ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หน่วยข่าวกรองลับ"
Just Sayori (คุย | ส่วนร่วม) ล ย้อนการแก้ไข ป้ายระบุ: ย้อนด้วยมือ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยเว็บอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{Infobox Government agency |
{{Infobox Government agency |
||
|agency_name = ราชการข่าวกรองลับ |
|agency_name = ราชการข่าวกรองลับปราบปรามพิเศษสากลต่อก่อการร้ายสากล |
||
|type = |
|type = |
||
|nativename = |
|nativename = |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:41, 23 กันยายน 2563
ภาพรวมหน่วยงาน | |
---|---|
ก่อตั้ง | กรกฎาคม 1909 |
ก่อนหน้า | |
ประเภท | หน่วยข่าวกรองต่างประเทศ |
เขตอำนาจ | รัฐบาลของสมเด็จ |
สำนักงานใหญ่ | ตึกเอสไอเอส ลอนดอน, อังกฤษ สหราชอาณาจักร 51°29′16″N 0°07′29″W / 51.48778°N 0.12472°W |
คำขวัญ | Semper Occultus (Always Secret) |
บุคลากร | 2,594 (31 March 2016)[1] |
งบประมาณต่อปี | Single Intelligence Account (£2.6 billion in 2014–2015 financial year)[2][nb 1] |
รัฐมนตรี | |
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน | |
เว็บไซต์ | SIS.gov.uk |
เชิงอรรถ | |
ราชการข่าวกรองลับ (อังกฤษ: Secret Intelligence Service, SIS) ยังเป็นที่รู้จักอีกชื่อว่า เอ็มไอ-6 เป็นหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัฐบาลสหราชอาณาจักร มอบหมายหน้าที่ส่วนใหญ่ให้กับกลุ่มจารชนที่แฝงตัวอยู่นอกประเทศต่าง ๆ และวิเคราะห์การข่าวกรองทางมนุษย์ (อังกฤษ: Human Intelligence; HUMINT) ในการสนับสนุนความมั่นคงแห่งชาติของสหราชอาณาจักร เอ็สไอเอ็สเป็นสมาชิกของชุมชนข่าวกรองของประเทศและหัวหน้านั้นมีหน้าที่รายงานตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของประเทศ[4]
ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1909 เป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานราชการลับ (Secret Service Bureau ) มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านข่าวกรองต่างประเทศ ส่วนที่มีประสบการณ์ได้รับการเติบโตมากขึ้นในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และได้เปลี่ยนชื่อที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1920[5] ชื่อที่เรียกว่า เอ็มไอ-6 (ย่อมาจาก การข่าวกรองทางทหาร, ส่วนที่ 6-Military Intelligence, Section 6) ริเริ่มเป็นธงแบบจดทะเบียนได้สะดวกในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อเอ็สไอเอ็สได้เป็นที่รู้จักกันในหลายชื่อ; ยังคงมีการใช้เสมอในทุกวันนี้[5] การมีอยู่ของเอ็สไอเอ็สยังไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจนถึงปี ค.ศ. 1994[6] ในปีนั้น พระราชบัญญัติราชการข่าวกรอง ค.ศ. 1994 (ISA) ได้รับการแนะนำให้กับรัฐสภา เพื่อตั้งองค์กรดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายจากครั้งแรก; ปัจจุบัน เอ็สไอเอ็สอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลโดยศาลอำนาจการสอบสวน (Investigatory Powers Tribunal) และคณะกรรมการข่าวกรองและความมั่นคงของรัฐสภา (Parliamentary Intelligence and Security Committee)
บทบาทที่สำคัญของเอ็สไอเอ็สคือ การต่อต้านการก่อการร้าย การต่อต้านการแพร่กระจายอาวุธร้ายแรง เช่น อาวุธนิวเคลียร์ และ อาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง และอื่นๆ การให้ความรู้ทางด้านข่าวกรองเพื่อสนับสนุนความปลอดภัยทางไซเบอร์ และสนับสนุนความมั่นคงต่างประเทศเพื่อทำลายการก่อการร้ายและความเคลื่อนไหวของอาชญากรรมอื่นๆ[7] ซึ่งแตกต่างจากองค์กรหลักพี่น้อง, ราชการความมั่นคง (เอ็มไอ-5) และสำนักงานใหญ่การสื่อสารของรัฐบาล (Government Communications Headquarters (GCHQ)) เอ็สไอเอ็สทำงานเฉพาะในการรวบรวมข่าวกรองต่างประเทศ ไอเอ็สเอได้อนุญาตให้ดำเนินการเฉพาะกับบุคคลภายนอกในเกาะอังกฤษ[8] การปฏิบัติหน้าที่ของเอ็สไอเอ็สบางคนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 ได้จูงใจความขัดแย้งครั้งสำคัญ เช่น การกระทำที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นการทรมานและกระทำการวิสามัญ[9][10]
