ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรพรรดิถังไท่จง"
Arundash52 (คุย | ส่วนร่วม) ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{ชื่ออื่น|||จักรพรรดิไท่จง}} |
{{ชื่ออื่น|||จักรพรรดิไท่จง}} |
||
{{Infobox |
{{Infobox monarch |
||
| succession = [[รายพระนามจักรพรรดิจีน#ราชวงศ์ถัง|จักรพรรดิจีน]] |
|||
| royalty = yes |
|||
⚫ | |||
| พระนาม = จักรพรรดิถังไท่จง |
|||
| title = จักรพรรดิ |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
| imagesize = |
| imagesize = |
||
| caption = |
| caption = |
||
บรรทัด 15: | บรรทัด 12: | ||
| predecessor = [[จักรพรรดิถังเกาจู่]] |
| predecessor = [[จักรพรรดิถังเกาจู่]] |
||
| successor = [[จักรพรรดิถังเกาจง]] |
| successor = [[จักรพรรดิถังเกาจง]] |
||
| |
| empress = [[จักรพรรดินีจางซุน|พระนางจางซุนเหวินเต๋อฮองเฮา]] |
||
⚫ | |||
| queen = [[จักรพรรดินีฉางซุน|พระนางฉางซุนเหวินเต๋อฮองเฮา]] |
|||
| WG = |
|||
| Putonghua = |
|||
| Minnan = |
|||
| Zi = |
|||
| Post = |
|||
| Temple = |
|||
| Other = |
|||
}} |
}} |
||
'''สมเด็จพระจักรพรรดิถังไท่จง''' ({{zh|c=唐太宗|p=Táng Tàizōng|w=T'ai-Tsung}}; 1170-1186) พระนามเดิม หลี่ซื่อหมิน จักรพรรดิองค์ที่สองแห่ง[[ราชวงศ์ถัง]]ของ[[ประเทศจีน]] (ราว 1,600 ปี) ได้ยึดถือหลักคำสอนเรื่องนี้ของบรมครูขงจื่อในการ ปกครองประเทศจีน และทำให้ประเทศจีนในยุคที่พระองค์ทรงปกครองรุ่งเรืองที่สุดยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์ 5 เป็นประเทศมหาอำนาจของโลกในยุคสมัยของพระองค์ราชวงศ์ถังนั้นยิ่งใหญ่มากมายนั้นเลยก็ว่าได้ |
'''สมเด็จพระจักรพรรดิถังไท่จง''' ({{zh|c=唐太宗|p=Táng Tàizōng|w=T'ai-Tsung}}; 1170-1186) พระนามเดิม หลี่ซื่อหมิน จักรพรรดิองค์ที่สองแห่ง[[ราชวงศ์ถัง]]ของ[[ประเทศจีน]] (ราว 1,600 ปี) ได้ยึดถือหลักคำสอนเรื่องนี้ของบรมครูขงจื่อในการ ปกครองประเทศจีน และทำให้ประเทศจีนในยุคที่พระองค์ทรงปกครองรุ่งเรืองที่สุดยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์ 5 เป็นประเทศมหาอำนาจของโลกในยุคสมัยของพระองค์ราชวงศ์ถังนั้นยิ่งใหญ่มากมายนั้นเลยก็ว่าได้ |
||
แม้ว่าพระองค์มีพระราชอำนาจสูงสุด สามารถตัดสินพระทัยสั่งการใด ๆ ก็ได้ พระองค์ก็ |
