ราชอาณาจักรยูดาห์
บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่หน้าอภิปราย |
ราชอาณาจักรยูดาห์ 𐤉𐤄𐤃𐤄 | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ศตวรรษที่ 9[1][2] หรือ ศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล[3]–586 ปีก่อนค.ศ. | |||||||||
แผนที่ภูมิภาคในช่วงศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสตกาล | |||||||||
เมืองหลวง | ฮีบรอน เยรูซาเลม | ||||||||
ภาษาทั่วไป | ฮีบรู | ||||||||
ศาสนา | เอกเทวนิยมลัทธิยาห์เวห์/ศาสนายูดาห์ พหุเทวนิยมคะนาอัน พหุเทวนิยมเมโสโปเตเมีย ศาสนาพื้นบ้าน[4] | ||||||||
การปกครอง | ราชาธิปไตย | ||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | ยุคเหล็กลิแวนต์ | ||||||||
ศตวรรษที่ 9[1][2] หรือ ศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล[3] | |||||||||
• การปิดล้อมกรุงเยรูซาเล็ม (587 ปีก่อนค.ศ.) | 586 ปีก่อนค.ศ. | ||||||||
| |||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | ประเทศอิสราเอล ปาเลสไตน์ |
ราชอาณาจักรยูดาห์ (ฮีบรู: מַמְלֶכֶת יְהוּדָה; มัมเลกเฮต เยฮูดาห์) คืออดีตรัฐยิวที่ก่อตั้งขึ้นบริเวณตอนใต้ของเขตลิแวนต์ในช่วงยุคเหล็ก มักถูกเรียกขานโดยทั่วไปว่า อาณาจักรใต้ เพื่อที่จะไม่ให้สับสนกับราชอาณาจักรอิสราเอลที่อยู่ทางเหนือ ซึ่งทั้งสองอาณาจักรเคยมีสถานะเป็นรัฐเดียวกันมาก่อนในนามว่า สหราชอาณาจักรอิสราเอล
ยูดาห์ถูกสันนิษฐานว่าน่าจะพัฒนากลายมาเป็นรัฐในช่วงหลังศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสตกาล แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดที่สามารถยืนยันข้อสันนิษฐานนี้ได้[5][6] ในศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล เยรูซาเลมซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรมีประชากรเพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งมากกว่าประชากรของรัฐข้างเคียงมาก ต่อมาพวกอัสซีเรียเข้ารุกรานและควบคุมยูดาห์เนื่องจากต้องการทรัพยากรน้ำมันมะกอกอันล้ำค่าของยูดาห์ ยูดาห์จึงตกเป็นรัฐบริวารของอัสซีเรีย[7] ราชราชอาณาจักรยูดาห์สงบสุขและรุ่งเรืองระหว่างที่อยู่ใต้อาณัตของอัสซีเรีย (ขณะที่มีการก่อกบฏรุนแรงในรัชสมัยของกษัตริย์เซนนาเชริบแห่งอัสซีเรีย) แต่ครึ่งหลังของศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล อัสซีเรียก็ล่มสลายลงอย่างกะทันหัน ส่งผลให้เกิดสงครามแย่งชิงดินแดนแถบนี้ระหว่างอียิปต์โบราณกับจักรวรรดิบาบิโลเนียใหม่ตามมานับครั้งไม่ถ้วน จนในที่สุดนำไปสู่การล่มสลายของราชอาณาจักรยูดาห์ในช่วง 597 - 582 ปีก่อนคริสตกาล รวมไปถึงการเนรเทศขับไล่ชนชั้นปกครองออกจากดินแดนดังกล่าว[7]
รายนามกษัตริย์แห่งยูดาห์ (อิสราเอลใต้)
