ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นกยูงคองโก"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 24: บรรทัด 24:
'''นกยูงคองโก''' ({{lang-en|Congo peacock, Congo peafowl}}; {{ชื่อวิทยาศาสตร์|Afropavo congensis}}) เป็นไก่ฟ้าจำพวกนกยูงชนิดหนึ่ง ใน[[วงศ์ไก่ฟ้าและนกกระทา]] (Phasianidae)
'''นกยูงคองโก''' ({{lang-en|Congo peacock, Congo peafowl}}; {{ชื่อวิทยาศาสตร์|Afropavo congensis}}) เป็นไก่ฟ้าจำพวกนกยูงชนิดหนึ่ง ใน[[วงศ์ไก่ฟ้าและนกกระทา]] (Phasianidae)


นกยูงคองโก นับเป็นนกยูงเพียงชนิดเดียวที่ไม่ได้อยู่ในสกุล ''[[Pavo (genus)|Pavo]]'' โดยจัดอยู่ในสกุล ''Afropavo'' เพียงชนิดเดียว และมิใช่นกยูงที่อาศัยอยู่ในทวีปเอเชียด้วย โดยมีถิ่นกำเนิดแถบบริเวณลุ่ม[[แม่น้ำคองโก]]ใน[[แอฟริกากลาง|ตอนกลางของทวีปแอฟริกา]] ตั้งแต่ปี ค.ศ.1913 ถึง ค.ศ.1936 นักปักษีวิทยาเคยเห็นแต่เพียงขนเพียงเส้นเดียวบนหมวกของชาวพื้นเมืองเท่านั้นจนกระทั่ง [[เจมส์ แชปลิน]] นักปักษีวิทยาชาวอเมริกันได้เห็นตัวจริงที่สตั๊ฟไว้ในพิพิธภัณฑ์คองโก ประเทศเบลเยี่ยม โดยตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ผิดเป็นนกยูงไทยด้วย จึงได้ศึกษาอย่างจริงจัง บันทึกรายละเอียดต่าง ๆ และ ตั้งชื่อให้ใหม่ในครั้งนั้น
นกยูงคองโก นับเป็นนกยูงเพียงชนิดเดียวที่อยู่ในสกุล ''Afropavo'' เพียงชนิดเดียว ที่ยังคงดำรงเผ่าพันธุ์ และไม่ใช่นกยูงที่อาศัยอยู่ในทวีปเอเชียด้วย โดยมีถิ่นกำเนิดแถบบริเวณลุ่ม[[แม่น้ำคองโก]]ใน[[แอฟริกากลาง|ตอนกลางของทวีปแอฟริกา]] ตั้งแต่ปี ค.ศ.1913 ถึง ค.ศ.1936 นักปักษีวิทยาเคยเห็นแต่เพียงขนเพียงเส้นเดียวบนหมวกของชาวพื้นเมืองเท่านั้นจนกระทั่ง [[เจมส์ แชปลิน]] นักปักษีวิทยาชาวอเมริกันได้เห็นตัวจริงที่สตั๊ฟไว้ในพิพิธภัณฑ์คองโก ประเทศเบลเยี่ยม โดยตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ผิดเป็นนกยูงไทยด้วย จึงได้ศึกษาอย่างจริงจัง บันทึกรายละเอียดต่าง ๆ และ ตั้งชื่อให้ใหม่ในครั้งนั้น


นกยูงคองโกมีขนาดตัวเล็กกว่า รวมถึงตัวผู้ไม่มีขนหางที่ยาวรวมถึงไม่มีแววมยุราเหมือนนกยูงสกุล ''Pavo'' ส่วนบนของตัวเป็นสีเขียว คอและส่วนล่างของลำตัว รวมถึงปลายหางเป็นสีม่วงแกมดำ แต่ในตัวเมียส่วนที่เป็นสีม่วงจะเป็นสีน้ำตาลหมด ตัวผู้มีหงอนเป็นเส้นแข็ง ๆ คล้ายขนหมูเป็นกระจุกสีขาว และติดกับสีขาวเป็นกระจุกสีดำอยู่ทางด้านหลัง ทั้งตัวผู้และตัวเมียมีรูปร่างป้อมอ้วนสั้น
นกยูงคองโกมีขนาดตัวเล็กกว่า รวมถึงตัวผู้ไม่มีขนหางที่ยาวรวมถึงไม่มีแววมยุราเหมือนนกยูงสกุล ''Pavo'' ส่วนบนของตัวเป็นสีเขียว คอและส่วนล่างของลำตัว รวมถึงปลายหางเป็นสีม่วงแกมดำ แต่ในตัวเมียส่วนที่เป็นสีม่วงจะเป็นสีน้ำตาลหมด ตัวผู้มีหงอนเป็นเส้นแข็ง ๆ คล้ายขนหมูเป็นกระจุกสีขาว และติดกับสีขาวเป็นกระจุกสีดำอยู่ทางด้านหลัง ทั้งตัวผู้และตัวเมียมีรูปร่างป้อมอ้วนสั้น

รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:12, 28 พฤศจิกายน 2561

นกยูงคองโก
ตัวผู้
ตัวเมีย
สถานะการอนุรักษ์
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia
ไฟลัม: Chordata
ชั้น: Aves
อันดับ: Galliformes
วงศ์: Phasianidae
วงศ์ย่อย: Phasianinae
สกุล: Afropavo
Chapin, 1936
สปีชีส์: A.  congensis
ชื่อทวินาม
Afropavo congensis
Chapin, 1936

นกยูงคองโก (อังกฤษ: Congo peacock, Congo peafowl; ชื่อวิทยาศาสตร์: Afropavo congensis) เป็นไก่ฟ้าจำพวกนกยูงชนิดหนึ่ง ในวงศ์ไก่ฟ้าและนกกระทา (Phasianidae)

นกยูงคองโก นับเป็นนกยูงเพียงชนิดเดียวที่อยู่ในสกุล Afropavo เพียงชนิดเดียว ที่ยังคงดำรงเผ่าพันธุ์ และไม่ใช่นกยูงที่อาศัยอยู่ในทวีปเอเชียด้วย โดยมีถิ่นกำเนิดแถบบริเวณลุ่มแม่น้ำคองโกในตอนกลางของทวีปแอฟริกา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1913 ถึง ค.ศ.1936 นักปักษีวิทยาเคยเห็นแต่เพียงขนเพียงเส้นเดียวบนหมวกของชาวพื้นเมืองเท่านั้นจนกระทั่ง เจมส์ แชปลิน นักปักษีวิทยาชาวอเมริกันได้เห็นตัวจริงที่สตั๊ฟไว้ในพิพิธภัณฑ์คองโก ประเทศเบลเยี่ยม โดยตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ผิดเป็นนกยูงไทยด้วย จึงได้ศึกษาอย่างจริงจัง บันทึกรายละเอียดต่าง ๆ และ ตั้งชื่อให้ใหม่ในครั้งนั้น

นกยูงคองโกมีขนาดตัวเล็กกว่า รวมถึงตัวผู้ไม่มีขนหางที่ยาวรวมถึงไม่มีแววมยุราเหมือนนกยูงสกุล Pavo ส่วนบนของตัวเป็นสีเขียว คอและส่วนล่างของลำตัว รวมถึงปลายหางเป็นสีม่วงแกมดำ แต่ในตัวเมียส่วนที่เป็นสีม่วงจะเป็นสีน้ำตาลหมด ตัวผู้มีหงอนเป็นเส้นแข็ง ๆ คล้ายขนหมูเป็นกระจุกสีขาว และติดกับสีขาวเป็นกระจุกสีดำอยู่ทางด้านหลัง ทั้งตัวผู้และตัวเมียมีรูปร่างป้อมอ้วนสั้น

ส่วนหัวของตัวผู้

ชอบอาศัยอยู่ตามป่าที่มีฝนชุกที่ระดับความสูง 1,200-1,500 ฟุต เป็นนกที่จับคู่แบบคู่เดียวตลอดชีวิต มักจะพบออกหากินเป็นคู่ ชอบนอนบนต้นไม้สูง ๆ และมักจะส่งเสียงร้องในเวลากลางคืน ในขณะที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้ด้วย เป็นนกที่ไม่ค่อยตื่นกลัวมนุษย์มากนัก ตัวผู้มักจะรำแพนบ่อยทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ฤดูผสมพันธุ์ ปกติจะวางไข่ครั้งละ 3-4 ฟอง ใช้เวลาฟักประมาณ 26 วัน ตัวผู้จะมีขนสวยสมบูรณ์ในปีที่ 2 แต่การเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ในที่เลี้ยงทำได้ยากมาก จึงพบมีการเลี้ยงกันแต่ในสวนสัตว์ขนาดใหญ่เท่านั้น[2]

อ้างอิง

  1. BirdLife International 2008 (2010.4). Afropavo congensis. In: IUCN 2010.4. IUCN Red List of Threatened Species. Downloaded on 2011-03-29.
  2. จิตรกร บัวปลี. ไก่ฟ้า & นกยูง :คู่มือการเพาะเลี้ยงไก่ฟ้าและนกยูงฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์นาคา, 2553. 134 หน้า. ISBN 9789749240557

แหล่งข้อมูลอื่น

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Afropavo congensis ที่วิกิสปีชีส์