แม้ว่าพระองค์มีพระราชอำนาจสูงสุด สามารถตัดสินพระทัยสั่งการใด ๆ ก็ได้ พระองค์ก็มิได้ปฏิบัติเช่นนั้น พระองค์จะไต่ถามความเห็นของเหล่าเสนาบดี และที่ปรึกษาของพระองค์ก่อนที่จะตัดสินพระทัยเสมอ โดยเฉพาะที่ปรึกษาท่านหนึ่ง นาม [[เว่ยเจิง]] ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาของพี่ชายพระองค์ที่เป็นรัชทายาท และได้แนะนำให้พี่ชายของพระองค์ วางแผนสังหารพระองค์ เนื่องจากที่ปรึกษาท่านนี้มองเห็นว่า พระองค์จะเป็นภัยก่อการขบถยึดราชบัลลังก์ของพี่ชาย เนื่องจากถังไท่จงเหนือชั้นกว่า จึงวางแผนซ้อนแผน แทนที่พระองค์จะถูกสังหาร พี่ชายของพระองค์กลับถูกปลิดพระชนม์ชีพแทน แต่ถังไท่จงรับสั่งมิให้ทหารของพระองค์ทำร้ายที่ปรึกษาผู้นั้น นอกจากไม่ทำร้ายแล้ว พระองค์ยังทรงแต่งตั้งเขาขึ้นเป็นประธานที่ปรึกษา เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระราชบิดาอีก ด้วยเหตุผลก็คือ พระองค์ท่านจะได้มีที่ปรึกษาอย่างน้อยหนึ่งท่านที่คิดแตกต่าง หรือไม่เหมือนกับที่พระองค์คิด กล้าคัดค้านพระองค์อย่างตรงไปตรงมาโดยไม่เกรงกลัว หรือหวาดหวั่นต่อพระราชอำนาจ |
||
หรือไม่เหมือนกับที่พระองค์คิด กล้าคัดค้านพระองค์อย่างตรงไปตรงมาโดยไม่เกรงกลัว หรือหวาดหวั่นต่อพระราชอำนาจ |
|||
จักรพรรดิถังไท่จงได้รับการยกย่องจากนักประวัติศาสตร์ให้เป็นมหาจักรพรรดิของจีนเพราะพระองค์แตกต่างจากจักรพรรดิทั้งปวง กล่าวคือ ไม่ว่าเชื้อพระวงศ์ก็ดี หรือเสนาบดีก็ดี หรือที่ปรึกษาก็ดีไปแอบนินทา ให้ร้ายพระองค์ลับหลัง พระองค์ก็จะทรงลงพระอาญา เพราะถือว่า พระองค์ |
จักรพรรดิถังไท่จงได้รับการยกย่องจากนักประวัติศาสตร์ให้เป็นมหาจักรพรรดิของจีนเพราะพระองค์แตกต่างจากจักรพรรดิทั้งปวง กล่าวคือ ไม่ว่าเชื้อพระวงศ์ก็ดี หรือเสนาบดีก็ดี หรือที่ปรึกษาก็ดีไปแอบนินทา ให้ร้ายพระองค์ลับหลัง พระองค์ก็จะทรงลงพระอาญา เพราะถือว่า พระองค์ให้โอกาสวิพากษ์วิจารณ์อย่างเปิดเผย และถูกต้องแล้วบุคคลเหล่านี้กลับไม่ทำ หรือไม่ใช้โอกาสดังกล่าว กลับมาแอบทำลับหลังพระองค์ จึงต้องถูกลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง ส่วนผู้ที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ หรือคัดค้านพระองค์ต่อหน้าพระพักตร์อย่างชนิดตรงไปตรงมา อย่างเช่น อดีตที่ปรึกษาของพระเชษฐาขององค์จักรพรรดิถังไท่จงก็ทรงปูนบำเหน็จรางวัลให้เพื่อให้บรรดาเหล่าขุนนาง หรือข้าราชบริพารมีความกล้าที่จะใช้โอกาสดังกล่าวคัดค้านพระองค์ด้วยเหตุด้วยผล ไม่ใช่ไปแอบทำข้างหลัง |