[แก้]พระนาม | ระยะเวลาการครองราชย์ |
---|---|
ดาวิด (David) | ค.ศ. 1010 - ค.ศ. 970 (41 ปี) |
ซาโลมอน (Solomon) | ค.ศ. 970 - ค.ศ. 931 ( 41 ปี) |
เรโหโบอัม (Rehoboam) | ค.ศ. 931 - ค.ศ. 912 (18 ปี) |
อาบียัม (Abijah) | ค.ศ. 913 - ค.ศ. 911 (2 ปี) |
อาสา (Asa) | ค.ศ. 911 - ค.ศ. 870 (41 ปี) |
เยโฮชาฟัท (Jehoshaphat) | ค.ศ. 870 - ค.ศ. 848 (22 ปี) |
เยโฮรัม (Jehoram) | ค.ศ. 848 - ค.ศ. 841 (7 ปี) |
อาหัสยาห์ (Ahaziah) | ค.ศ. 841 - ค.ศ. 841 (1 ปี ) |
อาธาลิยาห์ (Athaliah) | ค.ศ. 841 - ค.ศ. 835 (6 ปี) |
เยโฮอาช (Joash) | ค.ศ. 835 - ค.ศ. 796 (39 ปี) |
อามาซิยาห์ (Amaziah) | ค.ศ. 796 - ค.ศ. 781 (15 ปี) |
อาซาริยาห์/อุสซียาห์ (Azariah/Uzziah) | ค.ศ. 781 - ค.ศ. 740 (41 ปี) |
โยธาม (Jotham) | ค.ศ. 740 - ค.ศ. 736 (4 ปี) |
อาหัส (Ahaz) | ค.ศ. 736 - ค.ศ. 716 (20 ปี) |
เฮเซคียาห์ (Hezekiah) | ค.ศ. 716 - ค.ศ. 687 (29 ปี) |
มนัสเสห์ (Manasseh) | ค.ศ. 687 - ค.ศ. 642 (45 ปี) |
อาโมน (Amon) | ค.ศ. 642 - ค.ศ. 640 (2 ปี) |
โยสิยาห์ (Josiah) | ค.ศ. 640 - ค.ศ. 609 (31 ปี) |
เยโฮอาหา (Jehoahaz) | ค.ศ. 609 - ค.ศ. 606 (3 ปี ) |
เยโฮยาคิม (Jehoiakim) | ค.ศ. 606 - ค.ศ. 595 (11 ปี) |
เยโฮยาคีน (Jehoiachin) | ครอบครองอยู่ 3 เดือน |
เศเดคียาห์ (Zedekiah) | ค.ศ. 592 - ค.ศ. 581 (11 ปี) |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Grabbe, Lester L., บ.ก. (2008). Israel in Transition: From Late Bronze II to Iron IIa (c. 1250–850 B.C.E.). A&C Black. pp. 225–226. ISBN 978-0567027269. สืบค้นเมื่อ 12 October 2018.
- ↑ Vaughn, Andrew G.; Killebrew, Ann E., บ.ก. (2003). Jerusalem in Bible and Archaeology: The First Temple Period. Society of Biblical Literature. p. 149. ISBN 978-1589830660. สืบค้นเมื่อ 12 October 2018.
- ↑ Finkelstein, Israel (2006). Amit, Yairah; Ben Zvi, Ehud; Finkelstein, Israel; Lipschits, Oded (บ.ก.). The Last Labayu: King Saul and the Expansion of the First North Israelite Territorial Entity. Eisenbrauns. p. 179. ISBN 978-1575061283. สืบค้นเมื่อ 12 October 2018.
{{cite book}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|encyclopedia=
ถูกละเว้น (help) - ↑ Finkelstein, Israel; Silberman, Neil Asher (2001). The Bible Unearthed: Archaeology's New Vision of Ancient Israel and the Origin of Sacred Texts. The Free Press. pp. 240–243. ISBN 978-0743223386.
- ↑ Grabbe 2008, pp. 225–6.
- ↑ Lehman in Vaughn 1992, p. 149.
- ↑ 7.0 7.1 Thompson 1992, pp. 410–1.