เขาเปอเล
เขาเปอเล | |
---|---|
จุดสูงสุด | |
ความสูง เหนือระดับน้ำทะเล | 1,397 เมตร (4,583 ฟุต) [1] |
ความสูง ส่วนยื่นจากฐาน | 1,381 เมตร (4,531 ฟุต) |
พิกัด | 14°49′N 61°10′W / 14.817°N 61.167°W |
ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ | |
ที่ตั้ง | มาร์ตีนิก |
ข้อมูลทางธรณีวิทยา | |
อายุหิน | มากกว่า 89 ปี |
ประเภทภูเขา | กรวยภูเขาไฟสลับชั้น |
แนวโค้ง/เข็มขัดภูเขาไฟ | Lesser Antilles Volcanic Arc |
การปะทุครั้งล่าสุด | ค.ศ. 1929–1932[2] |
การพิชิต | |
เส้นทางง่ายสุด | เดิน |
เขาเปอเล (ฝรั่งเศส: Montagne Pelée, [mɔ̃taɲ pəle]; ครีโอลแอนทิลลีส: Montann Pèlé, แปลว่า "ภูเขาหัวล้าน" หรือ "ภูเขาถูกปอก")[3] เป็นภูเขาไฟมีพลังบนปลายด้านทิศเหนือของเกาะมาร์ตีนิก (ดินแดนทะเลของฝรั่งเศสในทะเลแคริบเบียน) มีลักษณะเป็นกรวยภูเขาไฟสลับชั้น ส่วนกรวยประกอบด้วยชั้นของเถ้าธุลีภูเขาไฟและลาวาที่แข็งตัว[4] การปะทุครั้งล่าสุดเกิดขึ้นใน พ.ศ. 2475[2][5]
การปะทุใน พ.ศ. 2445 ที่ทำลายเมืองแซ็ง-ปีแยร์ ฆ่าคนไป 29,000 ถึง 30,000 คนภายใน 2-3 นาที กลายเป็นภัยพิบัติจากภูเขาไฟที่รุนแรงที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20[6]
การปะทุเมื่อ พ.ศ. 2445
[แก้]ก่อนที่จะเกิดการปะทุเมื่อ พ.ศ. 2445 เริ่มมีสัญญาณว่าเกิดพุแก๊สเพิ่มมากขึ้นในปล่อง Étang Sec ใกล้กับยอดเขามาตั้งแต่ฤดูร้อนใน พ.ศ. 2443 ไอน้ำที่ปะทุขึ้นมาเล็กน้อยใน พ.ศ. 2335 และ พ.ศ. 2394 แสดงให้เห็นว่าภูเขาไฟลูกนี้ยังมีพลังและมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นอันตราย คนพื้นเมืองชาวแคริบรู้จักภูเขาไฟลูกนี้ในฐานะ "ภูเขาอัคคี" จากการปะทุครั้งก่อนหน้าตั้งแต่โบราณกาล
แม้ว่าเวลาก่อนหน้านั้น เท่าที่มีคนทราบ ภูเขาไฟนี้ยังคงสงบเรื่อยมา แต่ก็เริ่มปะทุขึ้นในวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2445 เมื่อต้นเดือนเมษายน ได้มีนักเดินทางบันทึกไว้ว่ามีไอกำมะถันลอยออกมาจากพุแก๊สใกล้กับยอดเขา แต่ไม่มีผู้ใดให้ความสำคัญกับบันทึกครั้งนี้ เนื่องจากในอดีตเคยมีพุแก๊สเกิดขึ้นและหายไปอยู่หลายครั้ง
- 23 เมษายน - ภูเขาไฟพ่นกรวดภูเขาไฟซึ่งตกโปรยปรายบนด้านทิศใต้และทิศตะวันตกของภูเขาไฟ
- 25 เมษายน - ยอดภูเขาไฟพ่นกลุ่มควันซึ่งเต็มไปด้วยหินและเถ้าธุลีออกมา แต่ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายที่รุนแรงนัก
- 26 เมษายน - พื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยเถ้าธุลีภูเขาไฟกระจัดกระจายอยู่ทั่ว แต่ทางฝ่ายบริหารของเมืองยังคงไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน
- 27 เมษายน - นักเดินทางจำนวนมากปีนขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อสำรวจปล่อง Étang Sec ซึ่งขณะนั้นมีน้ำอยู่เต็ม เกิดเป็นทะเลสาบขนาดกว้าง 180 เมตร มีกองเศษหินภูเขาไฟสูง 15 เมตรตั้งอยู่ที่ด้านหนึ่งของทะเลสาบ มีเสียงคล้ายน้ำเดือดในหม้อดังออกมาจากใต้ดิน ขณะที่ในเมืองซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาไฟถึง 4 ไมล์เริ่มมีกลิ่นรุนแรงของกำมะถันแพร่กระจายไปทั่ว
- 30 เมษายน - น้ำในแม่น้ำแม่น้ำ Roxelane และ Rivière des Pères เอ่อล้น ไหลพัดพาเอาหินและต้นไม้ลงจากยอดเขา หมู่บ้าน Prêcheur และ Ste. Philomène ได้รับผลกระทบจากกลุ่มเถ้าธุลีที่พัดเข้าปกคลุมอย่างต่อเนื่อง
- 2 พฤษภาคม - เวลา 11.30 น. เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงบนภูเขาไฟ ตามมาด้วยแผ่นดินไหว และควันดำหนาจำนวนมหาศาลพวยพุ่งขึ้น พื้นที่ครึ่งหนึ่งของเกาะด้านทิศเหนือถูกปกคลุมด้วยเถ้าธุลีและหินพัมมิซเป็นเม็ดละเอียด การระเบิดดำเนินอยู่ราว 5-6 ชั่วโมง ปศุสัตว์เริ่มล้มตายลงด้วยความโหยหิวและกระหายน้ำ เนื่องจากแหล่งน้ำและอาหารปนเปื้อนด้วยเถ้าธุลี
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ "La Montagne Pelée". Observatoire volcanologique et sismologique de la Martinique (ภาษาฝรั่งเศส). Institut de Physique du Globe de Paris. สืบค้นเมื่อ 8 March 2017.
- ↑ 2.0 2.1 "Pelee". Global Volcanism Program. Smithsonian Institution. สืบค้นเมื่อ 8 March 2017.
- ↑ Scarth, Alwyn (2002). La Catastrophe: The Eruption of Mount Pelee, the Worst Volcanic Eruption of the Twentieth Century. Oxford: Oxford University Press. p. 2. ISBN 0-19-521839-6.
- ↑ "Mount Pelee". Mount-pelee.com.
- ↑ "Glossary". NOAA. สืบค้นเมื่อ 27 January 2021.
- ↑ การปะทุครั้งร้ายแรง
- "Deadliest Eruptions". Pacific Disaster Center. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-19. สืบค้นเมื่อ 2010-06-30.
- Wright, Thomas L.; Pierson, Thomas C. (1992). Living with Volcanoes. USGS Circular 1073. USGS. p. 39. doi:10.3133/cir1073.
- Tilling (1985). Volcanoes. USGS. pp. 16–17.
- "1902 eruption of Mount Pelee". USGS. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 September 2013. สืบค้นเมื่อ 29 March 2017.
- Blong, R.J. (1984). Volcanic Hazards: A Sourcebook on the Effects of Eruptions. Orlando, Florida: Academic Press. ISBN 9780121071806.
- Heilprin, Angelo (1903). Mont Pelee and the Tragedy of Martinique. Philadelphia: J. B. Lippincott Company. สืบค้นเมื่อ 2009-08-15.