||
นอกจากนั้นพระองค์ก็ทรงปลอมเป็นสามัญชนไปกับประธานที่ปรึกษาออกตระเวนเยี่ยมประชาชนของพระองค์ และตรวจงานการปฏิบัติราชการของ เหล่าข้าราชบริพารเป็นประจำทุกปี เพื่อจะได้ทรงทราบว่า บรรดารายงานของข้าราชการที่ส่งไปให้พระองค์ทรงอ่านที่เมืองหลวงนั้นมีความถูกต้อง สอดคล้องกับความเป็นจริงมากเพียงใด ไม่ใช่ทรงอยู่แต่ในวังหลวงพึ่งพารายงานจากข้าราชการอย่างเดียว บางครั้ง หากพระองค์ประชวร พระองค์ก็จะทรงส่งประธานที่ปรึกษาของพระองค์ออกทำงานแทนพระองค์ จักรพรรดิถังไท่จงถือว่าประชาชนมีความสำคัญกว่าพระองค์ และพระราชวงศ์ เวลาพระองค์จะตัดสินพระทัยทำอะไร ก็มักจะมองไปที่ผลประโยชน์ของประชาชนก่อนเสมอ |
นอกจากนั้นพระองค์ก็ทรงปลอมเป็นสามัญชนไปกับประธานที่ปรึกษาออกตระเวนเยี่ยมประชาชนของพระองค์ และตรวจงานการปฏิบัติราชการของ เหล่าข้าราชบริพารเป็นประจำทุกปี เพื่อจะได้ทรงทราบว่า บรรดารายงานของข้าราชการที่ส่งไปให้พระองค์ทรงอ่านที่เมืองหลวงนั้นมีความถูกต้อง สอดคล้องกับความเป็นจริงมากเพียงใด ไม่ใช่ทรงอยู่แต่ในวังหลวงพึ่งพารายงานจากข้าราชการอย่างเดียว บางครั้ง หากพระองค์ประชวร พระองค์ก็จะทรงส่งประธานที่ปรึกษาของพระองค์ออกทำงานแทนพระองค์ จักรพรรดิถังไท่จงถือว่าประชาชนมีความสำคัญกว่าพระองค์ และพระราชวงศ์ เวลาพระองค์จะตัดสินพระทัยทำอะไร ก็มักจะมองไปที่ผลประโยชน์ของประชาชนก่อนเสมอ |
||
ก่อนที่จะขึ้นครองราชย์นั้น พระองค์มีพระนามว่า "หลี ซื่อ หมิน" ประสูติเมื่อ ค.ศ. 599 (พ.ศ. 1142) โดยเป็นพระราชโอรสองค์รองของ[[จักรพรรดิถังเกาจู่]]ฮ่องเต้ ([[หลี่หยวน]]) ต่อมาช่วงค.ศ. 620-627 โอรสทั้ง 3 เกิดแย่งชิงอำนาจกันแต่ก็เป็น โอรสองค์รององค์ชายหลี่ซื่อหมินที่ได้ชัยชนะและบังคับให้พระราชบิดาตั้งพระองค์เป็นไท่จื้อ (รัชทายาท) ต่อมาในปีค.ศ. 627้ (พ.ศ. 1170) จักรพรรดิถังเกาจู่ประกาศสละราชสมบัติและรัชทายาทหลี่ซื่อหมินชันษา28พรรษาขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิ[[ถังไท่จง]] ทรงพระปรีชาสามารถทุกด้าน |
ก่อนที่จะขึ้นครองราชย์นั้น พระองค์มีพระนามว่า "หลี ซื่อ หมิน" ประสูติเมื่อ ค.ศ. 599 (พ.ศ. 1142) โดยเป็นพระราชโอรสองค์รองของ[[จักรพรรดิถังเกาจู่]]ฮ่องเต้ ([[หลี่หยวน]]) ต่อมาช่วงค.ศ. 620-627 โอรสทั้ง 3 เกิดแย่งชิงอำนาจกันแต่ก็เป็น โอรสองค์รององค์ชายหลี่ซื่อหมินที่ได้ชัยชนะและบังคับให้พระราชบิดาตั้งพระองค์เป็นไท่จื้อ (รัชทายาท) ต่อมาในปีค.ศ. 627้ (พ.ศ. 1170) จักรพรรดิถังเกาจู่ประกาศสละราชสมบัติและรัชทายาทหลี่ซื่อหมินชันษา 28 พรรษาขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิ[[ถังไท่จง]] ทรงพระปรีชาสามารถทุกด้าน |