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 เอ็สไอเอ็สได้ตั้งสำนักงานใหญ่ในตึกเอ็สไอเอ็สในกรุงลอนดอน บนฝั่งใต้ของแม่น้ำเทมส์
ความเป็นมาและพัฒนาการ
การก่อตั้ง
หน่วยเอสไอเอสเป็นหน่วยงานสืบทอดจากสำนักงานราชการลับ (Secret Srevice Bureau) ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1909 หน่วยงานนี้เป็นความตั้งใจร่วมระหว่างกระทรวงกองทัพเรือของอังกฤษและสำนักงานสงคราม (War Office) เพื่อควบคุมปฏิบัติการข่าวกรองลับในสหราชอาณาจักรและดินแดนต่างชาติ โดยเฉพาะการจับตามองความเคลื่อนไหวต่างๆของรัฐบาลแห่งจักรวรรดิเยอรมัน หน่วยงานนี้ถูกแบ่งเป็นฝ่ายทหารเรือและฝ่ายทหารบกซึ่งเชี่ยวชาญในการจารกรรมในดินแดนต่างชาติและการต่อต้านจารกรรมในประเทศตามลำดับ มาเป็นเวลายาวนาน โดยหน่วยงานเฉพาะนี้เริ่มต้นมาจากการที่กระทรวงกองทัพเรือต้องการที่จะที่รู้วามแข่งแกร่งทางทะเลของกองทัพเรือแห่งจักรวรรดิเยอรมัน และถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปีค.ศ. 1914 ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ในปี ค.ศ.1916 ทั้งสองหน่วยได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงการบริหาร ซึ่งหน่วยต่างประเทศกลายเป็น MI1(c) ของกองกำกับการข่าวกรองทหาร (Directorate of Military Intelligence)
ผู้กำกับการคนแรกของราชการข่าวกรองลับคือ นาวาเอก เซอร์ แมนส์ฟิลด์ จอร์จ สมิธ-คัมมิ่ง (ตัวเขานั้นจะไม่พูดชื่อนามสกุล สมิธ จาก สมิธ-คัมมิ่ง ในการพูดคุยทั่วๆไป) โดยปกติแล้วเขามักสงนาม C ด้วยหมึกสีเขียวซึ่งเป็นอักษรตัวแรกของนามสกุลเขาในการติดต่อทางจดหมายด้วย ซึ่งพัฒนาการเป็นนามแฝง(code name) และได้รับการปฏิบัติสืบต่อกันมาโดยผู้กำกับคนต่อๆไปเมื่อลงนามเอกสารเพื่อคงสภาวะนิรนามไว้
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
การปฏิบัติงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งนั้นเป็นที่สับสนวุ่นวาย อันเนื่องจากไม่สามารถจัดตั้งเครือข่ายในเยอรมนีได้ด้วยตนเอง ผลงานส่วนใหญ่มาจากข่าวยกรองทางทหารและการค้าซึ่งถูกรวบรวมโดนเครือข่ายในประเทศเป็นกลาง,ประเทศที่ถูกยึดครองและรัสเซีย
ดูเพิ่ม
- สำนักข่าวกรองกลาง (CIA)
- หน่วยความมั่นคงกลาง (FSB)
อ้างอิง
- ↑ Intelligence and Security Committee of Parliament "Annual Report 2016–2017", page 77. House of Commons (20 December 2017). Retrieved 1 June 2018.
- ↑ House of Commons (5 July 2016). Intelligence and Security Committee of Parliament Annual Report 2015–2016, page 10. Retrieved 12 January 2017.
- ↑ "The Chief". SIS – MI6. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 เมษายน 2012. สืบค้นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2014.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help) - ↑ Whitehead, Jennifer (15 July 2016). "Our Chief". SIS. สืบค้นเมื่อ 10 July 2010.
- ↑ 5.0 5.1 "1920: What's in a Name". SIS website. สืบค้นเมื่อ 12 April 2017.
- ↑ Whitehead, Jennifer (13 October 2005). "MI6 to boost recruitment prospects with launch of first website". Brand Republic. สืบค้นเมื่อ 10 July 2010.
- ↑ "Our Mission". SIS website. สืบค้นเมื่อ 25 August 2017.
- ↑ แม่แบบ:Cite legislation UK
- ↑ Foster, Peter (5 April 2014). "Tony Blair 'knew all about CIA secret kidnap programme'". The Telegraph. สืบค้นเมื่อ 25 August 2017.
- ↑ Norton-Taylor, Richard (1 June 2016). "Public need answers in 'shocking' MI6 rendition scandal, says senior Tory". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 25 August 2017.