ข้ามไปเนื้อหา

อังเกลา ฮิตเลอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อังเกลา ฮิตเลอร์
Angela Hitler (1939)
เกิดAngela Franziska Johanna Hitler
28 กรกฎาคม ค.ศ. 1883(1883-07-28)
เบราเนา, ออสเตรีย-ฮังการี
เสียชีวิต30 ตุลาคม ค.ศ. 1949(1949-10-30) (66 ปี)
ฮันโนเฟอร์, เยอรมนีตะวันตก
สัญชาติออสเตรีย-ฮังการี, ออสเตรีย
ชื่ออื่นอังเกลา เราบัล
อังเกลา แฮมมิซ
คู่สมรสลีโอ เราบัล,ซีเนียร์ (เสียชีวิต 1903–1910)
มารติน แฮมมิซ (เสียชีวิต 1936–1945)
บุตรลีโอ รูดอลฟ์ เราบัล
เกลี เราบัล
Elfriede (Friedl) Raubal
บิดามารดาอาล็อยส์ ฮิตเลอร์, ซีเนียร์
Franziska Matzelsberger Stepmother: คลารา ฮิตเลอร์[1]
ญาติอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (น้องชายต่างมารดา)
อาล็อยส์ ฮิตเลอร์, จูนเนียร์ (น้องชาย)
กุสตาฟ ฮิตเลอร์ (น้องชายต่างมารดา)
ไอดา ฮิตเลอร์ (น้องสาวต่างมารดา)
ออทโท ฮิตเลอร์(น้องชายต่างมารดา)
เอ็ดมุนด์ ฮิตเลอร์ (น้องชายต่างมารดา)
พอลล่า ฮิตเลอร์ (น้องสาวต่างมารดา)

อังเกลา ฟรันท์ซิสคา โยฮันนา ฮัมมิทช์ (เยอรมัน: Angela Franziska Johanna Hammitzsch) หรือชื่อเกิดคือ อังเกลา ฮิตเลอร์ เป็นพี่สาวต่างมารดาของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เธอเป็นลูกสาวของอาล็อยส์ ฮิตเลอร์กับภรรยาคนที่สอง Franziska Matzelsberger มีน้องชายชื่อ อาล็อยส์ ฮิตเลอร์ (ผู้ลูก) แต่ต่อมาแม่ของเธอเสียชีวิต เธอกับน้องชายได้ถูกรับการเลี้ยงดูจากคลารา ฮิตเลอร์ ภรรยาคนที่สามของอาล็อยส์และเป็นมารดาของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ หลังจากอาล็อยส์ กับคลารา ฮิตเลอร์ได้เสียชีวิตไปแล้ว เธอได้กลายเป็นผู้ปกครองดูแลของฮิตเลอร์ตลอดมาทำให้เธอกลายเป็นญาติคนเดียวที่ใกล้ชิดของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์

อังเกลา ฮิตเลอร์แต่งงานมาสองครั้ง ครั้งแรกกับนายเลโอ รูด็อล์ฟ เราบัล เธอมีลูกชายคนแรกคือเลโอ รูด็อล์ฟ เราบัล ผู้ลูก ลูกสาวคนที่สอง เกลี เราบัล ลูกชายคนที่สามคนสุดท้อง Elfriede (Friedl) เราบัล สามีของเธอเสียชีวิตในปี 1910 ต่อมาเธอได้แต่งงานกับสถาปนิก ศาสตราจารย์มารติน แฮมมิซแต่สามีของเธอได้ฆ่าตัวตาย หลังจากความพ่ายแพ้สงครามของเยอรมนี

หลังสงคราม เธอได้ถูกคุมตัวและสอบถามเกี่ยวกับประวัติของฮิตเลอร์จากสัมพันธมิตรตะวันตกแต่เธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุของนาซีเลยและได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสระ ต่อมาเธอได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 1949 ณ ฮันโนเฟอร์ เยอรมนีตะวันตก

อ้างอิง

[แก้]
  1. "The Mind of Adolf Hitler",Walter C. Langer, New York 1972 p.116