||
ช่วงปลายรัชกาลได้เชิญ[[ซินแส]]ชื่อ[[หยวนเทียนกัง]] มาทำนายพระลักษณะขององค์ชายใหญ่ องค์ชาย4 ([[หลี่ไช่]]) และองค์ชายเล็ก ([[หลี่จื้อ]]) ปรากฏว่าหยวนเทียนกังได้ทำนายว่าองค์ชายเล็กจะได้ครองราชย์ ถังไท่จงจึงทรงตั้งองค์ชายเล็กเป็นรัชทายาทแทนองค์ชายใหญ่เมื่อถังไท่จงสวรรคตลงเมื่อปีค.ศ. 649 (พ.ศ. 1192) ขณะพระชนม์ 50 พรรษา องค์รัชทายาทหลี่จื้อจึงขึ้นครองราชย์เป็น[[จักรพรรดิถังเกาจง]] |
ช่วงปลายรัชกาลได้เชิญ[[ซินแส]]ชื่อ[[หยวนเทียนกัง]] มาทำนายพระลักษณะขององค์ชายใหญ่ องค์ชาย4 ([[หลี่ไช่]]) และองค์ชายเล็ก ([[หลี่จื้อ]]) ปรากฏว่าหยวนเทียนกังได้ทำนายว่าองค์ชายเล็กจะได้ครองราชย์ ถังไท่จงจึงทรงตั้งองค์ชายเล็กเป็นรัชทายาทแทนองค์ชายใหญ่เมื่อถังไท่จงสวรรคตลงเมื่อปีค.ศ. 649 (พ.ศ. 1192) ขณะพระชนม์ 50 พรรษา องค์รัชทายาทหลี่จื้อจึงขึ้นครองราชย์เป็น[[จักรพรรดิถังเกาจง]] |
||
บรรทัด 41: | บรรทัด 31: | ||
* พระราชบิดา: [[จักรพรรดิถังเกาจู่]] |
* พระราชบิดา: [[จักรพรรดิถังเกาจู่]] |
||
* พระมเหสี |
* พระมเหสี |
||
** [[จักรพรรดิ |
** [[จักรพรรดินีจางซุน|พระนางจางซุนเหวินเต๋อฮองเฮา]] |
||
* พระสนม |
* พระสนม |
||
** พระสนมเหวยกุ้ยเฟย |
** พระสนมเหวยกุ้ยเฟย |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:32, 4 กันยายน 2561
จักรพรรดิถังไท่จง | |
---|---|
จักรพรรดิจีน | |
ครองราชย์ | พ.ศ. 1170 - พ.ศ. 1192 |
ก่อนหน้า | จักรพรรดิถังเกาจู่ |
ถัดไป | จักรพรรดิถังเกาจง |
ประสูติ | 23 มกราคม พ.ศ. 1142[1] |
สวรรคต | 10 กรกฎาคม พ.ศ. 1192 [2] |
จักรพรรดินี | พระนางจางซุนเหวินเต๋อฮองเฮา |
ราชวงศ์ | ถัง |
สมเด็จพระจักรพรรดิถังไท่จง (จีน: 唐太宗; พินอิน: Táng Tàizōng; เวด-ไจลส์: T'ai-Tsung; 1170-1186) พระนามเดิม หลี่ซื่อหมิน จักรพรรดิองค์ที่สองแห่งราชวงศ์ถังของประเทศจีน (ราว 1,600 ปี) ได้ยึดถือหลักคำสอนเรื่องนี้ของบรมครูขงจื่อในการ ปกครองประเทศจีน และทำให้ประเทศจีนในยุคที่พระองค์ทรงปกครองรุ่งเรืองที่สุดยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์ 5 เป็นประเทศมหาอำนาจของโลกในยุคสมัยของพระองค์ราชวงศ์ถังนั้นยิ่งใหญ่มากมายนั้นเลยก็ว่าได้
