เอสคิลัส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เอสคีลัส
Αἰσχύλος
Αἰσχύλος
เกิดราว 523 ปีก่อนคริสตกาล
เอลิวซิส (Eleusis)
เสียชีวิตราว 456 ปีก่อนคริสตกาล (อายุ 67 ปี)
เจลา
อาชีพนักประพันธ์บทละคร และทหาร
บุตรยูฟอเรียน
บุพการียูฟอเรียน (บิดา)
ญาติ

เอสคีลัส (อังกฤษ: Aeschylus; กรีกโบราณ: Αἰσχύλος ไอส-คู-ลอส; ภาษากรีกโบราณ[ai̯s.kʰý.los]; ราว 525/524 – 456/455 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นนักประพันธ์บทละครชาวกรีกโบราณ และได้รับการขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งโศกนาฏกรรม[1][2] งานประพันธ์ของเอสคีลัสเป็นงานโศกนาฏกรรมชุดแรกสุดที่เหลือรอดมาจากยุคโบราณ และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับงานประเภทนี้ในสมัยแรกเริ่ม ล้วนแต่ได้มาจากการอนุมานผ่านงานที่หลงเหลืออยู่ของท่าน[3][4] เอสคีลัสจึงเป็นบุคคลที่สำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์วรรณกรรมกรีกโบราณ อริสโตเติลให้เครดิตเอสคีลิสในฐานะเป็นศิลปินคนแรกที่ขยายจำนวนนักแสดงบนเวทีการละครของกรีก ทำให้สามารถนำเสนอความขัดแย้งระหว่างตัวละครได้ ในขณะที่ก่อนหน้านั้นการละครของกรีกมีแค่ตัวนักแสดงนำกับกลุ่มประสานเสียง (คอรัส)[5]

ในระหว่างที่มีชีวิตอยู่ เอสคีลัสประพันธ์บทละครไว้ระหว่าง 70 ถึง 90 เรื่อง แต่เหลือรอดมาถึงปัจจุบันเพียง 7 เรื่อง หนึ่งในนั้น พันธนาการโพรมีเทียส (Prometheus Bound) ยังเป็นที่ถกเถียงกันในเรื่องตัวตนของผู้ประพันธ์ (บ้างเชื่อว่า ยูฟอเรียน บุตรชายของเอสคีลัส เป็นผู้แต่งขึ้น) งานนาฏกรรมบทละครที่เอสคีลัสประพันธ์ขึ้น เป็นงานที่แต่งเพื่อเข้าแข่งขันในงานเทศกาลต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเทศกาลไดโอไนซัส ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในฤดูใบไม้ผลิ ที่เมืองไดโอไนเซีย (Dionysia) ซึ่งมีการแข่งขันสองรอบ คือ รอบแข่งขันงานโศกนาฏกรรม และรอบแข่งขันงานสุขนาฏกรรม (comedies) งานทั้งหมดที่เหลือรอดมาของเอสคิลัส ได้แก่ ชาวเปอร์เซีย, ศึกเจ็ดขุนพลชิงธีบส์, ดรุณีร้องทุกข์, ไตรภาคโศกนาฏกรรม โอเรสเตอา ประกอบด้วย: อะกาเมมนอน, ผู้ถือทักษิโณทก (the Libation Bearers), และ ยูเมนิดีส (the Eumenides) เคยได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันละครโศกนาฏกรรม ที่เมืองไดโอไนเซียมาแล้วทั้งสิ้น เว้นก็แต่ พันธนาการโพรมีเทียส เท่านั้น นอกจากนี้เอสคิลัสอาจเป็นนาฏศิลปินเพียงท่านเดียว (เท่าที่ทราบ) ที่เคยนำเสนอละครเป็นโศกนาฏกรรมไตรภาค ละครเรื่อง โอเรสเตอา เป็นตัวอย่างเดียวของบทประพันธ์ไตรภาคที่หลงเหลือมาจากยุคโบราณ

ในวัยหนุ่มเอสคีลัสเคยเป็นทหารที่ร่วมรบในสงครามระหว่างกรีซกับเปอร์เซียทั้งสองครั้ง ในตอนต้นของศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล ในปีที่ 490 ก่อนค.ศ. เอสคีลัสกับไคนีจิรัสน้องชายเข้าร่วมต่อสู้ในยุทธการที่มาราธอน เพื่อปกป้องเอเธนส์จากกองทัพของกษัตริย์ดาริอัสที่ 1 น้องชายของท่านตายในการต่อสู้และทั้งสองได้รับการยกย่องให้เป็น "วีรบุรุษแห่งทุ่งมาราธอน" ต่อมาพอพระเจ้าเซิร์กซีสแห่งเปอร์เชียยกทัพมาอีก ในปีที่ 480/479 ก่อนค.ศ. เอสคีลัสก็เข้ารับใช้ชาติอีกครั้งในสงครามครั้งที่สองกับเปอร์เซีย และเข้าร่วมรบในยุทธนาวีที่ซาลามิส สงครามเปอร์เซียมีอิทธิพลต่อชีวิตและงานของเอสคีลัสอย่างมาก ละครบางเรื่องของท่าน เช่น ชาวเปอร์เซีย (The Persians) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการศึกในสมรภูมิที่ซาลามิส และได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดละครที่ไดโอไนเซีย เมื่อปีที่ 472 ก่อนค.ศ.

เอสคีลัสถึงแก่กรรมที่เมืองเจลา ในซิซิลี เมื่อปีที่ 456 ก่อนค.ศ.

อ้างอิง[แก้]

  1. Freeman 1999, p. 243
  2. Schlegel, August Wilhelm von. Lectures on Dramatic Art and Literature. p. 121.
  3. R. Lattimore, Aeschylus I: Oresteia, 4
  4. Martin Cropp, 'Lost Tragedies: A Survey'; A Companion to Greek Tragedy, p. 273
  5. จารึกเพื่อรำลึกเหตุการณ์ใน ศตวรรษที่ 3 ก่อน ค.ศ. ให้รายชื่อของนักประพันธ์ศิลปะการละครไว้ 4 ท่าน ซึ่งเป็นผู้ชนะการแข่งขันการประกวดละครที่เทศกาลไดโอไนเซียก่อนเอสคิลัส โดย Thespis เป็นบุคคลที่ถือกันตามธรรมเนียมแต่เดิมว่าเป็นผู้คิดค้นศิลปะโศกนาฏกรรมขึ้น บางบันทึกก็กล่าวว่าละครโศกนาฏกรรมถูกคิดค้นขึ้น ณ กรุงเอเธนส์ ในราวทศวรรษที่ 530s ก่อนค.ศ. (Martin Cropp (2006), "Lost Tragedies: A Survey" in A Companion to Greek Tragedy, pp. 272–74)

บรรณานุกรม[แก้]