอีกครั้ง แต่ไม่สามารถตีเมืองนี้ได้

ในปีที่ 605 ก่อนคริสต์ศักราช พระเจ้าแนโบโพแลสซาร์ได้สละราชสมบัติ พระโอรสของพระองค์ พระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่ 2 (Nebuchadnezzar II) รบชนะฟาโรห์เนโคที่ 2 ในยุทธการที่คาร์เคมิช (Battle of Carchemish) และรีบเดินทางไปบาบิโลเนียเพื่อจัดการในเรื่องสิทธิในการขึ้นครองราชย์หลังพระบิดาสวรรคต[11] รัชสมัยของพระเจ้าแนโบโพแลสซาร์และพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่ 2 เป็นยุคที่จักรวรรดิบาบิโลเนียใหม่มีการเจริญรุ่งเรือง มีการสร้างศาสนสถาน ซิกกุรัตและปราการต่าง ๆ ในปี ค.ศ. 1921 มีการพบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าพระเจ้าแนโบโพแลสซาร์เป็นคนเคร่งศาสนา มีข้อความบางส่วนที่กล่าวถึงความสำเร็จของพระองค์ที่เกิดขึ้นได้จากการสักการะเทพของศาสนาเมโสโปเตเมียโบราณ[12]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Lipschits 2005, p. 14.
  2. Parker & Dubberstein 1942, p. 9.
  3. 3.0 3.1 Garrison 2012, p. 43.
  4. Bertin 1891, p. 50.
  5. Jursa 2007, p. 134.
  6. 6.0 6.1 The British Museum 1886, p. ix.
  7. D. Brendan Nagle, The Ancient World: A Social and Cultural History, 6th ed., Upper Saddle River, N.J.: Pearson, 58.
  8. 8.0 8.1 8.2 "Lendering, Jona. "Nabopolassar", Livius.org". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-23. สืบค้นเมื่อ 2015-11-12.
  9. Sack, Ronald Herbert. Images of Nebuchadnezzar, Susquehanna University Press, 2004, ISBN 9781575910796
  10. "The fall of Nineveh, capital of the Assyrian Empire", The British Museum
  11. Van De Mieroop, Marc. 2007. A history of the ancient near east, Blackwell Publishing.
  12. Hanson, K.C., "Nabopolassar Cylinder"

บรรณานุกรม

[แก้]

ข้อมลเว็บ

[แก้]