แม้ว่าพระองค์มีพระราชอำนาจสูงสุด สามารถตัดสินพระทัยสั่งการใด ๆ ก็ได้ พระองค์ก็มิได้ปฏิบัติเช่นนั้น พระองค์จะไต่ถามความเห็นของเหล่าเสนาบดี และที่ปรึกษาของพระองค์ก่อนที่จะตัดสินพระทัยเสมอ โดยเฉพาะที่ปรึกษาท่านหนึ่ง นาม เว่ยเจิง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาของพี่ชายพระองค์ที่เป็นรัชทายาท และได้แนะนำให้พี่ชายของพระองค์ วางแผนสังหารพระองค์ เนื่องจากที่ปรึกษาท่านนี้มองเห็นว่า พระองค์จะเป็นภัยก่อการขบถยึดราชบัลลังก์ของพี่ชาย เนื่องจากถังไท่จงเหนือชั้นกว่า จึงวางแผนซ้อนแผน แทนที่พระองค์จะถูกสังหาร พี่ชายของพระองค์กลับถูกปลิดพระชนม์ชีพแทน แต่ถังไท่จงรับสั่งมิให้ทหารของพระองค์ทำร้ายที่ปรึกษาผู้นั้น นอกจากไม่ทำร้ายแล้ว พระองค์ยังทรงแต่งตั้งเขาขึ้นเป็นประธานที่ปรึกษา เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระราชบิดาอีก ด้วยเหตุผลก็คือ พระองค์ท่านจะได้มีที่ปรึกษาอย่างน้อยหนึ่งท่านที่คิดแตกต่าง หรือไม่เหมือนกับที่พระองค์คิด กล้าคัดค้านพระองค์อย่างตรงไปตรงมาโดยไม่เกรงกลัว หรือหวาดหวั่นต่อพระราชอำนาจ
จักรพรรดิถังไท่จงได้รับการยกย่องจากนักประวัติศาสตร์ให้เป็นมหาจักรพรรดิของจีนเพราะพระองค์แตกต่างจากจักรพรรดิทั้งปวง กล่าวคือ ไม่ว่าเชื้อพระวงศ์ก็ดี หรือเสนาบดีก็ดี หรือที่ปรึกษาก็ดีไปแอบนินทา ให้ร้ายพระองค์ลับหลัง พระองค์ก็จะทรงลงพระอาญา เพราะถือว่า พระองค์ให้โอกาสวิพากษ์วิจารณ์อย่างเปิดเผย และถูกต้องแล้วบุคคลเหล่านี้กลับไม่ทำ หรือไม่ใช้โอกาสดังกล่าว กลับมาแอบทำลับหลังพระองค์ จึงต้องถูกลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง ส่วนผู้ที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ หรือคัดค้านพระองค์ต่อหน้าพระพักตร์อย่างชนิดตรงไปตรงมา อย่างเช่น อดีตที่ปรึกษาของพระเชษฐาขององค์จักรพรรดิถังไท่จงก็ทรงปูนบำเหน็จรางวัลให้เพื่อให้บรรดาเหล่าขุนนาง หรือข้าราชบริพารมีความกล้าที่จะใช้โอกาสดังกล่าวคัดค้านพระองค์ด้วยเหตุด้วยผล ไม่ใช่ไปแอบทำข้างหลัง
