ภาสานจร
ภูมิศาสตร์ | |
---|---|
ที่ตั้ง | อ่าวเบงกอล |
พิกัด | 22°22′30″N 91°23′33″E / 22.37500°N 91.39250°E |
พื้นที่ | 25 ตารางไมล์ (65 ตารางกิโลเมตร) |
การปกครอง | |
ข้อมูลอื่น ๆ | |
เขตเวลา |
ภาสานจร (เบงกอล: ভাসানচর; แปลว่า สันดอนลอย, เกาะลอย)[1] เป็นเกาะในเขตตำบลหาติยา อำเภอโนยาขาลี ภาคจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศ[2] ตั้งอยู่ในอ่าวเบงกอล ห่างจากเกาะสันทวีปประมาณ 6 กิโลเมตร และห่างจากแผ่นดินใหญ่ประมาณ 60 กิโลเมตร[3]
ภาสานจรก่อตัวขึ้นจากตะกอนทรายแป้งจากเทือกเขาหิมาลัยใน พ.ศ. 2549[2] มีพื้นที่ประมาณ 40 ตารางกิโลเมตร (15 ตารางไมล์)[4] รัฐบาลบังกลาเทศวางแผนที่จะสร้างอาคารทั้งหมด 1,440 หลังซึ่งรวมถึงศูนย์พักพิงพายุไซโคลน 120 ศูนย์ เพื่อเคลื่อนย้ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจา 100,000 คนออกจากค่ายที่เมืองค็อกส์บาซาร์บนแผ่นดินใหญ่[5] รัฐบาลบังกลาเทศเสนอให้ย้ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจามายังเกาะนี้เป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558[6] หน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติให้ความเห็นว่าข้อเสนอดังกล่าว "มีความท้าทายด้านการจัดระบบการดำเนินงาน"[6] ถึงกระนั้นรัฐบาลบังกลาเทศก็สั่งการให้ย้ายชาวโรฮีนจามายังเกาะนี้เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560[2][3][7] ฮิวแมนไรตส์วอตช์กล่าวว่าแผนการนี้เป็น "หายนะทางสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมที่กำลังก่อตัว"[2]
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562 รัฐบาลบังกลาเทศประกาศขยายโครงการอาศรยัณ (อาศรยัณ-3) เพื่อสร้างบ้าน 100,000 หลังที่ภาสานจร[8] บ้านเหล่านี้จะยกพื้นสูง 4 ฟุตเพื่อปกป้องผู้ลี้ภัยจากคลื่นน้ำขึ้นลง[9] งานโยธาสาธารณะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 309.5 ล้านฏากา ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 จากการจัดสรรงบประมาณครั้งแรก[10] โครงการเพิ่มเติมได้แก่ การก่อเขื่อนกันน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 2.7 เมตร (9 ฟุต) ถึง 5.8 เมตร (19 ฟุต) และการก่อสร้างหมู่บ้านเป็นกลุ่ม สถานีพักพิง โครงสร้างพื้นฐานร่องน้ำ ถนน และการพัฒนาที่ดินนอกเหนือจากงานที่ค้างอยู่ 26 งานภายใต้โครงการ[10]
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 โครงการนี้เดินหน้าต่อไปแม้จะมีเสียงต่อต้านจากบรรดาผู้นำชาวโรฮีนจาและกลุ่มสิทธิมนุษยชน รัฐมนตรีกระทรวงกิจการผู้ลี้ภัยของบังกลาเทศระบุว่าภาสานจร "พร้อมสำหรับการอยู่อาศัย"[11] ต่อมาในวันที่ 4 ธันวาคม ปีเดียวกัน รัฐบาลบังกลาเทศได้เริ่มเคลื่อนย้ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาชุดแรก จำนวน 1,640 คน ออกจากค่ายที่ค็อกส์บาซาร์ เดินทางทางเรือจากท่าจิตตะกองมายังเกาะนี้[12]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Backmann, René (May 16, 2020). "Bhasan Char : Le Bangladesh invoque le Covid-19 pour interner des réfugiés rohingyas sur une île inondable". Europe Solidaire Sans Frontières. สืบค้นเมื่อ Dec 8, 2020.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 Kullab, Samya (February 23, 2017). "The Trouble With Thengar Char". Foreign Affairs. สืบค้นเมื่อ February 25, 2017.
- ↑ 3.0 3.1 Pokhare, Sugam; Westcott, Ben (January 31, 2017). "Thousands of Rohingya refugees may be sent to remote island". CNN. สืบค้นเมื่อ February 25, 2017.
- ↑ "UN rapporteur visits Bangladeshi island chosen for Rohingya relocation". efe.com. January 24, 2019. สืบค้นเมื่อ March 17, 2019.
- ↑ "A remote home for the Rohingya". Reuters. สืบค้นเมื่อ Dec 5, 2020.
- ↑ 6.0 6.1 "UN concern at Bangladesh plan to move thousands of Rohingya to flooded island". The Guardian. June 14, 2015. สืบค้นเมื่อ February 25, 2017.
- ↑ Rahman, Shaikh Azizur (February 2, 2017). "Plan to move Rohingya to remote island prompts fears of human catastrophe". The Guardian. สืบค้นเมื่อ February 25, 2017.
- ↑ Khokon, Sahidul Hasan. "Bangladesh: Govt takes up Ashrayan-3 project to shelter Rohingya refugees". India Today (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 1 August 2019.
- ↑ "Inside the Bhashan Char plan for Rohingyas". Dhaka Tribune. January 29, 2019. สืบค้นเมื่อ 2019-11-22.
- ↑ 10.0 10.1 "Bhasan Char project cost to rise 34%". The Business Standard (ภาษาอังกฤษ). 2019-12-16. สืบค้นเมื่อ 2019-12-19.
- ↑ "Will thousands of Rohingya refugees be sent to a remote island?". Los Angeles Times. January 23, 2020. สืบค้นเมื่อ February 5, 2020.
- ↑ Beech, Hannah (December 4, 2020). "From Crowded Camps to a Remote Island: Rohingya Refugees Move Again". The New York Times. สืบค้นเมื่อ December 8, 2020.