นอกจากนั้นพระองค์ก็ทรงปลอมเป็นสามัญชนไปกับประธานที่ปรึกษาออกตระเวนเยี่ยมประชาชนของพระองค์ และตรวจงานการปฏิบัติราชการของ เหล่าข้าราชบริพารเป็นประจำทุกปี เพื่อจะได้ทรงทราบว่า บรรดารายงานของข้าราชการที่ส่งไปให้พระองค์ทรงอ่านที่เมืองหลวงนั้นมีความถูกต้อง สอดคล้องกับความเป็นจริงมากเพียงใด ไม่ใช่ทรงอยู่แต่ในวังหลวงพึ่งพารายงานจากข้าราชการอย่างเดียว บางครั้ง หากพระองค์ประชวร พระองค์ก็จะทรงส่งประธานที่ปรึกษาของพระองค์ออกทำงานแทนพระองค์ จักรพรรดิถังไท่จงถือว่าประชาชนมีความสำคัญกว่าพระองค์ และพระราชวงศ์ เวลาพระองค์จะตัดสินพระทัยทำอะไร ก็มักจะมองไปที่ผลประโยชน์ของประชาชนก่อนเสมอ
ก่อนที่จะขึ้นครองราชย์นั้น พระองค์มีพระนามว่า "หลี ซื่อ หมิน" ประสูติเมื่อ ค.ศ. 599 (พ.ศ. 1142) โดยเป็นพระราชโอรสองค์รองของจักรพรรดิถังเกาจู่ฮ่องเต้ (หลี่หยวน) ต่อมาช่วงค.ศ. 620-627 โอรสทั้ง 3 เกิดแย่งชิงอำนาจกันแต่ก็เป็น โอรสองค์รององค์ชายหลี่ซื่อหมินที่ได้ชัยชนะและบังคับให้พระราชบิดาตั้งพระองค์เป็นไท่จื้อ (รัชทายาท) ต่อมาในปีค.ศ. 627้ (พ.ศ. 1170) จักรพรรดิถังเกาจู่ประกาศสละราชสมบัติและรัชทายาทหลี่ซื่อหมินชันษา 28 พรรษาขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิถังไท่จง ทรงพระปรีชาสามารถทุกด้าน
ช่วงปลายรัชกาลได้เชิญซินแสชื่อหยวนเทียนกัง มาทำนายพระลักษณะขององค์ชายใหญ่ องค์ชาย4 (หลี่ไช่) และองค์ชายเล็ก (หลี่จื้อ) ปรากฏว่าหยวนเทียนกังได้ทำนายว่าองค์ชายเล็กจะได้ครองราชย์ ถังไท่จงจึงทรงตั้งองค์ชายเล็กเป็นรัชทายาทแทนองค์ชายใหญ่เมื่อถังไท่จงสวรรคตลงเมื่อปีค.ศ. 649 (พ.ศ. 1192) ขณะพระชนม์ 50 พรรษา องค์รัชทายาทหลี่จื้อจึงขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิถังเกาจง
พระบรมวงศานุวงศ์
- พระราชบิดา: จักรพรรดิถังเกาจู่
- พระมเหสี
- พระสนม
- พระสนมเหวยกุ้ยเฟย
- พระสนมหยางซูเฟย
- พระสนมยินเต๋อเฟย
- พระสนมสวี่เสียนเฟย
- พระสนมหลิวเสียนเฟย
- พระราชโอรส
- หลี่เฉิงเฉียน
- หลี่ไท่
- หลี่อิ้ว
- หลี่เจิน
- หลี่จื้อ
- หลี่เสิ่น
- พระราชธิดา
- องค์หญิงเหวินเฉิง (พระธิดาบุญธรรม)
อ้างอิง
- ↑ Directory of historical figures. Pasadena: Salem Press. 2000. p. 613. ISBN 978-0-89356-334-9.
- ↑ McNair, Amy (2007). Donors of Longmen: Faith, politics and patronage in medieval Chinese Buddhist sculpture. Honolulu: University of Hawaii press. p. 88. ISBN 978-0-8248-2994-0.
ก่อนหน้า | จักรพรรดิถังไท่จง | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
จักรพรรดิถังเกาจู่ | จักรพรรดิจีน (พ.ศ. 1170 - พ.ศ. 1192) |
จักรพรรดิถังเกาจง|} |